พระนารายณ์ทรงสุบรรณ(นารายณ์ทรงครุฑ) พระอาจารย์ตี๋เล็ก วัดเขาสุนะโม ปี2560 (เลขมงคล 249)

(( พระนารายณ์ทรงสุบรรณ ))

 

 พระอาจารย์ตี๋เล็ก วัดเขาสุนะโม ปี2560

 

++ เนื้อว่าน

 

++ ฝังตะกรุด

 

++ เลขมงคล 249

 

=============================

 

พระนารายณ์ทรงสุบรรณ หรือ ‘นารายณ์ทรงครุฑ’

 คือเทพแห่งชัยชนะ ความมั่นคง และเมตตา"  

 

ผู้ที่ควรบูชา คนที่กำลังทำธุรกิจ  เริ่มงานใหม่  หรือต้องการก้าวหน้าในหน้าที่การงาน 

 

พระนารายณ์ทรงสุบรรณมีพุทธคุณเด่นด้าน ชัยชนะ ความมั่นคง การงาน การเงิน และการขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย 

เชื่อว่าช่วยให้ธุรกิจรุ่งเรือง ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ปัดเป่าอุปสรรค ศัตรู และสิ่งไม่ดีต่างๆ 

รวมถึงปกป้องคุ้มครองจากภยันตราย ผู้บูชาควรตั้งมั่นอยู่ในคุณธรรมและสัจจะ 

 

คาถาบูชาพระนารายณ์ทรงครุฑ

นะโม 3 จบ

เอกะจักขุ นาฬิเกฬา สุริยะประภา ราหูคาหา 

สัตตะรัตนสัมปันโณ มณีโชติ ระโสยะถา 

สุวัณณะ รัชชะตะ สะมิทธา อะหังวันทามิ เมสะทา 

 

ซึ่งให้คุณทางด้านโชคลาภ ค้าขาย และอำนาจเดชะบารมี 

ให้ท่องภาวนาคาถานี้อยู่เสมอ ครบ 12 จบ 

 แล้วอธิษฐานขอให้สิ่งที่ต้องการ 

 

===================================

 

 

เพราะเหตุใดทำไมพระนารายณ์ จึงทรงอยู่บนสุบรรณ(ครุฑ) ?

หนึ่งในเทพที่เปรียบดั่งเทพเจ้าแห่งความเมตตา ปัดเป่าความชั่วร้ายได้และยังทรงเป็นเทพผู้ปกปักรักษาธุรกิจให้เจริญรุ่งเรืองแก่ผู้ที่คิดดีทำดี ที่ผู้ทำอาชีพธุรกิจส่วนตัวนิยมมาสักการะบูชาก็คือ “พระนารายณ์ทรงสุบรรณ” ณ บริเวณด้านหน้าโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล 

 

และเหตุที่ท่านทรงอยู่บนครุฑ นั้นเนื่องมาจากตำนานที่บอกเอาไว้ว่าครั้งหนึ่ง พญาครุฑได้เข้าไปขโมยน้ำอมฤตของพระอินทร์ เกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่แต่ก็เป็นฝ่ายพระอินทร์ที่พ่ายแพ้ไป ร้อนไปถึงพระนารายณ์ที่ต้องลงมาช่วยปราบ ยื้อกันดุเดือดอยู่นานแต่ไม่มีใครแพ้ใครชนะ ทั้งสองจึงยุติศึกและทำสัญญาเป็นพันธมิตรต่อกัน โดยพญาครุฑสัญญาจะเป็นพาหนะให้พระนารายณ์ตลอดไป ส่วนพระนารายณ์ก็ได้ให้ความเป็นอมตะแก่พญาครุฑซึ่งไม่มีใครมาทำลายได้นั่นเองค่ะ

 

หากจะมาสักการะบูชาพระนารายณ์ทรงสุบรรณ อย่าลืมเตรียม เครื่องสักการะสีเหลือง เช่น พวงมาลัยดอกดาวเรือง ผ้าไทย และขนมไทย เช่น ทองหยิบ ทองหยอด มาบูชากันนะคะ   

ข้อมูล : masterorg.wu.ac.th

 

------------------

 

🔺พระนารายณ์ทรงครุฑ มีพุทธคุณสูง หนุนดวงเสริมดวง เพราะเป็นรูปจำลองเทพเจ้าสูงสุด และยังมีคุณด้านมหาปราบ ปราบสิ่งเลวร้ายขจัดทำลาย อุปสรรคขวากหนาม เคราะห์กรรมที่อุดตันกั้นความเจริญก้าวหน้าของชีวิต รับราชการเจริญก้าวหน้า เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง

 

🔺บางคนมีบ้านช่อง ที่อาศัยร้านค้า บริษัทอยู่ในทางอับ ทางตัน ทางสามแพร่ง อยู่ไปไม่เจริญก้าวหน้า ค้าขายไม่ดี กิจการมีแต่ทรงกับทรุด ถูกคุณไสย คุณคนเขาทำของใส่ มีอาการซึมเศร้าบ้าง คุ้มคลั่งบ้าง หรือพวกต้องธรณีสาร คือการทำงานไม่ค่อยสำเร็จ รับราชการ หรือทำงานบริษัท ไม่ค่อยก้าวหน้า เจ้านายไม่รักใคร่ ลูกน้องไม่เคารพ เพื่อนฝูงชอบแทงข้างหลัง ทำอะไรโดนขัดแข้งขัดขาตลอด หรือพวกชอบบนบานศาลกล่าว บนแล้วไม่แก้ แก้ไม่หมด แก้ไม่ถูก หรือมีกรรมหนักที่เราเคยสร้างไว้จะรู้ตัวก็ดี ไม่รู้ก็ดี มาให้ผล พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก ทำมาหากินติดขัดตลอดจะดีขึ้นบ้าง ก็ไม่เต็มที่เดี๊ยวก็แย่อีกแล้ว ท่านว่าเป็นตัวเคราะห์เสวยอายุ ตัวเคราะห์ให้ผลหรือพระราหูกินดวง ให้บูชาพระนารายณ์ทรงครุฑ เพื่อทำลายอาถรรพ์

 

 

 

=======================================

 

 

ประวัติพระอาจารย์ตี๋เล็ก  สำนักปฏิบัติธรรมเขาสุนะโม จ.เพชรบูรณ์

 

มาทำความรู้จัก-พระอาจารย์ตี๋เล็ก 

พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง "สายเหนียว" 

“หลวงพ่อจอน”เล่าเคยโดนลองของ

เอ่ยขึ้น “อาจารย์ตี๋เล็กอย่ามาล้อเล่น”

 

 พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งสำนักปฏิบัติธรรมเขาสุนะโม ต.พุทธบาท อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์  “พระอาจารย์ตี๋เล็ก ปัญญาสาโร” ปัจจุบันได้ชื่อว่าเป็นพระเกจิอาจารย์สายเหนียว ซึ่งว่ากันว่าวัตถุมงคลของ พระอาจารย์ตี๋เล็ก มีประสบการณ์ยิงแทงไม่เข้า และยังเด่นด้านเมตตามหานิยมโชคลาภอีกด้วย ซึ่งลูกศิษย์ลูกหาทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศศรัทธาอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน

 

มีเรื่องเล่าจากปาก"หลวงพ่อจอน" พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเขาใหญ่ ครั้งหนึ่ง พระอาจารย์ตี๋เล็ก นิมนต์ไปนั่งปรกด้วย หลังทำพิธีเสร็จก็ออกมาขึ้นรถจะกลับวัด ปรากฎว่าคนขับรถไม่สามารถจะขับรถออกไปได้ คล้ายกับรถติดหล่ม ล้อหมุนจะรถไม่วิ่ง หลวงพ่อจอน จึงเอ่ยขึ้นว่า "อาจารย์ตี๋เล็กอย่ามาล้อเล่น" เท่านั้นแหละรถวิ่งออกไปได้ 

มันเป็นเรื่องแปลกแต่จริง ถ้าไม่เชื่อไปถามหลวงพ่อจอนดูได้

 

ตามประวัติ “พระอาจารย์ตี๋เล็ก” เป็นชาวเพชรบูรณ์ เกิดวันพฤหัสบดีที่ 10  พฤษภาคม 2522 ตรงกับวันเพ็ญเดือน ๖ (วันวิสาขบูชา) แม้ว่าอายุไม่มากนัก แต่ตั้งใจอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนาด้วยใจจริง 

 

ท่านบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุไม่มากนัก ก็ชอบถือธุดงควัตร เดินทางไปทั่วสารทิศ ทั้งป่าภาคเหนือ ป่าพม่า เติบใหญ่ก็ดั้นด้นไปฝากตัวเป็นศิษย์พระเกจิคณาจารย์ชื่อเสียงโด่งดังระดับประเทศมากมาย เช่น หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี, หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม, หลวงปู่ขุ้ย วัดซับตะเคียน จ.เพชรบูรณ์, หลวงปู่เทียน อกาลิโก(สายหลวงปู่มั่น) จ.ชัยภูมิ, หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน รวมทั้งได้ศึกษาสรรพวิชาบางส่วนจากพระเกจิอาจารย์ผู้สืบสานวิชาในสายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า, หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ, หลวงปู่รุ่ง วัดท่ากระบือ จนเชี่ยวชาญวิชาอาคม   

 

เมื่อคราว พระอาจารย์ตี๋เล็ก ออกธุดงค์ผ่านเข้า จ.ชัยภูมิ ได้มีโอกาสพบพระอริยสงฆ์ที่กล้าแกร่งด้วยอิทธิฤทธิ์ คือ หลวงปู่เทพโลกอุดร ซึ่งท่านไม่ได้บอกว่าเจอในญาณสมาธิหรือเจอในสถานะใด บอกเพียงว่า หลวงปู่เทพโลกอุดรได้เมตตาถ่ายทอดวิชาและสอนวิธีปรับขันธ์ธาตุ ทำให้เกิดความสมดุล เป็นเหตุผลสำคัญที่พระอาจารย์สามารถรวมวิชาคาถาอาคมต่าง ๆ เข้าเป็นหนึ่งเดียวกันได้ ดังนั้นการอธิษฐานจิตวัตถุมงคลทุกรุ่นทุกแบบ จึงมีพุทธคุณครอบจักรวาล

 

ในคราวที่ท่านธุดงค์ไป จ.ศรีสะเกษ ได้รู้จากชาวบ้านถึงปาฏิหาริย์และบารมีของ หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน พระอภิญญาอาคมแกร่งกล้า ท่านก็เพียรไปเฝ้าเพื่อฝากตัวเป็นศิษย์พร้อมพระธุดงค์และสามเณรหลายรูป ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะมีโอกาสไปกราบหลวงปู่สรวง ซึ่งหลวงปู่พิจารณาแล้วเห็นว่า พระอาจารย์ตี๋เล็ก มีท่าทางมุ่งมั่นและขยันขันแข็ง สนใจใฝ่เรียนรู้ หลวงปู่จึงเมตตาให้พักอยู่ด้วยนานถึง 2 ปี 8 เดือน ได้ศึกษาวิชาอาคมต่าง ๆ จากปริศนาธรรม ซึ่งยากเกินกว่าปุถุชนธรรมดาจะเข้าใจ แต่พระอาจารย์ตี๋เล็ก สามารถศึกษาได้ทั้งหมดอย่างน่าอัศจรรย์ ส่วนพระภิกษุและสามเณรรูปอื่น ๆ ได้เพียงบางวิชาเท่านั้น

 

ปัจจุบัน พระอาจารย์ตี๋เล็ก พำนักที่สำนักปฏิบัติธรรมเขาสุนะโม ต.พุทธบาท อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ทางเข้าอยู่ด้านหลังวัดพระพุทธบาทชนแดน โดยถนนทางเข้าสำนักปฏิบัติธรรมเป็นลูกรังเต็มไปด้วยหลุมบ่อ และคดเคี้ยวไปมา หน้าฝนหนทางเละเป็นโคลน บริเวณทางขึ้นท่านทำบันไดเอาไว้เป็นช่วง ๆ ไม่สามารถก่อสร้างให้แล้วเสร็จในคราวเดียว เนื่องจากสำนักสงฆ์ขาดแคลนทุนทรัพย์ รวมทั้งกุฏิ ศาลา ห้องน้ำ บนเขาสุนะโม ก็สร้างแบบง่าย ๆ หลังคามุงสังกะสีแต่เหมาะแก่การบำเพ็ญเพียรแสวงหาหนทางแห่งการพ้นทุกข์โดยแท้ เพราะสงบและสันโดษ เฉกเช่นการธุดงค์รุกขมูล ทำให้พระอาจารย์และพระภิกษุอื่น ๆ มีเวลาปฏิบัติบำเพ็ญสมถกรรมฐานได้อย่างเต็มที่ ทั้งเวลากลางวันและเวลากลางคืน หัวค่ำนั่งสมาธิบนเขาอันเงียบสงบ ยามดึกก็ได้ผ่อนคลายอิริยาบถด้วยการเดินจงกรมพิจารณาอานาปานสติกรรมฐานจนใกล้รุ่ง ก่อนฟ้าสางท่านจะทำสมาธิเพ่งกสิณไฟ ซึ่งเป็นกสิณที่ท่านชำนาญที่สุด

  

วัตถุมงคลต่าง ๆ ที่พระอาจารย์ตี๋เล็ก อนุญาตให้จัดสร้างมอบเป็นที่ระลึกแก่ญาติโยมที่เคยบริจาคทำบุญมีหลายรุ่นหลายแบบ ล้วนเข้มขลังและท้าพิสูจน์ หรือ “ลองของ” กันมาแล้ว อาทิ เหรียญรุ่นชนะชัย และตะกรุดลูกปืน อันลือลั่น มีลูกศิษย์หลายรายแอบใช้ปืนยิง ทุกคนต่างทึ่งในพุทธคุณ “สุดยอดมหาอุด” แถมยังมีประสบการณ์มากมาย ใครนำไปบูชาติดตัว นอกเหนือจาก คงกระพันชาตรี มหาอุด แคล้วคลาด ปลอดภัยแล้ว ยังสุดยอดเมตตามหานิยมอีกด้วย

 

(ขอบคุณข้อมุลจาก หนังสือพิมพ์ คัมภีร์นิวส์)

 

======================================

 

"สำนักปฏิบัติธรรมเขาสุนะโม" นิมิตจากคนลับแล

 

สำนักปฏิบัติธรรมเขาสุนะโม ต.หนองเล้าไก่ อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ตั้งขึ้นเมื่อประมาณเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๔๔๙ โดย พระครูสมุห์พินิต ปัญญาสาโร หรือ พระอาจารย์ตี๋เล็ก ได้เดินธุดงค์ ร่วมทางกับพระ ๗-๘ รูป เวลาประมาณ ๘ โมงเย็น ได้พบตากับยายเหมือนหาบตะกร้า ได้เข้ามาบอกว่า นิมนต์ให้ท่านปักกลดตรงเนินปลวกข้างหน้านี้หน่อย มีหมู่บ้านอยู่ประมาณ ๓๐-๔๐ หลัง ตอนเช้าจะได้มีชาวบ้านมาใส่บาตร ทำบุญกัน

 

พระอาจารย์ตี๋เล็กจึงหาที่ปักกลด แต่พอหันกลับไป ตากับยายได้หายไปแล้ว ก็เลยปักกลด ณ ที่นั้น และทำการสวดมนต์เจริญสมาธิ ช่วงกลางคืนได้ยินเสียงปี่และเสียงระนาดทั้งคืน ก็ได้เห็นดวงไฟเหมือนมีหมู่บ้านอยู่จริง แต่ตอนเช้ากลับไม่มีบ้านสักหลังเลย ท่านจึงสงสัยว่า จะเป็นหมู่บ้านลับแลของคนที่มีสัจจะ ท่านได้ปักกลดอยู่ ๒-๓ วัน แล้วเดินธุดงค์ต่อไปผ่านบ้านหนองแม่นา ไปยังเขาค้อ เพื่อจะต่อไปยังภูเรือและภูกระดึง จ.เลย

 

หลังจากพระอาจารย์ตี๋เล็กได้เข้าอบรมกรรมฐานที่ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ กับหลวงพ่อแสงเทียน อกาลิโก (เป็นอาจารย์หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม พระสายกรรมฐาน) เป็นเวลา ๔๕ วัน

    พอวันที่จะลากลับ ได้มีโยมมานิมนต์เพื่อจะถวายที่ให้ท่าน

    แต่เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก เพราะที่ดินที่โยมถวายนั้นเป็นที่เดียวกับที่เจอตากับยาย นิมนต์ให้ปักกลด ตอนเดินธุดงค์นั่นเอง

    หลังจากนั้นก็ได้ดำเนินการ ขออนุญาตสร้างสำนักสงฆ์ ได้รับการอนุเคราะห์จากพระเถระผู้ใหญ่ให้การช่วยเหลือเป็นอย่างดี

 

ด้วยแรงที่ท่านได้ตั้งจิตอธิษฐานใว้ ในการสร้างสำนักสงฆ์ครั้งนี้ ขอให้ผู้ที่ได้ทำบุญร่วมกันมาได้มาช่วยกันสร้างสำนักสงฆ์แห่งนี้มีความเจริญรุ่งเรือง พัฒนายิ่งขึ้นไปร่วมกัน แม้สถานที่จะอยู่ในป่าเขาก็ตาม แต่ก็มีญาติโยมมาร่วมทำบุญกันไม่ขาดสาย ด้วยแรงอธิษฐานที่ตั้งจิตไว้ เพราะเงินที่ได้มาท่านนำมาสร้างสำนักสงฆ์ทุกบาททุกสตางค์