ไฮไลท์
พระผงหลวงปู่ศุข หลังกรมหลวงชุมพร รุ่น สร้างอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพร ปี 2555 (เนื้อว่านแดง)
พุทธคุณ : ครอบจักรวาลรอบด้าน ปกป้อง คุ้มภัย แคล้วคลาด มีโชคลาภ ค้าขาย มีเสน่ห์
จัดสร้างโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่
ในวโรกาสพิธีเปิดพระอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพร เคียงคู่เรือหลวงลันตา
ณ.บริเวณหน้าสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ปี 2555
ประกอบพิธีเข้มขลัง ถึง 3 วาระ พระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังร่วมปลุกเสกมากมาย
พิธีแรกวาระที่ 1 พร้อมพิธีหล่อนำฤกษ์พระองค์ท่าน ขนาด 2 เท่าองค์คริง
พิธีปลุกเสกในวระที่ 2 ปลุกเสกแบบเข้มขลัง ในอุสถหลังเหล่า วัดปากคลองมะขามเฒ่า
อุโบสถที่ประวัติศาสตร์จารึกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง หลวงปู่ศุข กับ กรมหลวงชุมพรฯ
รายชื่อพระเกจินั่งปรกอธิษฐานจิตพิธีพุทธาภิเษก วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ.2555 ณ.วัดปากคลองมะขามเฒ่า อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท
1. หลวงพ่อประทวน ปภากโร วัดปากคลองมะขามเฒ่า
2. หลวงพ่อสนั้น สุนันโท วัดกลางราชครูธาราม
3. พระมหาสุรศักดิ์ อติสกโข วัดประดู่
4. หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม
5. หลวงพ่อเกาะ อาภากโร วัดท่าสมอ
6. หลวงพ่อพร้า อตตสันโต วัดโคกดอกไม้
7. หลวงพ่อเจริญ วัดหลุมเข้า
8. หลวงพ่อพูน ฐิตสีโล วัดบ้านแพน
9. หลวงพ่อกำจัด วัดปาสัก
10. หลวงพ่อทอง วัดจันทนาราม
11. หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว
พิธีวาระที่ 3 พิธีอัญเชิญรูปเสมือนจริงพระองค์ท่าน ประดิษฐาน ณ.แท่นฐานพระอนุสาวรีย์
รายชื่อพระเกจินั่งปรกอธิษฐานจิต พิธีพุทธาภิเษก และพิธีอัญเชิญ พระบรมรูป กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ประดิษฐาน
วันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2555 ณ.บริเวณหน้าสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ จังหวัดกระบี่
1. พ่อท่านเอื้อม กตปุญโญ วัดบางเนียน จ.นครศรีธรรมราช
2. พ่อท่านเขียว กิตติคุโณ วัดห้วยเงาะ จ.ปัตตานี
3. พ่อท่านเอียด ครุธัมโม วัดโคกแย้ม จ.พัทลุง
4. พ่อท่านอิ้น ปภากโร วัดทับใหม่รักษ์ราชพัฒนา จ.สุราษฎร์ธานี
5. หลวงพ่อประทวน ปภากโร วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท
6. พ่อท่านคล้อย อโนโม วัดภูเขาทอง จ.พัทลุง
7. พระอาจารย์คง วัดบ้านสวน จ.พัทลุง
8. พระอาจารย์ชัย วัดมหาธาตุวชิรมงคล จ.กระบี่
9. หลวงพ่อลาภ สันตวัณโณ วัดเขากอบ จ.ตรัง
10. พระอาจารย์ทัย วัดวิหารสูง จ.พัทลุง
11. พระอาจารย์แดง โอภาโส วัดไร่บางตาวา จ.ปัตตานี
12. พ่อท่านหวานทวัดสะบ้าย้อย จ.สงขลา
13. หลวงพ่อบุญให้ ปทุโม วัดท่าม่วง จ.นครศรีธรรมราช
14. หลวงพ่อท้วม เขมจาโร วัดศรีสุวรรณ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี
15. พ่อท่านเอ็น วัดเขาราหู อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี
16. หลวงพ่อเงิน วัดโพรงงู จ.พัทลุง
17. หลวงพ่อสมนึก วัดหรงบล จ.นครศรีธรรมราช
18. พ่อท่านจาง วัดน้ำรอบ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี
19. พ่อท่านทอง วัดสถลธรรมาราม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี
20. พ่อท่านนิยม วัดนากุล จ.นครศรีธรรมราช
21. หลวงพ่อล้าน เขมจิตโต วัดขนาย จ.สุราษฎร์ธานี
-----------------------------------
คาถาบูชาหลวงปู่ศุข
ตั้งนะโม 3 จบ
โอม อิติอะระหังสุคะโต เกสโรนามะเต ประสิทธิเม อิหิอะโห นะโมพุทธายะ
คาถาภาวนาเวลาเดินทาง
ตั้งนะโม ๓ จบ
สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ มะอะอุ
-------------------------------
พระคาถาบูชาประจำพระองค์ “พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์”
ตั้งนะโม 3 จบ “โอมชุมพร จุติ อิทธิกะระนังสุขโข นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ มะอะอุ” (3, 5, 9 จบ)
==================================
หลวงปู่ศุข แห่ง วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท
ชื่อนี้คงไม่มีนักนิยมพระเครื่องผู้ใดปฏิเสธ ถึงความเกรียงไกรในชื่อเสียง และบารมีของท่านไปได้ และหากจะกล่าวถึงพระเครื่องมากมายหลายพิมพ์ ที่ท่านได้สรรค์สร้าง และปลุกเสกเอาไว้แล้วก็คงต้องจัดให้เป็นของดีวิเศษสุด ที่นักนิยมพระเครื่องต่างเสาะหา และยกย่องเทิดทูนให้เป็นพระเครื่องอันดับหนึ่ง ของวงการในขณะนี้เชื่อว่าคงมีผู้อ่านหลายๆ ท่านที่ทราบถึง ประวัติของหลวงปู่องค์นี้ กันดีอยู่แล้ว
ประวัติของ หลวงปู่ศุข เกสโร ท่านเกิดเมื่อวันจันทร์ เดือน 4 ปีจอ พ.ศ. 2390 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ณ บ้านข้างวัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ท่านเป็นบุตรของนายน่วม และนางทองดี เกศเวชสุรยา หลวงปู่ศุขเป็นบุตรชายคนโต มีพี่น้องต่อมาอีก 8 คน ครอบครัวเป็นชาวไร่ พออายุได้ 7 ขวบ บิดามารดาก็นำไปฝากกับพระอาจารย์ ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า (เดิมชื่อว่าวัดอู่ทองปากคลองมะขามเฒ่า) เพื่อเล่าเรียนหนังสือไทย และขอมการเล่าเรียนของท่านเชี่ยวชาญ แตกฉาน จนกระทั่งอายุได้ 18 ปี ก็อำลาวัดออกไปท่องเที่ยว หาประสบการณ์อยู่พักหนึ่ง และเมื่ออายุได้ 20 ปี ก็หวนกลับไปอุปสมบท เป็นพระภิกษุที่วัดโพธิ์ทองล่าง โดยมีอาจารย์เชย จันทสิริ เจ้าอาวาสเป็นพระอุปัชฌาย์
เมื่อบวชแล้วก็ได้ศึกษา พระธรรมวินัยจนบังเกิดศรัทธาดื่มด่ำ ในรสพระธรรม รอบรู้ในพระไตรปิฎก และเชี่ยวชาญทางวิปัสสนากรรมฐาน ด้วยเหตุที่ท่าน เป็นผู้แต่ฉานในภาษา และอักขระเลขยันต์มาก่อน จึงทำให้ท่านก้าวสู่โลกของไสยเวท และคาถาอาคมได้โดยง่ายมี พระอาจารย์เชยซึ่ง แก่กล้าทางพุทธาคม เป็นอาจารย์สอน วิปัสสนากรรมฐาน และการทำสมาธิจิตเพ่งกสิณจนแตกฉาน
การเพ่งกสิณและทำสมาธิจิต ของหลวงปู่ศุขเป็นพื้นฐาน ในการศึกษา พระเวทอาคมต่างๆ ซึ่งท่านมีจิตใจที่แน่วแน่ มุ่งปฏิบัติอย่างจริงจัง จนเกิดพลังจิตที่กล้าแข็งเป็นอย่างยิ่ง กสิณที่ฝึกประกอบด้วย อาโปกสิณ เตโชกสิณ วาโยกสิณ ปฐวีกสิณ อันเป็นธาตุทั้งสี่ คือ ดิน น้ำ ลม และไฟ จนสามารถแยกธาตุได้ด้วยความชำนาญ
นอกจากนี้หลวงปู่ศุขยังเป็น พระที่ใฝ่ธุดงค์เป็นนิจ และจากการที่ท่านธุดงค์รอนแรมไปในป่า เป็นเวลานานๆ ก็ทำให้ท่านได้พบ กับพระอาจารย์อีกหลายท่าน ที่หลวงปู่ศุขฝากตัวเป็นศิษย์ เล่าเรียนเวทมนต์คาถาเพิ่มเติม จนกล่าวกันว่าหลวงปู่ศุข คือจ้าวแห่งอาคมตัวจริง และเมื่อกลับสู่บ้านเกิดแล้ว ท่านก็ได้ครองวัดปากคลองมะขามเฒ่าสืบมา
ความเกรียงไกร ในพระเวทอาคมของหลวงปู่ศุขนั้น กล่าวกันว่าท่านสามารถปฏิบัติเห็นผลจริง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการผูกหุ่นพยนต์ เสกใบมะขามเป็นตัวต่อตัวแตน เสกให้คนเป็นจระเข้ เสกหัวปลีให้เป็นกระต่าย เป็นต้นนั้น ซึ่งล้วนแต่เป็นพระเวทย์ขั้นสูง ที่ไม่อาจพบเห็นได้ทั่วไป จึงไม่ต้องพูดถึงความเข้มขลัง ในระดับพื้นๆ ที่ท่านเจนจบ อยู่ในระดับสุดยอดพระเกจิอาจารย์อันได้แก่ คงกระพันหนังเหนียว มหาอุตม์เมตตามหาเสน่ห์ แคล้วคลาด โชคลาภ ย่นระยะทาง กำบังตัว เป็นต้น
ความยิ่งใหญ่ในด้านพุทธาคม ของหลวงปู่ศุขทำให้ท่านมี ลูกศิษย์ลูกหา เข้ามาฝากตัวด้วยจำนวนมาก ตั้งแต่ระดับชาวบ้านขึ้น ไปถึงชั้นเจ้านายเชื้อพระวงศ์ก็มี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่จะละเว้นไม่กล่าวถึง เป็นไปไม่ได้ก็คือ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ องค์บิดาแห่งกองทัพเรือไทย
ตำนานพุทธคุณหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
หลวงปู่ศุขได้ฝากตัวเป็นศิษย์ เรียนด้าน “รสายนเวท” หรือการเล่นแร่แปรธาตุ และเรื่องวิชาไสยศาสตร์ ได้แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ให้ปรากฏหลายครั้ง ศิษยานุศิษย์ที่เคยเห็นก็นำมาเล่าต่อกัน เช่น เรื่องการผูกหุ่นพยนต์ให้ล่องหนหายตัว การเดินบนผิวน้ำ การสะเดาะโซ่ตรวน ปลุกเสกผงวิเศษทำพระพิมพ์ พระเครื่องหลวงปู่ศุขจึงได้รับความนิยม
ตำนานอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์หลวงปู่ศุข ที่มีลูกศิษย์นำมาเล่าต่อๆ กัน (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหาต่อไปนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล) ได้แก่ การเสกหัวปลีให้เป็นสัตว์ เล่าต่อกันมาว่าหลวงปู่ศุขกำลังฝึกนำหัวปลีมาเสกเป็นกระต่าย โดยเรียนวิชามาจากพระสังวราเมฆ เสกคนให้เป็นจระเข้ มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่าทหารผู้หนึ่งถูกนำมาผูกเชือกรอบตัว ผลักลงน้ำ มีผู้คนยืนดู ทหารผู้นั้นกลายเป็นจระเข้
เรื่องเล่าที่ถูกเล่าขานกันมากที่สุด ก็คือการรูดใบมะขาม ท่องคาถาเสกให้เป็นตัวต่อ ทำให้การปลุกเสกพระเครื่องหลวงปู่ศุขทุกรุ่นที่ทำมาจากผงต่างๆ จึงได้รับความนิยม เชื่อว่าสามารถคุ้มครองภัยได้ตามความเชื่อของผู้ครอบครอง พระเครื่องหลวงปู่ศุข ราคาแพงที่สุดมีหลายรุ่น คาดว่ารุ่นที่เป็นภาพพิมพ์ลงลายมืออักขระด้านหลังเป็นพระเครื่องหลวงปู่ศุข ราคาแพงที่สุด เนื่องจากคนสมัยก่อนเกรงกลัวว่าภาพถ่ายพระเกจิจะเป็นสิ่งที่ลดทอนอายุของท่าน พระต่างๆ จึงไม่นิยมถ่ายภาพเก็บไว้ แต่หลวงปู่ศุขก็อนุญาตให้ถ่ายภาพท่านได้ และมีผู้นำไปพิมพ์ ด้านหลังภาพนี้มีลายมือของท่านเขียนกำกับไว้ จึงถือว่ามีความขลังมาก ปัจจุบันราคาหลักล้านทีเดียว ใครที่มีไว้ครอบครอง มักเก็บไว้ไม่ขาย
คาถาบูชาหลวงปู่ศุข
นะโม 3 จบ
โอม อิติอะระหังสุคะโต เกสโรนามะเต ประสิทธิเม อิหิอะโห นะโมพุทธายะ
คาถาภาวนาเวลาเดินทาง
นะโม ๓ จบ
สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ มะอะอุ
พระคาถาบทนี้มากด้วยความขลังและศักดิ์สิทธิ์เป็นเลิศ เป็นบทพระเวทคาถาของ “หลวงปู่ศุข เกสโร”
ปฐมบทสู่ความเป็นบรมครู คู่บารมี กรมหลวงชุมพรเขตร์อุดมศักดิ์ ศิษย์เอกหลวงปู่ศุข ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น “หมอเทวดา” นั่นคือ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เจ้าฟ้าที่สืบทอดวิทยาคุณและคัมภีร์ยาในพระนาม “หมอพร” ที่ทรงใช้ชีวิตบั้นปลายดำเนินรอยตามหลวงปู่ศุข โดยเป็น “หมอ” ที่มีพระอัจฉริยภาพด้านสมุนไพรอย่างเอนกอนันต์ จนได้รับพระราชสมัญญาว่า “พระบิดาแพทย์แผนไทย”
===========================================================
“หลวงปู่ศุข” พระเกจิแห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า ที่ “กรมหลวงชุมพรฯ” ศรัทธาและฝากตัวเป็นศิษย์
“กรมหลวงชุมพรฯ” หรือ “เสด็จเตี่ย” ผู้มีบทบาทวางรากฐานกองทัพเรือของไทย ทรงมีพระเมตตาและมีพระอุปนิสัยห้าวหาญ ทรงสนพระทัยเรื่องพุทธคุณ กระทั่งทรงมีโอกาสได้พบ “หลวงปู่ศุข” พระเกจิชื่อดังแห่ง “วัดปากคลองมะขามเฒ่า” ทรงศรัทธาหลวงปู่ศุขมากจนฝากองค์เป็นลูกศิษย์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อใดไม่ชัดเจน แต่บรรดาคนใกล้ชิดประเมินว่าน่าจะเป็นช่วง พ.ศ. 2447-2452
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ (พ.ศ. 2423-2466) พระราชโอรสของรัชกาลที่ 5 ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาโหมด ทรงสำเร็จการศึกษาวิชาการทหารเรือ ฝึกงานในกองเรืออังกฤษ เมื่อกลับมาก็เข้ารับราชการในกระทรวงทหารเรือ พระองค์ยังสนพระทัยในศาสตร์ต่างๆ อีกหลายแขนง และทรงฝึกฝนเรียนรู้จนแตกฉาน
สำหรับความสนพระทัยไสยศาสตร์ โหราศาสตร์ และพุทธคุณของพระเครื่องต่างๆ ของกรมหลวงชุมพรฯ เริ่มจากพระองค์ทรงได้พระเครื่องของ “ในหลวงวังหน้า” จากพระราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิบูลยพรรณรังษี (พระราชโอรสในกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ “วังหน้า” ในรัชกาลที่ 5) กรมหลวงชุมพรฯ รับสั่งให้ยิงปืนใส่ 3 ครั้ง แต่ปืนกลับยิงไม่ออก แต่เมื่อหันปากกระบอกปืนยิงขึ้นฟ้ากลับยิงออก
นั่นทำให้กรมหลวงชุมพรฯ กับ หลวงปู่ศุข “โคจรมาพบกัน”
หลวงปู่ศุข (พ.ศ. 2390-2466) กำเนิดที่ตำบลมะขามเฒ่า อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ท่านอุปสมบทเพื่อบำเพ็ญเพียรทางจิต และศึกษาหาความรู้ จึงได้ออกธุดงค์ไปพบครูผู้ทรงวิทยาในสถานที่ต่างๆ ประมาณ 15 ปี จนโยมมารดาอารธนาให้กลับมาอยู่ชัยนาท ไม่ให้ไปไหนอีก หลวงปู่ศุขจึงพัฒนา “วัดอู่ทอง” ที่เป็นวัดร้าง จนมาเป็น “วัดปากคลองมะขามเฒ่า” ในปัจจุบัน
นาวาตรี หลวงรักษาราชทรัพย์ (รักษ์ เอกะวิภาต) บันทึกว่า เมื่อกรมหลวงชุมพรฯ เสด็จประพาสตากอากาศทางเหนือ เรือพระประเทียบได้จอดพักที่ศาลาวัดปากคลองมะขามเฒ่า พระองค์ทรงเห็นหลวงปู่ศุขลงมาดูเด็กวัดตัดหญ้าบริเวณดงกล้วย ท่านเอาหัวปลีที่กองอยู่มาลูบคลำสักครู่ก็วางลง หัวปลีนั้นก็กลายเป็นกระต่ายวิ่งเพ่นพ่าน กระต่ายตัวหนึ่งวิ่งมาถึงที่พระองค์ประทับ เมื่อทรงจับกระต่ายนั้นก็กลับกลายเป็นหัวปลีดังเดิม
จากนั้นกรมหลวงชุมพรฯ จึงเสด็จไปทรงนมัสการหลวงปู่ศุข ทั้งสองสนทนากันอยู่จน 4-5 ทุ่ม จึงเสด็จกลับลงเรือ วันรุ่งขึ้นก็เสด็จไปสนทนากับหลวงปู่ศุขอีกจนลืมอาหารกลางวันไปทั้งคู่ เมื่อทรงเลื่อมใสในหลวงปู่ศุข กรมหลวงชุมพรฯ ก็ฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงปู่ศุขเองก็รักใคร่เมตตาพระองค์จึงถ่ายทอดวิชาต่างๆ ให้
เมื่อหลวงปู่ศุขลงมากรุงเทพฯ คราวใด ก็จะมาจำวัดที่วังนางเลิ้งของกรมหลวงชุมพรฯ เป็นประจำกรมหลวงชุมพรฯ ทรงปลูกเรือนพักไว้รับรองท่านโดยเฉพาะ
คราวหนึ่งพระโอรส 3 องค์ ของกรมหลวงชุมพรฯ ที่ไปบรรพชาเป็นสามเณรแก้บนที่หายป่วย มีพระอาจารย์พริ้ง เจ้าอาวาสวัดมะกอก เป็นพระอุปัชฌาย์ ลาสิกขาเสด็จกลับมาประทับที่วัง พอดีกับหลวงปู่ศุขลงมาพักที่วังกรมหลวงชุมพรฯ จึงให้พระโอรสบรรพชาเป็นสามเณรอีกครั้ง โดยให้หลวงปู่ศุขเป็นพระอุปัชฌาย์ พอครบ 7 วันก็ลาสิกขา
กรมหลวงชุมพรฯ เองก็เสด็จวัดปากคลองมะขามเฒ่าแทบทุกปี และทรงเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนัง ตอนพระพุทธเจ้าทรงเลิกบำเพ็ญทุกขกริยา และแม่ธรณีบีบมวยผม บนผนังพระอุโบสถวัดปากคลองมะขามเฒ่า
ความที่ครู-ศิษย์คู่นี้ ต่างเป็นผู้พากเพียรใฝ่หาวิชาความรู้ ทั้งยังมีอุปนิสัยมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวเช่นเดียวกัน จึงเป็น “กัลยาณมิตร” แก่กัน เมื่อ หลวงปู่ศุข ทราบข่าวกรมหลวงชุมพรฯ สิ้นพระชนม์ที่หาดทรายรี เมื่อกลางปี 2466 ท่านเสียใจมาก จากนั้นก็เริ่มป่วยกระเสาะกระแสะ และมรณภาพในปลายปีเดียวกัน ...
ขอบคุณข้อมูลจาก www.silpa-mag.com
“เสด็จเตี่ย”...ได้ชื่อว่าเป็นพระบิดาแห่งทหารเรือไทย พระองค์ท่านเป็นที่ศรัทธา เคารพรักของเหล่าทหารเรือ ชาวประมง และประชาชนทั่วไป ด้วยเชื่อว่าท่านเป็นคนที่มีเมตตามาก ทำให้ใครต่อใครต่างก็พากันมาขอพรกับพระรูปกรมหลวงชุมพรกันมากมาย บนบานศาลกล่าวขอกันแทบจะทุกเรื่อง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้าที่การงาน การเงิน การค้าขาย สุขภาพ ความรัก หรือแม้กระทั่งเรื่องการเรียน การสอบเข้าเรียนต่อในสถานศึกษา สถาบันต่างๆ
เครื่องสักการะที่ต้องเตรียมจะมีธูป 9 ดอก (19 ดอกก็ได้), เทียน 1 คู่, ดอกกุหลาบสีแดงหรือพวงมาลัยดอกมะลิ, หมากพลู, เบียร์, บรั่นดี, บุหรี่, ขนมหวาน...ผลไม้, กับข้าวไทย, ปืนใหญ่ หรือเรือรบจำลอง เป็นต้น
พระคาถาบูชาประจำพระองค์ “พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์”
ตั้งนะโม 3 จบ “โอมชุมพร จุติ อิทธิกะระนังสุขโข นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ มะอะอุ” (3, 5, 9 จบ)
คำบูชากรมหลวงชุมพรฯ มีความหมายอย่างยิ่ง นาวาเอกทองย้อย แสงสินชัย อธิบายสรุปความเอาไว้ว่า...
“ข้าพระพุทธเจ้าขอนมัสการพระรัตนตรัย ขอถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งที่ระลึกกับขอน้อมไหว้บูชา พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ องค์บิดาของทหารเรือไทย แม้สิ้นพระชนม์แล้ว ข้าพระพุทธเจ้าขอบูชาด้วยการปฏิบัติตนนอบน้อมพระพุทธองค์...ดำเนินชีวิตด้วยการไม่คบคนพาล สังสรรค์บัณฑิต ทำดีเป็นนิตย์ คิดถึงอนิจจังตลอดไป ขอพระองค์โปรดประทานความสำเร็จ ความสุขสมหวัง แก่ข้าพระพุทธเจ้าด้วยเทอญ”
ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า
พระผงหลวงปู่ศุข หลังกรมหลวงชุมพร รุ่น สร้างอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพร ปี 2555 (เนื้อว่านแดง)
 
 
พุทธคุณ : ครอบจักรวาลรอบด้าน ปกป้อง คุ้มภัย แคล้วคลาด มีโชคลาภ ค้าขาย มีเสน่ห์
 
 
จัดสร้างโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ 
 
ในวโรกาสพิธีเปิดพระอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพร เคียงคู่เรือหลวงลันตา 
 
ณ.บริเวณหน้าสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ปี 2555 
 
 
ประกอบพิธีเข้มขลัง ถึง 3 วาระ พระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังร่วมปลุกเสกมากมาย 
 
พิธีแรกวาระที่ 1 พร้อมพิธีหล่อนำฤกษ์พระองค์ท่าน ขนาด 2 เท่าองค์คริง 
 
พิธีปลุกเสกในวระที่ 2 ปลุกเสกแบบเข้มขลัง ในอุสถหลังเหล่า วัดปากคลองมะขามเฒ่า 
อุโบสถที่ประวัติศาสตร์จารึกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง หลวงปู่ศุข กับ กรมหลวงชุมพรฯ 
รายชื่อพระเกจินั่งปรกอธิษฐานจิตพิธีพุทธาภิเษก วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ.2555 ณ.วัดปากคลองมะขามเฒ่า อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท
1. หลวงพ่อประทวน ปภากโร วัดปากคลองมะขามเฒ่า
2. หลวงพ่อสนั้น สุนันโท วัดกลางราชครูธาราม
3. พระมหาสุรศักดิ์ อติสกโข วัดประดู่
4. หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม
5. หลวงพ่อเกาะ อาภากโร วัดท่าสมอ
6. หลวงพ่อพร้า อตตสันโต วัดโคกดอกไม้
7. หลวงพ่อเจริญ วัดหลุมเข้า
8. หลวงพ่อพูน ฐิตสีโล วัดบ้านแพน
9. หลวงพ่อกำจัด วัดปาสัก 
10. หลวงพ่อทอง วัดจันทนาราม
11. หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว
 
 
พิธีวาระที่ 3 พิธีอัญเชิญรูปเสมือนจริงพระองค์ท่าน ประดิษฐาน ณ.แท่นฐานพระอนุสาวรีย์
รายชื่อพระเกจินั่งปรกอธิษฐานจิต พิธีพุทธาภิเษก และพิธีอัญเชิญ พระบรมรูป กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ประดิษฐาน
วันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2555 ณ.บริเวณหน้าสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ จังหวัดกระบี่
1. พ่อท่านเอื้อม กตปุญโญ วัดบางเนียน จ.นครศรีธรรมราช
2. พ่อท่านเขียว กิตติคุโณ วัดห้วยเงาะ จ.ปัตตานี
3. พ่อท่านเอียด ครุธัมโม วัดโคกแย้ม จ.พัทลุง
4. พ่อท่านอิ้น ปภากโร วัดทับใหม่รักษ์ราชพัฒนา จ.สุราษฎร์ธานี
5. หลวงพ่อประทวน ปภากโร วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท
6. พ่อท่านคล้อย อโนโม วัดภูเขาทอง จ.พัทลุง
7. พระอาจารย์คง วัดบ้านสวน จ.พัทลุง
8. พระอาจารย์ชัย วัดมหาธาตุวชิรมงคล จ.กระบี่
9. หลวงพ่อลาภ สันตวัณโณ วัดเขากอบ จ.ตรัง
10. พระอาจารย์ทัย วัดวิหารสูง จ.พัทลุง
11. พระอาจารย์แดง โอภาโส วัดไร่บางตาวา จ.ปัตตานี
12. พ่อท่านหวานทวัดสะบ้าย้อย จ.สงขลา
13. หลวงพ่อบุญให้ ปทุโม วัดท่าม่วง จ.นครศรีธรรมราช
14. หลวงพ่อท้วม เขมจาโร วัดศรีสุวรรณ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี
15. พ่อท่านเอ็น วัดเขาราหู อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี
16. หลวงพ่อเงิน วัดโพรงงู จ.พัทลุง
17. หลวงพ่อสมนึก วัดหรงบล จ.นครศรีธรรมราช
18. พ่อท่านจาง วัดน้ำรอบ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี
19. พ่อท่านทอง วัดสถลธรรมาราม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี
20. พ่อท่านนิยม วัดนากุล จ.นครศรีธรรมราช
21. หลวงพ่อล้าน เขมจิตโต วัดขนาย จ.สุราษฎร์ธานี
 
-----------------------------------
 
 
คาถาบูชาหลวงปู่ศุข
 
ตั้งนะโม 3 จบ
 
โอม อิติอะระหังสุคะโต เกสโรนามะเต ประสิทธิเม อิหิอะโห นะโมพุทธายะ
 
คาถาภาวนาเวลาเดินทาง
 
ตั้งนะโม ๓ จบ
 
สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ มะอะอุ
 
-------------------------------
 
พระคาถาบูชาประจำพระองค์ “พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์”
 
ตั้งนะโม 3 จบ “โอมชุมพร จุติ อิทธิกะระนังสุขโข นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ มะอะอุ” (3, 5, 9 จบ)
 
 
==================================
 
หลวงปู่ศุข แห่ง วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท
 
ชื่อนี้คงไม่มีนักนิยมพระเครื่องผู้ใดปฏิเสธ ถึงความเกรียงไกรในชื่อเสียง และบารมีของท่านไปได้ และหากจะกล่าวถึงพระเครื่องมากมายหลายพิมพ์ ที่ท่านได้สรรค์สร้าง และปลุกเสกเอาไว้แล้วก็คงต้องจัดให้เป็นของดีวิเศษสุด ที่นักนิยมพระเครื่องต่างเสาะหา และยกย่องเทิดทูนให้เป็นพระเครื่องอันดับหนึ่ง ของวงการในขณะนี้เชื่อว่าคงมีผู้อ่านหลายๆ ท่านที่ทราบถึง ประวัติของหลวงปู่องค์นี้ กันดีอยู่แล้ว
 
ประวัติของ หลวงปู่ศุข เกสโร ท่านเกิดเมื่อวันจันทร์ เดือน 4 ปีจอ พ.ศ. 2390 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ณ บ้านข้างวัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ท่านเป็นบุตรของนายน่วม และนางทองดี เกศเวชสุรยา หลวงปู่ศุขเป็นบุตรชายคนโต มีพี่น้องต่อมาอีก 8 คน ครอบครัวเป็นชาวไร่ พออายุได้ 7 ขวบ บิดามารดาก็นำไปฝากกับพระอาจารย์ ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า (เดิมชื่อว่าวัดอู่ทองปากคลองมะขามเฒ่า) เพื่อเล่าเรียนหนังสือไทย และขอมการเล่าเรียนของท่านเชี่ยวชาญ แตกฉาน จนกระทั่งอายุได้ 18 ปี ก็อำลาวัดออกไปท่องเที่ยว หาประสบการณ์อยู่พักหนึ่ง และเมื่ออายุได้ 20 ปี ก็หวนกลับไปอุปสมบท เป็นพระภิกษุที่วัดโพธิ์ทองล่าง โดยมีอาจารย์เชย จันทสิริ เจ้าอาวาสเป็นพระอุปัชฌาย์
 
เมื่อบวชแล้วก็ได้ศึกษา พระธรรมวินัยจนบังเกิดศรัทธาดื่มด่ำ ในรสพระธรรม รอบรู้ในพระไตรปิฎก และเชี่ยวชาญทางวิปัสสนากรรมฐาน ด้วยเหตุที่ท่าน เป็นผู้แต่ฉานในภาษา และอักขระเลขยันต์มาก่อน จึงทำให้ท่านก้าวสู่โลกของไสยเวท และคาถาอาคมได้โดยง่ายมี พระอาจารย์เชยซึ่ง แก่กล้าทางพุทธาคม เป็นอาจารย์สอน วิปัสสนากรรมฐาน และการทำสมาธิจิตเพ่งกสิณจนแตกฉาน
 
การเพ่งกสิณและทำสมาธิจิต ของหลวงปู่ศุขเป็นพื้นฐาน ในการศึกษา พระเวทอาคมต่างๆ ซึ่งท่านมีจิตใจที่แน่วแน่ มุ่งปฏิบัติอย่างจริงจัง จนเกิดพลังจิตที่กล้าแข็งเป็นอย่างยิ่ง กสิณที่ฝึกประกอบด้วย อาโปกสิณ เตโชกสิณ วาโยกสิณ ปฐวีกสิณ อันเป็นธาตุทั้งสี่ คือ ดิน น้ำ ลม และไฟ จนสามารถแยกธาตุได้ด้วยความชำนาญ
 
นอกจากนี้หลวงปู่ศุขยังเป็น พระที่ใฝ่ธุดงค์เป็นนิจ และจากการที่ท่านธุดงค์รอนแรมไปในป่า เป็นเวลานานๆ ก็ทำให้ท่านได้พบ กับพระอาจารย์อีกหลายท่าน ที่หลวงปู่ศุขฝากตัวเป็นศิษย์ เล่าเรียนเวทมนต์คาถาเพิ่มเติม จนกล่าวกันว่าหลวงปู่ศุข คือจ้าวแห่งอาคมตัวจริง และเมื่อกลับสู่บ้านเกิดแล้ว ท่านก็ได้ครองวัดปากคลองมะขามเฒ่าสืบมา
 
 
 
ความเกรียงไกร ในพระเวทอาคมของหลวงปู่ศุขนั้น กล่าวกันว่าท่านสามารถปฏิบัติเห็นผลจริง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการผูกหุ่นพยนต์ เสกใบมะขามเป็นตัวต่อตัวแตน เสกให้คนเป็นจระเข้ เสกหัวปลีให้เป็นกระต่าย เป็นต้นนั้น ซึ่งล้วนแต่เป็นพระเวทย์ขั้นสูง ที่ไม่อาจพบเห็นได้ทั่วไป จึงไม่ต้องพูดถึงความเข้มขลัง ในระดับพื้นๆ ที่ท่านเจนจบ อยู่ในระดับสุดยอดพระเกจิอาจารย์อันได้แก่ คงกระพันหนังเหนียว มหาอุตม์เมตตามหาเสน่ห์ แคล้วคลาด โชคลาภ ย่นระยะทาง กำบังตัว เป็นต้น
 
ความยิ่งใหญ่ในด้านพุทธาคม ของหลวงปู่ศุขทำให้ท่านมี ลูกศิษย์ลูกหา เข้ามาฝากตัวด้วยจำนวนมาก ตั้งแต่ระดับชาวบ้านขึ้น ไปถึงชั้นเจ้านายเชื้อพระวงศ์ก็มี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่จะละเว้นไม่กล่าวถึง เป็นไปไม่ได้ก็คือ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ องค์บิดาแห่งกองทัพเรือไทย
 
 
ตำนานพุทธคุณหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
 
หลวงปู่ศุขได้ฝากตัวเป็นศิษย์ เรียนด้าน “รสายนเวท” หรือการเล่นแร่แปรธาตุ และเรื่องวิชาไสยศาสตร์ ได้แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ให้ปรากฏหลายครั้ง ศิษยานุศิษย์ที่เคยเห็นก็นำมาเล่าต่อกัน เช่น เรื่องการผูกหุ่นพยนต์ให้ล่องหนหายตัว การเดินบนผิวน้ำ การสะเดาะโซ่ตรวน ปลุกเสกผงวิเศษทำพระพิมพ์ พระเครื่องหลวงปู่ศุขจึงได้รับความนิยม
 
ตำนานอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์หลวงปู่ศุข ที่มีลูกศิษย์นำมาเล่าต่อๆ กัน (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหาต่อไปนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล) ได้แก่ การเสกหัวปลีให้เป็นสัตว์ เล่าต่อกันมาว่าหลวงปู่ศุขกำลังฝึกนำหัวปลีมาเสกเป็นกระต่าย โดยเรียนวิชามาจากพระสังวราเมฆ เสกคนให้เป็นจระเข้ มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่าทหารผู้หนึ่งถูกนำมาผูกเชือกรอบตัว ผลักลงน้ำ มีผู้คนยืนดู ทหารผู้นั้นกลายเป็นจระเข้
 
เรื่องเล่าที่ถูกเล่าขานกันมากที่สุด ก็คือการรูดใบมะขาม ท่องคาถาเสกให้เป็นตัวต่อ ทำให้การปลุกเสกพระเครื่องหลวงปู่ศุขทุกรุ่นที่ทำมาจากผงต่างๆ จึงได้รับความนิยม เชื่อว่าสามารถคุ้มครองภัยได้ตามความเชื่อของผู้ครอบครอง พระเครื่องหลวงปู่ศุข ราคาแพงที่สุดมีหลายรุ่น คาดว่ารุ่นที่เป็นภาพพิมพ์ลงลายมืออักขระด้านหลังเป็นพระเครื่องหลวงปู่ศุข ราคาแพงที่สุด เนื่องจากคนสมัยก่อนเกรงกลัวว่าภาพถ่ายพระเกจิจะเป็นสิ่งที่ลดทอนอายุของท่าน พระต่างๆ จึงไม่นิยมถ่ายภาพเก็บไว้ แต่หลวงปู่ศุขก็อนุญาตให้ถ่ายภาพท่านได้ และมีผู้นำไปพิมพ์ ด้านหลังภาพนี้มีลายมือของท่านเขียนกำกับไว้ จึงถือว่ามีความขลังมาก ปัจจุบันราคาหลักล้านทีเดียว ใครที่มีไว้ครอบครอง มักเก็บไว้ไม่ขาย
 
 
คาถาบูชาหลวงปู่ศุข
 
นะโม 3 จบ
 
โอม อิติอะระหังสุคะโต เกสโรนามะเต ประสิทธิเม อิหิอะโห นะโมพุทธายะ
 
 
 
คาถาภาวนาเวลาเดินทาง
 
นะโม ๓ จบ
 
สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ มะอะอุ
 
พระคาถาบทนี้มากด้วยความขลังและศักดิ์สิทธิ์เป็นเลิศ เป็นบทพระเวทคาถาของ “หลวงปู่ศุข เกสโร”
 
 
 
 ปฐมบทสู่ความเป็นบรมครู คู่บารมี กรมหลวงชุมพรเขตร์อุดมศักดิ์ ศิษย์เอกหลวงปู่ศุข ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น “หมอเทวดา” นั่นคือ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เจ้าฟ้าที่สืบทอดวิทยาคุณและคัมภีร์ยาในพระนาม “หมอพร” ที่ทรงใช้ชีวิตบั้นปลายดำเนินรอยตามหลวงปู่ศุข โดยเป็น “หมอ” ที่มีพระอัจฉริยภาพด้านสมุนไพรอย่างเอนกอนันต์ จนได้รับพระราชสมัญญาว่า “พระบิดาแพทย์แผนไทย”
 
 
===========================================================
 
 
“หลวงปู่ศุข” พระเกจิแห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า ที่ “กรมหลวงชุมพรฯ” ศรัทธาและฝากตัวเป็นศิษย์ 
 
“กรมหลวงชุมพรฯ” หรือ “เสด็จเตี่ย” ผู้มีบทบาทวางรากฐานกองทัพเรือของไทย ทรงมีพระเมตตาและมีพระอุปนิสัยห้าวหาญ ทรงสนพระทัยเรื่องพุทธคุณ กระทั่งทรงมีโอกาสได้พบ “หลวงปู่ศุข” พระเกจิชื่อดังแห่ง “วัดปากคลองมะขามเฒ่า” ทรงศรัทธาหลวงปู่ศุขมากจนฝากองค์เป็นลูกศิษย์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อใดไม่ชัดเจน แต่บรรดาคนใกล้ชิดประเมินว่าน่าจะเป็นช่วง พ.ศ. 2447-2452
 
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ (พ.ศ. 2423-2466) พระราชโอรสของรัชกาลที่ 5 ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาโหมด ทรงสำเร็จการศึกษาวิชาการทหารเรือ ฝึกงานในกองเรืออังกฤษ เมื่อกลับมาก็เข้ารับราชการในกระทรวงทหารเรือ พระองค์ยังสนพระทัยในศาสตร์ต่างๆ อีกหลายแขนง และทรงฝึกฝนเรียนรู้จนแตกฉาน
 
 
สำหรับความสนพระทัยไสยศาสตร์ โหราศาสตร์ และพุทธคุณของพระเครื่องต่างๆ ของกรมหลวงชุมพรฯ เริ่มจากพระองค์ทรงได้พระเครื่องของ “ในหลวงวังหน้า” จากพระราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิบูลยพรรณรังษี (พระราชโอรสในกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ “วังหน้า” ในรัชกาลที่ 5) กรมหลวงชุมพรฯ รับสั่งให้ยิงปืนใส่ 3 ครั้ง แต่ปืนกลับยิงไม่ออก แต่เมื่อหันปากกระบอกปืนยิงขึ้นฟ้ากลับยิงออก
 
นั่นทำให้กรมหลวงชุมพรฯ กับ หลวงปู่ศุข “โคจรมาพบกัน”
 
หลวงปู่ศุข (พ.ศ. 2390-2466) กำเนิดที่ตำบลมะขามเฒ่า อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ท่านอุปสมบทเพื่อบำเพ็ญเพียรทางจิต และศึกษาหาความรู้ จึงได้ออกธุดงค์ไปพบครูผู้ทรงวิทยาในสถานที่ต่างๆ ประมาณ 15 ปี จนโยมมารดาอารธนาให้กลับมาอยู่ชัยนาท ไม่ให้ไปไหนอีก หลวงปู่ศุขจึงพัฒนา “วัดอู่ทอง” ที่เป็นวัดร้าง จนมาเป็น “วัดปากคลองมะขามเฒ่า” ในปัจจุบัน
 
 
นาวาตรี หลวงรักษาราชทรัพย์ (รักษ์ เอกะวิภาต) บันทึกว่า เมื่อกรมหลวงชุมพรฯ เสด็จประพาสตากอากาศทางเหนือ เรือพระประเทียบได้จอดพักที่ศาลาวัดปากคลองมะขามเฒ่า พระองค์ทรงเห็นหลวงปู่ศุขลงมาดูเด็กวัดตัดหญ้าบริเวณดงกล้วย ท่านเอาหัวปลีที่กองอยู่มาลูบคลำสักครู่ก็วางลง หัวปลีนั้นก็กลายเป็นกระต่ายวิ่งเพ่นพ่าน กระต่ายตัวหนึ่งวิ่งมาถึงที่พระองค์ประทับ เมื่อทรงจับกระต่ายนั้นก็กลับกลายเป็นหัวปลีดังเดิม
 
จากนั้นกรมหลวงชุมพรฯ จึงเสด็จไปทรงนมัสการหลวงปู่ศุข ทั้งสองสนทนากันอยู่จน 4-5 ทุ่ม จึงเสด็จกลับลงเรือ วันรุ่งขึ้นก็เสด็จไปสนทนากับหลวงปู่ศุขอีกจนลืมอาหารกลางวันไปทั้งคู่ เมื่อทรงเลื่อมใสในหลวงปู่ศุข กรมหลวงชุมพรฯ ก็ฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงปู่ศุขเองก็รักใคร่เมตตาพระองค์จึงถ่ายทอดวิชาต่างๆ ให้
 
เมื่อหลวงปู่ศุขลงมากรุงเทพฯ คราวใด ก็จะมาจำวัดที่วังนางเลิ้งของกรมหลวงชุมพรฯ เป็นประจำกรมหลวงชุมพรฯ ทรงปลูกเรือนพักไว้รับรองท่านโดยเฉพาะ
 
คราวหนึ่งพระโอรส 3 องค์ ของกรมหลวงชุมพรฯ ที่ไปบรรพชาเป็นสามเณรแก้บนที่หายป่วย มีพระอาจารย์พริ้ง เจ้าอาวาสวัดมะกอก เป็นพระอุปัชฌาย์ ลาสิกขาเสด็จกลับมาประทับที่วัง พอดีกับหลวงปู่ศุขลงมาพักที่วังกรมหลวงชุมพรฯ จึงให้พระโอรสบรรพชาเป็นสามเณรอีกครั้ง โดยให้หลวงปู่ศุขเป็นพระอุปัชฌาย์ พอครบ 7 วันก็ลาสิกขา
 
กรมหลวงชุมพรฯ เองก็เสด็จวัดปากคลองมะขามเฒ่าแทบทุกปี และทรงเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนัง ตอนพระพุทธเจ้าทรงเลิกบำเพ็ญทุกขกริยา และแม่ธรณีบีบมวยผม บนผนังพระอุโบสถวัดปากคลองมะขามเฒ่า
 
 
ความที่ครู-ศิษย์คู่นี้ ต่างเป็นผู้พากเพียรใฝ่หาวิชาความรู้ ทั้งยังมีอุปนิสัยมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวเช่นเดียวกัน จึงเป็น “กัลยาณมิตร” แก่กัน เมื่อ หลวงปู่ศุข ทราบข่าวกรมหลวงชุมพรฯ สิ้นพระชนม์ที่หาดทรายรี เมื่อกลางปี 2466 ท่านเสียใจมาก จากนั้นก็เริ่มป่วยกระเสาะกระแสะ และมรณภาพในปลายปีเดียวกัน ... 
 
ขอบคุณข้อมูลจาก  www.silpa-mag.com
 
 
“เสด็จเตี่ย”...ได้ชื่อว่าเป็นพระบิดาแห่งทหารเรือไทย พระองค์ท่านเป็นที่ศรัทธา เคารพรักของเหล่าทหารเรือ ชาวประมง และประชาชนทั่วไป ด้วยเชื่อว่าท่านเป็นคนที่มีเมตตามาก ทำให้ใครต่อใครต่างก็พากันมาขอพรกับพระรูปกรมหลวงชุมพรกันมากมาย บนบานศาลกล่าวขอกันแทบจะทุกเรื่อง
 
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้าที่การงาน การเงิน การค้าขาย สุขภาพ ความรัก หรือแม้กระทั่งเรื่องการเรียน การสอบเข้าเรียนต่อในสถานศึกษา สถาบันต่างๆ
 
 
เครื่องสักการะที่ต้องเตรียมจะมีธูป 9 ดอก (19 ดอกก็ได้), เทียน 1 คู่, ดอกกุหลาบสีแดงหรือพวงมาลัยดอกมะลิ, หมากพลู, เบียร์, บรั่นดี, บุหรี่, ขนมหวาน...ผลไม้, กับข้าวไทย, ปืนใหญ่ หรือเรือรบจำลอง เป็นต้น
 
 
พระคาถาบูชาประจำพระองค์ “พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์”
 
ตั้งนะโม 3 จบ “โอมชุมพร จุติ อิทธิกะระนังสุขโข นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ มะอะอุ” (3, 5, 9 จบ)
 
 
คำบูชากรมหลวงชุมพรฯ มีความหมายอย่างยิ่ง นาวาเอกทองย้อย แสงสินชัย อธิบายสรุปความเอาไว้ว่า...
“ข้าพระพุทธเจ้าขอนมัสการพระรัตนตรัย ขอถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งที่ระลึกกับขอน้อมไหว้บูชา พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ องค์บิดาของทหารเรือไทย แม้สิ้นพระชนม์แล้ว ข้าพระพุทธเจ้าขอบูชาด้วยการปฏิบัติตนนอบน้อมพระพุทธองค์...ดำเนินชีวิตด้วยการไม่คบคนพาล สังสรรค์บัณฑิต ทำดีเป็นนิตย์ คิดถึงอนิจจังตลอดไป ขอพระองค์โปรดประทานความสำเร็จ ความสุขสมหวัง แก่ข้าพระพุทธเจ้าด้วยเทอญ”
 
เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขาหน้าโรงพยาบาลมหาราช เชียงใหม่ ออมทรัพย์
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านธัญทิพย์ อมูเลท
ธัญทิพย์ อมูเลท
บริการให้เช่า พระเครื่อง และเครื่องรางของมงคล ทั่วไทย
เบอร์โทร : 0629966394
อีเมล : thanyatip4289@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม