จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | 1 ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | วัวธนู เสือ สิงห์ คชสีห์ พญามอม |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
(( เสือ กัลปังหาแดง ))
ศิลปะเสือหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย
(หลวงปู่นน สำนักสงฆ์เขาพรานธูป
ปลุกเสก)
++ ตัวใหญ่
++ จารมือ ทุกตัว
(( พุทธคุณ ))
เน้นหนักด้านมหาอำนาจ เสริมบารมี กับร้ายกลายเป็นดี นอกจากนี้ยังมีพุทธคุณ ด้านเมตตามหานิยม คงกระพัน แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวงอีกด้วย
++ หลวงปู่ ((จารมือ ทุกตัว))
++ เข้าพิธีปลุกเสก เสาร์๕
(( กัลปังหา ))
กัลปังหาซึ่งบางท่าน ถือเป็นเคล็ดเพราะเรียกคล้ายๆกับ"กันปัญหา" ขับไล่สิ่งชั่วร้าย กันภูติผีปีศาจ แบ่งเป็น กัลปังหาดำ กัลปังหาทองดำ กัลปังหาขาวและกัลปังหาแดง ถ้าเราแบ่งพุทธคุณและความหายาก จะได้ดังนี้
1. กัลปังหาดำ ยังพอหาได้ไม่ยาก ราคาขึ้นอยู่กับความใหญ่และความสวย
2. กัลปังหาทองดำ หายากมาก ราคาขึ้นอยู่กับความใหญ่และความสวยและมีสีทองเคลือบมากหรือน้อย พุทธคุณสูงกว่าสีดำ
3. กัลปังหาสีขาว ยิ่งหายากกว่ากัลปังหาดำ และกัลปังหาทองดำอีก ราคาขึ้นอยู่กับความใหญ่ความสวยของเนื้อ พุทธคุณทุกด้านสูงกว่า กัลปังหาดำ กัลปังหาทองดำ
4. กัลปังหาแดง สุดยอดหายาก ของแท้สีจะออกซีดเนื้อหยาบไม่ค่อยสวย แต่สุดยอดในทุกๆด้านหายากมากๆ ใครมีไว้จะเก็บและหวงแหนมาก
ในปัจจุบันนี้กัลปังหาที่ยังมีให้พบเห็นอยู่จะมีแต่กัลปังหาดำเท่านั้น กัลปังหาทองดำ กัลปังหาขาว กัลปังหาแดงจะไม่ค่อยได้พบเจอบ่อยนักและราคาจะแพงมาก ในสมัยก่อนชาวเผ่ามายาวีใช้เป็นทำเครื่องรางและเครื่องประดับติดตัว ใช้กินแก้ยาสั่งได้ วิธีใช้ เมื่อรู้ตัวว่าโดนยาสั่งให้ฝนกับน้ำมะนาวกินก็จะอาเจียรออกมา ป้องกันแมงกะพรุน ถอนพิษสัตว์กัดต่อย
แต่ถ้าเมื่อนำมาปลุกเสกด้วยพลังจิต
- กัลปังหาแดง พุทธคุณจะเด่นด้าน เมตตามหานิยม คงกระพัน มหาอุด ลางสังหรณ์เตือนภัย หยั่งรู้ฟ้าดิน
================================================================
***การที่จัดสร้างเครื่องรางหรือวัตถุมงคลรูปแบบเสือนั้น
หาใช่จะให้ผู้ศรัทธานำไปใช้แล้วไปเป็นไอ้เสือ
หรือเป็นโจร เพียงแต่ต้องการเอาลักษณะของเสือ
การถือเอาสัญชาตญาณของเสือ ว่าเสือเป็นสัตว์ที่มีพลังอำนาจมาก เป็นใหญ่และเป็นสัตว์ที่เอาตัวรอดได้ดี คล่องแคล่ว
โบราณท่านจึงยึดถือเพื่อมาเป็นเคล็ดในการสร้างวัตถุมงคลจากเสือหรือวัตถุมงคลรูปเสือ
นับว่าเป็นเครื่องรางที่มีความเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไกลอยู่บ่อยๆ
และผู้ที่ทำงานเสี่ยงอันตรายหรือว่าล้อมไปด้วยศัตรูคนที่คิดไม่ดี
หรือต้องการบูชาเพื่อเพิ่มอำนาจวาสนาบารมี ให้ดูน่าเกรงขามได้อีกด้วย
