สีผึ้งช้างตามโขลง (สีผึ้งน้ำมันช้างตกมัน) อาจารย์เหลี้ยม นาโยง สำนักไชยมงคล จ.ตรัง ปี ๒๕๖๔

สีผึ้งช้างตามโขลง (สีผึ้งน้ำมันช้างตกมัน) อาจารย์เหลี้ยม นาโยง สำนักไชยมงคล จ.ตรัง ปี ๒๕๖๔

สีผึ้งช้างตามโขลง(สีผึ้งน้ำมันช้างตกมัน) สร้างปลายปี พ.ศ.๒๕๖๔

จัดสร้างโดย...สำนักไชยมงคล (อาจารย์เหลี้ยม นาโยง) จ.ตรัง

สีผึ้งช้างตามโขลงหุงด้วยน้ำมันช้างตามโขลงน้ำมันช้างสายคนเลี้ยงช้างภาคใต้แท้ๆ ปัจจุบันอาจจะไม่เหลือผู้สืบทอดแล้ว มีเพียงการสืบทอดตำราเก็บไว้

สีผึ้งช้างตามโขลงชุดนี้ไม่มีผลเสียและไม่เข้าตัวแต่อย่างใด และไม่มีการผสมผงพรายหรือผงผีแต่อย่างใด ท่านที่นำน้ำมันชุดนี้ไปใช้จึงไม่ต้องกลัวว่าจะมีผลเสียจะเข้าตัวผู้ใช้หรือเกิดคุณในด้านลบ

#วิธีการใช้ ให้ทาริมฝีปาก ทาคิ้วทั้งสองข้าง

แล้วทาไรผม (ลูบขึ้นบน) จะเป็นเสน่หาแก่หญิงชาย

ทั้งหลาย ผู้ใดที่พบเห็นจะไม่เกลียดชังเราเลย จะเป็น

ที่รักที่พอใจของบุคคลที่ได้พบเห็น ดีนักแลท่านเอย...

พระคาถาในการใช้ สีผึ้งช้างตามโขลง

" นะชื่น โมชม พุทนิยม ธาชมเชย ยะมนุษย์ทั้งหลายเห้ย

ให้มารักกู นะสนิท โมพิศวง พุทหลงไหล ธาร่ำไห้ ยะมีใจ

ให้แก่กู โอม สิทธิครูสะหวาโหม "

*****************************************************

หัวเชื้อของน้ำมันช้างต่างๆที่กระผมได้นำมาผสมในการหุงน้ำมันช้างตามโขลงในครั้งนี้

เป็นน้ำมันดั้งเดิมที่กระผมได้รับมอบมาจากครูอาจารย์ต่างๆหลายๆท่าน

หนึ่งในหัวเชื้อเป็นน้ำมันช้างที่กระผมได้รับต่อมือมาจาก

📌 ตาหมอคล้อย จันทร์สร บ้านหนองเหรียง อ.นาโยง จ.ตรัง

( ซึ่งเป็นน้ำมันช้างที่ท่านได้สืบทอดมาจากครูอาจารย์ของท่านเอง )

ซึ่งเรื่องชื่อเสียงของตาหมอคล้อย จันทร์สรก็เป็นที่รู้จักกันดีในด้านเสน่ห์ เมตตามหานิยม

ซึ่งเรื่องนี้ตาคล้อยท่านจะเป็นที่ยอมรับกันทั่วและไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอน

น้ำมันช้างอีกชุดหนึ่งที่กระผมได้รับมอบต่อมือมาจาก

📌ตาหมอกลับ บ้านป่ายาง อ.นาโยง จ.ตรัง

ซึ่งตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่กระผมได้ไปมาหาสู่ เยี่ยมหากับท่านบ่อยครั้งมาก

เพราะบ้านของท่านกับบ้านของกระผมห่างกันเพียงประมาณ ๒ กิโลเท่านั้น

{ น้ำมันชุดนี้ตาหมอกลับได้รับมาจากพระทางพัทลุง (ท่านบอกชื่อแล้วแต่กระผมจำชื่อไม่ได้) }

และน้ำมันช้างอีกชุดกระผมได้รับมอบต่อมือมาจาก

📌มโนราห์อำนวย จำเริญศิลป์ บ้านควนสีนวล อ.นาโยง จ.ตรัง

ซึ่งมโนราห์อำนวยได้รับสืบทอดมาจากบิดา (หมอดวนหรือนายหนังดวน บ้านควนสีนวล)

และน้ำมันช้างตามโขลงที่กระผมได้รับมอบต่อมือมาจากมโนราห์พัว บ้านหนองขอน อ.นาโยง จ.ตรัง

(นำมันช้างชุดนี้กระผมเคยนำมาผสมสร้างขุนแผนขี่พะยูน)

*****************************************************

#น้ำมันช้างตามโขลง (น้ำมันช้างตกมัน)

การหุงน้ำมันช้างตามโขลงในครั้งนี้ กระผมได้เอาน้ำมันหอมและแป้งหอมมาผสมด้วย

ซึ่งน้ำมันหอมดังกล่าวได้นำไปปลุกเสก จำนวน ๔๐ วาระ มาผสมเป็นน้ำมันหลักในครั้งนี้ด้วย

และได้ผสมแป้งหอมที่ปลุกเสก จำนวน ๔๐ วาระ (ได้ปลุกเสกพร้อมกับน้ำมันหอม) ได้นำมาผสมในครั้งนี้ด้วย

(ซึ่งได้นำไปปลุกเสกพร้อมกับพระขุนแผนมหารำลึก ของ...มโนราห์สิทธินนท์ เทพจำเริญศิลป์ จ.ตรัง)

เพื่อเพิ่มอิทธิคุณของน้ำมันช้างตามโขลงชุดนี้ให้บังเกิดความขลังและมีคุณยิ่งๆขึ้นไป

ครั้งนี้ได้เขียนยันต์ช้างตามโขลง ซึ่งเป็นยันต์กลหนึ่งในวิชามหาเสน่ห์ของทางภาคใต้และของสำนักเขาอ้อ

กระผมได้เขียนลงในผ้าขาวและได้ม้วนใส่ไว้ในขวดน้ำมันทุกขวด จำนวน ๑ ผืน เพื่อให้เป็นไปตามครูอาจารย์กำหนด

น้ำมันช้างตามโขลงชุดนี้ไม่มีผลเสียและไม่เข้าตัวแต่อย่างใด และไม่มีการผสมผงพรายหรือผงผีแต่อย่างใด

ท่านที่นำน้ำมันชุดนี้ไปใช้จึงไม่ต้องกลัวว่าจะมีผลเสีย จะเข้าตัวผู้ใช้หรือเกิดคุณในด้านลบ

วิธีการใช้น้ำมันช้างตามโขลง ให้ทาคิ้วทั้งสองข้าง ทาไรผม (ใช้เพียงหยดเดียวเท่านั้น)

จะเป็นเสน่หาแก่หญิงชายทั้งหลาย ผู้ใดที่พบเห็นจะไม่เกลียดจังเราเลย

จะเป็นที่รักที่พอใจของบุคคลที่ได้พบเห็น ดีนักแลท่านเอย....

สำนักไชยมงคล (อาจารย์เหลี้ยม นาโยง จ.ตรัง) ผู้จัดสร้าง

==================================

ประวัติอาจารย์เหลี้ยม นาโยง

" #อาจารย์เหลี้ยม นาโยง "บ้านหนองเหรียง อ.นาโยง จ.ตรัง

ได้เรียนวิชาไสยศาสตร์ เรียนวิชาคาถาอาคมต่างๆ จากครูอาจารย์สายเขาอ้อหลายๆท่าน และ ได้บวชเรียนหนังสืออยู่ที่วัดประสิทธิชัย (ท่าจีน) จ.ตรัง

ได้เรียนวิชาในสายพ่อท่านวันจากหลวงพ่อสุทัตต์ เจ้าอาวาสในยุคนั้น

และได้เรียนการเขียนอักขระขอมจากอาจารย์โด่ง ปูขาว บ้านบางรัก

และเรียนคาถาอาคมจากพระอาจารย์มงคล วัดใหม่ท่าจีน

และจากนั้นก็ได้ย้ายไปอยู่ที่วัดเขาอ้อเป็นระยะเวลาหลายปี

และได้ไปต่อเรียนวิชาต่างๆจากอาจารย์ประจวบ คงเหลือ

และครูอาจารย์อีกหลายๆท่าน เช่น...หมอชัย บ้านปากคลองเก่า

หมอแซม บ้านดอนหลา

หมอผล บ้านปากคลองเก่า (เรียนยาสมุนไพร)

เมื่อสึกมาแล้วก็ยังได้ขวนขวายต่อเรียนวิชาต่างๆ

จากพระและอาจารย์ฆราวาสอีกหลายๆท่าน เช่น...

พ่อท่านแปลก วัดปากปรน

พ่อท่านเปี่ยม วัดลำปลอก

พ่อท่านล้อม วัดต้นปีก

พ่อท่านพลอย วัดหาดเลา

พ่อท่านเพียรชัย วัดช่องน้อย ฯลฯ

และได้เรียนจากฆราวาสเขาอ้ออีกหลายๆท่านด้วยกัน เช่น...

ตาส้อง ทองแจ้ง บ้านทุ่งส้าน

ตาแบน จันทร์แผ้ว บ้านควนยอดทอง

ตาลอบ หยูจีน บ้านควนสวรรค์

อาจารย์เชื้อ ทองคำแทน บ้านห้วยไทร

ตาเพิ่ม ชัยแก้ว บ้านไสบ่อลึก

ตาระพี บ้านสวน ฯลฯ

อาจารย์ฆราวาสที่สำคัญมากอีกท่าน คือหมอคล้อย จันทร์สร

เพราะท่านเป็นทั้งอาจารย์และเป็นทั้งเครือญาติและอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ห่างกันประมาณ ๓๐๐ เมตร

ตาคล้อยได้สอนสรรพวิชาอาคมต่างๆให้ตั้งแต่บวชเป็นสามเณร

และต่อเรียนจากตาคล้อยมาตลอดจนท่านเสียชีวิต

และยังได้เรียนวิชาจากครูอาจารย์ต่างๆอีกหลายๆท่าน...

((ประวัตินี้ได้เขียนขึ้นพอเป็นสังเขปเท่านั้น ))

*****************************************************

******อาจารย์อาจารย์เหลี้ยม นาโยงเล่าถึงการไปขอเรียนวิชากับครูบาอาจารย์ของท่านของท่าน

สมัยที่ผมไปเรียนกับครูอาจารย์ที่ท่านเป็นพระสงฆ์

บางหลวงพ่อที่ผมไปขอวิชาจากท่านนั้นๆ

กว่าจะได้เรียนท่านจะลองใจเราสารพัด

จะต้องซักจีวร บีบนวด ล้างบาตร หิ้วชั้น

ถากหญ้า กวาดขยะลานวัด ทำอื่นๆอีกมากมาย

ถ้าครูอาจารย์ท่านเป็นฆราวาสก็จะต้องขยันเทียวมาเทียวไป

ต้องไปอาสาสมัครรับใช้ครูอาจารย์ท่านในทุกอย่าง

ไม่ว่าท่านจะไปทำพิธีกรรมอะไรก็จะต้องไปด้วย ไปช่วยไปเป็นลูกมือท่าน

ไปอยู่ไปหาท่านอย่างสม่ำเสมอ จนท่านเห็นถึงความตั้งใจจริง

จะต้องทำตามที่ท่านสั่งกันแค่ตายหวางอีได้มาสักอย่างสักบท

บางอาจารย์ท่านให้คาถา ให้มนต์เรา แล้วท่านให้ท่องให้จำ

แล้วพาเราไปนั่งภาวนาคาถาอยู่ในป่าช้า

พอยามหัวรุ่งไม่รู้ว่าอาจารย์ท่านยกขึ้นไปเมื่อไหร่แล้ว

หารู้หม้ายว่าเรานั่งภาวนามนต์อยู่คนเดียวตั้งแต่ตีเท่าไหร่

ครูอาจารย์ท่านลุกขึ้นกลับไปนอนเสียเมื่อไหร่แล้วก็ไม่รู้

ครูอาจารย์บางท่านพาเราไปนั่งสมาธิหน้าเชิงตะกอน

ตอนที่ถ่านไฟเผาศพยังแดงๆอยู่เลยก็มีหลายครั้ง

แถมพอกลับมาถึงกุฏิท่านบอกว่าท่านลืมอาสนะ ลืมของไว้ในป่าช้าบ้าง

ท่านใช้ให้ไปเอาของให้ท่าน แต่ต้องไปเอาคนเดียว ใครจะไปเอาก็ได้

ผลสุดท้ายเมื่อเราอาสาไปเอา ของๆท่านๆก็ลืมเอาไว้จริงนั้นแหละ

แต่บนอาสนะหรือสิ่งของต่างๆจะตั้งทับกระดาษไว้แผ่นนึง

กระดาษแผ่นนั้นท่านก็เขียนคาถาเอาไว้ให้เราเอามาท่องมาเรียน

นี้คือภูมิธรรมและปัญญาต่างๆของครูอาจารย์ท่าน

สิ่งเหล่านี้คือการปรนนิบัติและการอยู่ด้วยกับครูอาจารย์

ท่านจะตรวจดูนิสัยใจคอ ดูใจและความอดทนของเรา

บางท่านทดสอบ ฝึกฝน ด้วยกลวิธีต่างๆมากมาย

อาจารย์บางท่านก็ ดุ ด่า ว่า เฆี่ยนตีสารพัด

เปรียบดั่งการตีเหล็ก เพื่อให้เป็นเหล็กเนื้อดีมีคุณภาพ

สิ่งเหล่านี้เป็นขั้นพื้นฐานต่างๆที่ศิษย์ควรจะเรียนรู้...

**********************************

นี้แหละ !!!

ก่อนที่จะเป็นอาจารย์เหลี้ยม นาโยง เยี่ยงทุกทุกวันนี้

หาใช่มีชื่อหรือดังมาได้เพราะใช้สื่อโซเชียล

หรือจ้างลงหนังสือ การลงนิตยาสารประชาสัมพันธ์ตัวเอง...