โบราณาจารย์ท่านว่าย่อมเป็นที่เกรงขามและตบะอำนาจแก่ผู้คนดีนักแล
และถ้าหากนำติดตัวไปหนแห่งใด ไม่ว่าจะใกล้หรือไกลก็ตามแต่
หรือจะเดินทางเข้าป่าเข้าเขา สัตว์ร้ายหรือภูติผีปีสาจ จะไม่กล้าทำอันตรายใดๆ
เพราะคนโบราณเชื่อว่าเสือยังสามารถป้องกันภูตผีปีศาจและพลังร้ายได้
จะมักใช้เป็นเครื่องรางกันภูตผีปีศาจหรือเสนียดจัญไรได้ดีนักแล
วัตถุมงคลที่สร้างจากเสือหรือเป็นรูปเสือจะเป็นที่นิยมในหมู่คนสะสมที่ชอบเครื่องรางของขลัง
ครูอาจารย์ต่างๆจึงมักชอบสร้างเสือเป็นเนื้อโลหะต่างๆ
จากนั้นก็จะนำมาปลุกเสกและซึ่งมีอุปเท่ห์ ความขลังความศักดิ์สิทธิ์ใช้ได้เหมือนกัน...
××××××××××××××××××××××
((ประวัติ))
หลวงปู่นน จันทวิโร-อายุ 93ปี
วัดเขาพรานธูป จ.ประจวบคีรีขันธ์
ประวัติของ หลวงปู่นน จันทวิโร
วัดเขาพรานธูป ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
อายุย่าง 93 ปี พระเกจิอาจารย์เรืองอาคมแห่งหัวหิน น้องชายแท้ๆของหลวงพ่อยิด อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองจอก อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ
ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญสามารถเสกปลัดขิกดิ้นได้เช่นเดียวกับหลวงพ่อยิด
ท่านเกิดในตระกูล "กล่ำเรือง" เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2471 ปีมะแม ที่บ้านนาพรม อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก
เมื่ออายุ 21 ปีได้อุปสมบทที่วัดประดิษฐวนาราม(วัดนาพรม) จ.เพชรบุรีโดยมี หลวงพ่อเพลิน วัดหนองไม้เหลือง เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังบวชได้อยู่ปรนนิบัติ "หลวงพ่อหวล จันทสิริ" เจ้าอาวาสวัดนาพรม ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุง พร้อมๆกับหลวงพ่อยิด ซึ่งหลวงพ่อหวลได้ถ่ายทอดวิชาทางด้าน สมุนไพร, วิชาทำปลัดขิก และการลงจารอักขระให้
ทั้งนี้ หลวงพ่อหวลมีศักดิ์เป็นน้าและพระกรรมวาจาจารย์ของหลวงยิด
อีกทั้งเป็นอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทถ่ายทอดวิชาทำปลัดขิกให้กับหลวงพ่อยิดจนมีชื่อเสียงโด่งดังกล่าวขานอยู่จนถึงทุกวันนี้อีกด้วย
หลวงพ่อนนได้จาริกแสวงบุญอยู่นาน จึงได้กลับมาที่วัดหนองจอก ซึ่งในขณะนั้น หลวงพ่อยิดท่านมีชื่อเสียงด้านปลัดขิก และมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ด้วยความที่มั่นใจในความแก่กล้าทางวิชาคมของหลวงพ่อนนท์ และเป็นศิษย์รุ่นน้องร่วมอาจารย์เดียวกัน หลวงพ่อยิด จึงให้หลวงพ่อนนท์ช่วยลงอักขระลงบนปลัดขลิก ซึ่งการลงอักขระนี้ หลวงพ่อยิดต้องเลือกเฟ้นคนที่ไว้ใจได้ และมีความสามารถ
เพื่อให้วัตถุมงคลมีความศักดิ์สิทธิ์
หลังจากหลวงพ่อยิดมรณภาพ หลวงพ่อนนท์ จึงออกธุดงค์ต่อและได้ร่ำเรียนศึกษาวิชา รักษากระดูก และวิชาแก้คุณไสย จากนั้นได้มาจำพรรษาที่วัดมาลัยทับใต้ และที่วัดนี้เอง ท่านได้สร้างปลัดขลิกในนามของท่านเอง เพื่อแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน โดยท่านได้อยู่พัฒนาวัดมาลัยทับใต้ต่อมาอีกหลายปี จนเสร็จสิ้นสมบูรณ์ จึงได้เตรียมตัว จาริกอีกครั้ง
ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างมาขอให้ท่านมาอยู่เป็นประธานช่วยจัดสร้างสำนักสงฆ์เขาพรานธูป อ.หัวหิน หลวงพ่อนนท์จึงได้มาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์เขาพรานธูป ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2550 เป็นต้นมา
หลวงปู่นนเล่าให้ฟังว่า ตอนที่มาอยู่นั้น สำนักสงฆ์แห่งนี้ปลูกเป็นเพิงหมาแหงน พอหลบแดดหลบฝนได้เท่านั้น เหมือนกระท่อมชาวบ้านที่มาทำสวนทำไร่ ส่วนเครื่องใช้อื่นๆ ไม่ต้องพูดถึง มีเหมือนไม่มี คือ ใช้ได้ไม่สมบูรณ์แต่ก็ต้องใช้
ตอนที่มาอยู่สำนักสงฆ์แห่งนี้ มีเพียงแค่ย่ามกับบาตรเท่านั้น ครั้งแรกตั้งใจมาพักภาวนาไม่กี่วันก็จะไป แต่ระหว่างภาวนานั้นเกิดนิมิตว่า มีโบสถ์ มีศาลา มีกุฏิอยู่อย่างสมบูรณ์ จึงตั้งใจอยู่ต่อเพื่อสร้างเป็นวัด เริ่มจากพิมพ์ซองบอกบุญ 1,000 ใบ แจกชาวบ้านแจกไปเรื่อยๆ ไม่ได้ออกวัตถุมงคลใดๆ เมื่อลูกศิษย์รู้ข่าวก็มาช่วยกันคนละเล็กคนละน้อยตามกำลังศรัทธา มีน้อยสร้างน้อย มีมากสร้างมาก สร้างไปสร้างจนเสร็จสมบูรณ์กลายเป็นวัดในระยะเวลา 6 ปี
ส่วนที่มาของชื่อ"เขาพรานธูป"นั้น ในอดีตพื้นที่นี้เป็นอุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด มีนายพรานมาหาสัตว์ป่าจำนวนมาก เมื่อได้แล้วก็จะบรรทุกเกวียนออกไป แต่ด้วยเหตุใดไม่ทราบเมื่อผ่านช่วงเขาบริเวณนี้ ธูปซึ่งเป็นส่วนประกอบของเกวียน จะต้องหลุดต้องหัก พรานต้องขึ้นไปตัดไม้มาทำธูปเกือบทุกครั้ง บ่อยครั้งเข้าจึงเรียกว่า “เขาพรานธูป” ไม่ได้เกี่ยวกับธูปเทียนที่บูชาพระแต่อย่างใด
หลวงปู่นนท่านสามารถเสกปลัดขิกดิ้นได้เช่นเดียวกับหลวงพ่อยิด ด้วยกิตติศัพท์อันเลื่องลือ
ทำให้ท่านได้รับกิจนิมนต์ ร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีลูกศิษย์มากมาย มีผู้คนเข้าไปกราบท่านไม่ขาดสาย ผู้คนต่างได้รับประสบการณ์ดีๆ ที่เกิดจากท่าน พระเครื่องของท่านมากมาย และเครื่องรางของท่านเป็นที่นิยมอย่างแผ่กว้างไปเรื่อยๆ ถึงต่างประเทศ
°°° วัตถุมงคลของหลวงปู่นนที่ขึ้นชื่อคือ ปลัดขิก ที่สร้างปาฏิหาริย์บินได้ เป็นที่นิยมกว้างขวางในหมู่ทหารและตำรวจ เพราะเชื่อกันว่าใครมีปลัดขิกของหลวงปู่นนติดตัวแล้วจะดีเด่นในด้านเมตตามหานิยม และแคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง อีกทั้งมีผู้ประสบเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งแคล้วคลาดและโชคลาภ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |