ไฮไลท์
พระพุทธชินราช เนื้อผงว่าน รุ่น ปิดทอง สร้างปี 2547
ความศักดิ์สิทธิ์อภินิหารของพระพุทธชินราช หรือ หลวงพ่อพระพุทธชินราช หรือ หลวงพ่อใหญ่ ที่ชาวพิษณุโลก
เรียกกันจนติดปาก มีอยู่มากมายเหลือคณานับ อย่างเช่น ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทุก
ครั้งที่พระองค์จะเสด็จออกทำศึกสงคราม พระองค์จะเสด็จเข้าไปในวิหารทรงกราบไหว้อธิษฐานขอพรจากความศักดิ์สิทธิ์
ของพระพุทธชินราช ขอให้ทรงมีชัยชำนะศึกต่ออริราชศัตรูของแผ่นดิน
และก็เป็นดั่งคำอธิษฐานขอพรจากความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธชิราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระนเรศวร
มหาราชทรงมีชัยชำนะศึกทุกครั้ง เมื่อเสด็จกลับสู่เมืองพิษณุโลก พระองค์ก็ทรงนำเครื่องทรงที่มีชัยชำนะศึกถวายเป็นเครื่อง
สักการะ แด่พระพุทธชินราชเสมอมา ส่วนพุทธศาสนิกชนตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรืออยู่ไกล ก็ยังพากัน
ไปกราบไหว้บูชาพระพุทธชินราชด้วยความศรัทธา บางคนมีความทุกข์ร้อนในใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องของครอบครัว การงาน
หรือค้าขาย ต่างก็ได้บนบานศาลกล่าวอธิษฐานขอพรที่ปรารถนา แล้วก็เหมือนความอัศจรรย์ที่ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ คำบนบานศาล
กล่าวอธิษฐานขอพรต่างก็ประสบความสำเร็จไปตามๆ กันและก็มีประสบการณ์ให้เห็นอยู่ทุกวัน กับการแก้บนในวิหารพระ
พุทธชินราช
พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะที่สวยงาม เด่นสง่าที่สุดของประเทศไทย เป็นพระพุทธรูปศิลปะ
สุโขทัยผสมผสานกับศิลปะเชียงแสนอย่างลงตัว นับได้ว่าเป็นประติมากรรมชั้นสูงสุดแห่ง " พุทธศิลป์ "
ในการสร้างพระพุทธชินราช จากหลักฐานของหนังสือพงศาวดารของทางเหนือได้เขียนกล่าวยืนยันเอาไว้ว่าในปี
พุทธศักราช 1500 หรือ จุลศักราช 319 เมื่อพระเจ้าศรีธรรมไตรปิฏก หรือ พระธรรมราชาลิไท ได้สร้างวัดพระศรีรัตนมหา
ธาตุวรมหาวิหารเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว พระองค์ทรงพระประสงค์จะทรงสร้างพระพุทธรูปขึ้นเป็นจำนวน 3 องค์และ
พระองค์ก็ได้ช่างฝีมือดีที่เป็นพราหมณ์มา 5 คน มาเป็นแม่งาน พร้อมทั้งได้ทรงหาช่างฝีมือเอกจากเมืองศรีสัชนาลัย สวรรค
โลก เมืองเชียงแสน และเมืองหริภุญชัย มาร่วมช่วยกันหล่อพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ คือ พระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์
พระศรีศาสดา
พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว สร้างจากโลหะเนื้อสัมฤทธิ์
ลงน้ำรัก ปิดทอง
103 ปีของมวลสารศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธชินราชจำลองรุ่น " ปิดทอง "
องค์พระพุทธชินราชที่สร้างด้วยเนื้อโลหะทองสัมฤทธิ์ ลงน้ำรัก ปิดทอง เมื่อเนิ่นนานวันก็มีการชำรุดเกิดขึ้น
ซึ่งเป็นหลักของธรรมชาติ เมื่อมีการชำรุด ก็ต้องมีการซ่อมแซมใหม่ถึง 3 ครั้ง
ครั้งที่ 1
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระเอกาทศรถ ประมาณในพุทธศักราช 2149 ถึง 2151
ครั้งที่ 2
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม พุทธศักราช 2444
ครั้งที่ 3
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) เมื่อวันที่ 6 กรกฏาคม 2547
เนื้อแผ่นน้ำรักและทองที่ลอกออกจากองค์พระพุทธชินราช ที่ได้ปฏิสังขรณ์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอม
เกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ตั้งแต่ปี พ.ศ.2444 มีอายุมาถึง ณ วันนี้ 103 ปี
103 ปีก็ได้ซึมซับรับเอาความศักดิ์สิทธิ์จากองค์พระพุทธชินราชไว้อย่างเต็มเปี่ยม และยังได้รับเอาพลังจิตจากพระ
เกจิทั่วประเทศ หลายยุคหลายสมัยที่ได้นั่งอธิษฐานปลุกเสกวัตถุมงคลจนนับครั้งไม่ถ้วน
ล้วนเป็นความศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นในตัวเองของแผ่นน้ำรัก และทองที่ลอกออกมา
พระเทพรัตนกวี เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จึงได้นำแผ่นน้ำรักและทองอันศักดิ์สิทธิ์
ที่ลอกออกจากองค์พระพุทธชินราช มาบดทำเป็นมวลสารเอก สร้างพระพุทธชินราชจำลองรุ่น " ปิดทอง " ทั้งเนื้อผงและเนื้อ
โลหะ ผสมรวมกับเนื้อผงว่าน 200 ชนิด อาทิ ว่านตระกูลกวัก ว่านตระกูลเสน่ห์จันทร์ ว่านตระกูลเศรษฐี ว่านโกเมน ว่านเครือ
สาวหลง ว่านเงินไหลมา ว่านญาณรังษี ว่านถุงเงินถุงทอง ว่านทองไหลมา ว่านธรรมรักษา ว่านพญาหงษ์ทอง ว่านนเรศวร
ว่านน้ำเต้าทอง ว่านปัดตลอด ว่านเพชรกลับดำ ว่านเพชนหลีก ว่านมงคลชัย ว่านวาสนาทางลาย ว่านสาลิกาลิ้นทอง ว่านค้ำคูณ
ว่านนางคุ้ม ว่านสาวหลง ว่านเหล็กไหล ฯลฯ และผงเหล็กน้ำพี้ ผงกัลปังหาเนื้อแดง-ดำ
พระพุทธชินราชจำลองรุ่น " ปิดทอง " จึงเป็นวัตถุมงคลรุ่นประวัติศาสตร์และอมตะของ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
วรมหาวิหาร ที่สร้างด้วยเนื้อแผ่นน้ำรักและทองที่ลอกจากองค์พระพุทธชินราชเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว และอีกใน 100 ปี
ภายภาคหน้า ยังไม่รู้ว่าจะมีการสร้างเยี่ยงนี้อีกหรือไม่
พิธีมหาพุทธาภิเษก
เพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นสิริมงคล 9 วัน 9 คืน เริ่มตั้งแต่ วันที่ 17-18-19-20 (เว้น 21) 22-23-24-25-26
พฤศจิกายน 2547 (ตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12) ณ วิหารพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง เพื่อสมทบทุนสร้างอาคาร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จ.พิษณุโลก
===================================
พระพุทธชินราช พระพุทธรูปที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทย
พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะที่สวยงาม เด่นสง่าที่สุดของประเทศไทย เป็นพระพุทธรูปศิลปะ
สุโขทัยผสมผสานกับศิลปะเชียงแสนอย่างลงตัว นับได้ว่าเป็นประติมากรรมชั้นสูงสุดแห่ง " พุทธศิลป์ "
เป็นพระพุทธรูปสำริดโบราณ ปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย หน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว สูง 7ศอก สร้างจากโลหะเนื้อสัมฤทธิ์
ลงน้ำรัก ปิดทองประดิษฐานในพระวิหาร วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก
ในการสร้างพระพุทธชินราช จากหลักฐานของหนังสือพงศาวดารของทางเหนือได้เขียนกล่าวยืนยันเอาไว้ว่าในปี
พุทธศักราช 1500 หรือ จุลศักราช 319 เมื่อพระเจ้าศรีธรรมไตรปิฏก หรือ พระธรรมราชาลิไท ได้สร้างวัดพระศรีรัตนมหา
ธาตุวรมหาวิหารเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว พระองค์ทรงพระประสงค์จะทรงสร้างพระพุทธรูปขึ้นเป็นจำนวน 3 องค์และ
พระองค์ก็ได้ช่างฝีมือดีที่เป็นพราหมณ์มา 5 คน มาเป็นแม่งาน พร้อมทั้งได้ทรงหาช่างฝีมือเอกจากเมืองศรีสัชนาลัย สวรรค
โลก เมืองเชียงแสน และเมืองหริภุญชัย มาร่วมช่วยกันหล่อพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ คือ พระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์
พระศรีศาสดา
ความศักดิ์สิทธิ์อภินิหารของพระพุทธชินราช หรือ หลวงพ่อพระพุทธชินราช หรือ หลวงพ่อใหญ่ ที่ชาวพิษณุโลก
เรียกกันจนติดปาก มีอยู่มากมายเหลือคณานับ อย่างเช่น ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทุก
ครั้งที่พระองค์จะเสด็จออกทำศึกสงคราม พระองค์จะเสด็จเข้าไปในวิหารทรงกราบไหว้อธิษฐานขอพรจากความศักดิ์สิทธิ์
ของพระพุทธชินราช ขอให้ทรงมีชัยชำนะศึกต่ออริราชศัตรูของแผ่นดิน
และก็เป็นดั่งคำอธิษฐานขอพรจากความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธชิราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระนเรศวร
มหาราชทรงมีชัยชำนะศึกทุกครั้ง เมื่อเสด็จกลับสู่เมืองพิษณุโลก พระองค์ก็ทรงนำเครื่องทรงที่มีชัยชำนะศึกถวายเป็นเครื่อง
สักการะ แด่พระพุทธชินราชเสมอมา ส่วนพุทธศาสนิกชนตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรืออยู่ไกล ก็ยังพากัน
ไปกราบไหว้บูชาพระพุทธชินราชด้วยความศรัทธา บางคนมีความทุกข์ร้อนในใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องของครอบครัว การงาน
หรือค้าขาย ต่างก็ได้บนบานศาลกล่าวอธิษฐานขอพรที่ปรารถนา แล้วก็เหมือนความอัศจรรย์ที่ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ คำบนบานศาล
กล่าวอธิษฐานขอพรต่างก็ประสบความสำเร็จไปตามๆ กันและก็มีประสบการณ์ให้เห็นอยู่ทุกวัน กับการแก้บนในวิหารพระ
พุทธชินราช
มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า ในการหล่อพระพุทธรูปทั้งสามองค์ ปรากฏว่าหล่อสำเร็จได้เพียงสององค์เท่านั้น คือ พระพุทธชินสีห์และพระศาสดา ส่วนพระพุทธชินราช ต้องทำหุ่นและแบบหล่อใหม่ถึงสามครั้ง แต่ก็ยังหล่อไม่สำเร็จ เพราะทองแล่นไม่ทั่วแบบ เมื่อแกะแบบหล่อออก องค์พระจึงไม่สมบูรณ์และมีตำหนิ
ครั้งนั้น มีปะขาวผู้หนึ่งเข้ามาช่วยปั้นหุ่น ทำการแข็งแรง แต่ไม่พูดด้วยปาก ใช้แต่ใบ้ ใครถามชื่อและตำบลบ้านก็ไม่บอก ไม่มีผู้ใดรู้จัก ทำงานทั้งกลางวันและกลางคืนไม่มีเวลาหยุด ครั้นรูปหุ่นสำเร็จงามดี เข้าดินพิมพ์แห้งแล้ว กำหนดมหามงคลฤกษ์เททอง อาราธนาชุมนุมพระภิกษุสงฆ์ชีพราหมณ์ ทำการมงคลพิธีเหมือนครั้งก่อน แล้วเททอง ทองก็แล่นเต็มบริบูรณ์ ปะขาวที่มาช่วยหล่อพระ ก็เดินหายจากที่นั้นไป เชื่อกันว่า เทวดาได้แปลงกายเป็นปะขาวเพื่อมาช่วยหล่อพระพุทธชินราช ส่วนสถานที่ที่ปะขาวผู้นั้นเดินหายจากไป ก็มีชื่อปรากฏในปัจจุบันว่า บ้านตาปะขาวหาย
(( พระบารมีของพระพุทธชินราช ))
ในแต่ละวัน มีผู้คนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมากราบนมัสการขอพรจากพระพุทธชินราช ด้วยจิตที่เคารพเลื่อมใสและเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในบารมีของพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืององค์นี้ว่า จะช่วยปัดเป่าทุกข์ภัยอันตรายต่าง ๆ ป้องกันคุณไสย์มนต์ดำ สิ่งชั่วร้าย เปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี ปกป้องคุ้มครอง และนำความสุขความเจริญ ความสำเร็จสมหวังร่ำรวย ให้บังเกิดแก่ผู้สักการะบูชา
บางท่านมีทุกข์ร้อนเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ กิจการค้าขาย ตำแหน่งหน้าที่การงาน การสอบคัดเลือก ฯลฯ ก็มากราบนมัสการขอบารมีพระพุทธชินราชท่านเป็นที่พึ่ง แม้บางท่านไม่สามารถจะเดินทางมานมัสการถึงที่วัดได้ด้วยตนเอง เพียงจุดธูปเทียนสำรวมจิตอธิษฐาน เคารพด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก็สำเร็จสมดังปรารถนาได้เช่นกัน
พระคาถาบูชาพระพุทธชินราช
อิเมหิ นานาสักกาเรหิ อะภิปูชิเตหิ
ทีฆายุโก โหมิ อะโรโค สุขิโต
สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง ปิยัง มะมะปะ
สิทธิลาโภ ชะโย โหตุ สัพพะทา
พุทธะชินะราชา อะภิปาเลตุ มัง นะโมพุทธายะ
ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า
 พระพุทธชินราช เนื้อผงว่าน รุ่น ปิดทอง สร้างปี 2547
 
ความศักดิ์สิทธิ์อภินิหารของพระพุทธชินราช หรือ หลวงพ่อพระพุทธชินราช หรือ หลวงพ่อใหญ่ ที่ชาวพิษณุโลก
เรียกกันจนติดปาก มีอยู่มากมายเหลือคณานับ อย่างเช่น ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทุก
ครั้งที่พระองค์จะเสด็จออกทำศึกสงคราม พระองค์จะเสด็จเข้าไปในวิหารทรงกราบไหว้อธิษฐานขอพรจากความศักดิ์สิทธิ์
ของพระพุทธชินราช ขอให้ทรงมีชัยชำนะศึกต่ออริราชศัตรูของแผ่นดิน
 
และก็เป็นดั่งคำอธิษฐานขอพรจากความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธชิราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระนเรศวร
มหาราชทรงมีชัยชำนะศึกทุกครั้ง เมื่อเสด็จกลับสู่เมืองพิษณุโลก พระองค์ก็ทรงนำเครื่องทรงที่มีชัยชำนะศึกถวายเป็นเครื่อง
สักการะ แด่พระพุทธชินราชเสมอมา ส่วนพุทธศาสนิกชนตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรืออยู่ไกล ก็ยังพากัน
ไปกราบไหว้บูชาพระพุทธชินราชด้วยความศรัทธา บางคนมีความทุกข์ร้อนในใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องของครอบครัว การงาน
หรือค้าขาย ต่างก็ได้บนบานศาลกล่าวอธิษฐานขอพรที่ปรารถนา แล้วก็เหมือนความอัศจรรย์ที่ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ คำบนบานศาล
กล่าวอธิษฐานขอพรต่างก็ประสบความสำเร็จไปตามๆ กันและก็มีประสบการณ์ให้เห็นอยู่ทุกวัน กับการแก้บนในวิหารพระ
พุทธชินราช
 
พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะที่สวยงาม เด่นสง่าที่สุดของประเทศไทย เป็นพระพุทธรูปศิลปะ
สุโขทัยผสมผสานกับศิลปะเชียงแสนอย่างลงตัว นับได้ว่าเป็นประติมากรรมชั้นสูงสุดแห่ง " พุทธศิลป์ "
 
ในการสร้างพระพุทธชินราช จากหลักฐานของหนังสือพงศาวดารของทางเหนือได้เขียนกล่าวยืนยันเอาไว้ว่าในปี
พุทธศักราช 1500 หรือ จุลศักราช 319 เมื่อพระเจ้าศรีธรรมไตรปิฏก หรือ พระธรรมราชาลิไท ได้สร้างวัดพระศรีรัตนมหา
ธาตุวรมหาวิหารเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว พระองค์ทรงพระประสงค์จะทรงสร้างพระพุทธรูปขึ้นเป็นจำนวน 3 องค์และ
พระองค์ก็ได้ช่างฝีมือดีที่เป็นพราหมณ์มา 5 คน มาเป็นแม่งาน พร้อมทั้งได้ทรงหาช่างฝีมือเอกจากเมืองศรีสัชนาลัย สวรรค
โลก เมืองเชียงแสน และเมืองหริภุญชัย มาร่วมช่วยกันหล่อพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ คือ พระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์
พระศรีศาสดา
 
พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว สร้างจากโลหะเนื้อสัมฤทธิ์
ลงน้ำรัก ปิดทอง
103 ปีของมวลสารศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธชินราชจำลองรุ่น " ปิดทอง "
 
 
 
องค์พระพุทธชินราชที่สร้างด้วยเนื้อโลหะทองสัมฤทธิ์ ลงน้ำรัก ปิดทอง เมื่อเนิ่นนานวันก็มีการชำรุดเกิดขึ้น
ซึ่งเป็นหลักของธรรมชาติ เมื่อมีการชำรุด ก็ต้องมีการซ่อมแซมใหม่ถึง 3 ครั้ง
 
ครั้งที่ 1
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระเอกาทศรถ ประมาณในพุทธศักราช 2149 ถึง 2151
 
ครั้งที่ 2
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม พุทธศักราช 2444
 
ครั้งที่ 3
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) เมื่อวันที่ 6 กรกฏาคม 2547
 
เนื้อแผ่นน้ำรักและทองที่ลอกออกจากองค์พระพุทธชินราช ที่ได้ปฏิสังขรณ์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอม
เกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ตั้งแต่ปี พ.ศ.2444 มีอายุมาถึง ณ วันนี้ 103 ปี
 
103 ปีก็ได้ซึมซับรับเอาความศักดิ์สิทธิ์จากองค์พระพุทธชินราชไว้อย่างเต็มเปี่ยม และยังได้รับเอาพลังจิตจากพระ
เกจิทั่วประเทศ หลายยุคหลายสมัยที่ได้นั่งอธิษฐานปลุกเสกวัตถุมงคลจนนับครั้งไม่ถ้วน
 
ล้วนเป็นความศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นในตัวเองของแผ่นน้ำรัก และทองที่ลอกออกมา
 
พระเทพรัตนกวี เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จึงได้นำแผ่นน้ำรักและทองอันศักดิ์สิทธิ์
ที่ลอกออกจากองค์พระพุทธชินราช มาบดทำเป็นมวลสารเอก สร้างพระพุทธชินราชจำลองรุ่น " ปิดทอง " ทั้งเนื้อผงและเนื้อ
โลหะ ผสมรวมกับเนื้อผงว่าน 200 ชนิด อาทิ ว่านตระกูลกวัก ว่านตระกูลเสน่ห์จันทร์ ว่านตระกูลเศรษฐี ว่านโกเมน ว่านเครือ
สาวหลง ว่านเงินไหลมา ว่านญาณรังษี ว่านถุงเงินถุงทอง ว่านทองไหลมา ว่านธรรมรักษา ว่านพญาหงษ์ทอง ว่านนเรศวร
ว่านน้ำเต้าทอง ว่านปัดตลอด ว่านเพชรกลับดำ ว่านเพชนหลีก ว่านมงคลชัย ว่านวาสนาทางลาย ว่านสาลิกาลิ้นทอง ว่านค้ำคูณ
ว่านนางคุ้ม ว่านสาวหลง ว่านเหล็กไหล ฯลฯ และผงเหล็กน้ำพี้ ผงกัลปังหาเนื้อแดง-ดำ
 
พระพุทธชินราชจำลองรุ่น " ปิดทอง " จึงเป็นวัตถุมงคลรุ่นประวัติศาสตร์และอมตะของ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
วรมหาวิหาร ที่สร้างด้วยเนื้อแผ่นน้ำรักและทองที่ลอกจากองค์พระพุทธชินราชเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว และอีกใน 100 ปี
ภายภาคหน้า ยังไม่รู้ว่าจะมีการสร้างเยี่ยงนี้อีกหรือไม่
 
 
พิธีมหาพุทธาภิเษก
 
เพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นสิริมงคล 9 วัน 9 คืน เริ่มตั้งแต่ วันที่ 17-18-19-20 (เว้น 21) 22-23-24-25-26
พฤศจิกายน 2547 (ตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12) ณ วิหารพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
 
วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง เพื่อสมทบทุนสร้างอาคาร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จ.พิษณุโลก
 
 
===================================
 
 พระพุทธชินราช พระพุทธรูปที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทย
 
พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะที่สวยงาม เด่นสง่าที่สุดของประเทศไทย เป็นพระพุทธรูปศิลปะ
สุโขทัยผสมผสานกับศิลปะเชียงแสนอย่างลงตัว นับได้ว่าเป็นประติมากรรมชั้นสูงสุดแห่ง " พุทธศิลป์ "
 
เป็นพระพุทธรูปสำริดโบราณ ปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย หน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว สูง 7ศอก สร้างจากโลหะเนื้อสัมฤทธิ์
ลงน้ำรัก ปิดทองประดิษฐานในพระวิหาร วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก
 
ในการสร้างพระพุทธชินราช จากหลักฐานของหนังสือพงศาวดารของทางเหนือได้เขียนกล่าวยืนยันเอาไว้ว่าในปี
พุทธศักราช 1500 หรือ จุลศักราช 319 เมื่อพระเจ้าศรีธรรมไตรปิฏก หรือ พระธรรมราชาลิไท ได้สร้างวัดพระศรีรัตนมหา
ธาตุวรมหาวิหารเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว พระองค์ทรงพระประสงค์จะทรงสร้างพระพุทธรูปขึ้นเป็นจำนวน 3 องค์และ
พระองค์ก็ได้ช่างฝีมือดีที่เป็นพราหมณ์มา 5 คน มาเป็นแม่งาน พร้อมทั้งได้ทรงหาช่างฝีมือเอกจากเมืองศรีสัชนาลัย สวรรค
โลก เมืองเชียงแสน และเมืองหริภุญชัย มาร่วมช่วยกันหล่อพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ คือ พระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์
พระศรีศาสดา
ความศักดิ์สิทธิ์อภินิหารของพระพุทธชินราช หรือ หลวงพ่อพระพุทธชินราช หรือ หลวงพ่อใหญ่ ที่ชาวพิษณุโลก
เรียกกันจนติดปาก มีอยู่มากมายเหลือคณานับ อย่างเช่น ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทุก
ครั้งที่พระองค์จะเสด็จออกทำศึกสงคราม พระองค์จะเสด็จเข้าไปในวิหารทรงกราบไหว้อธิษฐานขอพรจากความศักดิ์สิทธิ์
ของพระพุทธชินราช ขอให้ทรงมีชัยชำนะศึกต่ออริราชศัตรูของแผ่นดิน
 
และก็เป็นดั่งคำอธิษฐานขอพรจากความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธชิราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระนเรศวร
มหาราชทรงมีชัยชำนะศึกทุกครั้ง เมื่อเสด็จกลับสู่เมืองพิษณุโลก พระองค์ก็ทรงนำเครื่องทรงที่มีชัยชำนะศึกถวายเป็นเครื่อง
สักการะ แด่พระพุทธชินราชเสมอมา ส่วนพุทธศาสนิกชนตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรืออยู่ไกล ก็ยังพากัน
ไปกราบไหว้บูชาพระพุทธชินราชด้วยความศรัทธา บางคนมีความทุกข์ร้อนในใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องของครอบครัว การงาน
หรือค้าขาย ต่างก็ได้บนบานศาลกล่าวอธิษฐานขอพรที่ปรารถนา แล้วก็เหมือนความอัศจรรย์ที่ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ คำบนบานศาล
กล่าวอธิษฐานขอพรต่างก็ประสบความสำเร็จไปตามๆ กันและก็มีประสบการณ์ให้เห็นอยู่ทุกวัน กับการแก้บนในวิหารพระ
พุทธชินราช
 
 
 
มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า ในการหล่อพระพุทธรูปทั้งสามองค์ ปรากฏว่าหล่อสำเร็จได้เพียงสององค์เท่านั้น คือ พระพุทธชินสีห์และพระศาสดา ส่วนพระพุทธชินราช ต้องทำหุ่นและแบบหล่อใหม่ถึงสามครั้ง แต่ก็ยังหล่อไม่สำเร็จ เพราะทองแล่นไม่ทั่วแบบ เมื่อแกะแบบหล่อออก องค์พระจึงไม่สมบูรณ์และมีตำหนิ
 
ครั้งนั้น มีปะขาวผู้หนึ่งเข้ามาช่วยปั้นหุ่น ทำการแข็งแรง แต่ไม่พูดด้วยปาก ใช้แต่ใบ้ ใครถามชื่อและตำบลบ้านก็ไม่บอก ไม่มีผู้ใดรู้จัก ทำงานทั้งกลางวันและกลางคืนไม่มีเวลาหยุด ครั้นรูปหุ่นสำเร็จงามดี เข้าดินพิมพ์แห้งแล้ว กำหนดมหามงคลฤกษ์เททอง อาราธนาชุมนุมพระภิกษุสงฆ์ชีพราหมณ์ ทำการมงคลพิธีเหมือนครั้งก่อน แล้วเททอง ทองก็แล่นเต็มบริบูรณ์ ปะขาวที่มาช่วยหล่อพระ ก็เดินหายจากที่นั้นไป เชื่อกันว่า เทวดาได้แปลงกายเป็นปะขาวเพื่อมาช่วยหล่อพระพุทธชินราช ส่วนสถานที่ที่ปะขาวผู้นั้นเดินหายจากไป ก็มีชื่อปรากฏในปัจจุบันว่า บ้านตาปะขาวหาย
 
 
(( พระบารมีของพระพุทธชินราช ))
 
ในแต่ละวัน มีผู้คนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมากราบนมัสการขอพรจากพระพุทธชินราช ด้วยจิตที่เคารพเลื่อมใสและเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในบารมีของพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืององค์นี้ว่า จะช่วยปัดเป่าทุกข์ภัยอันตรายต่าง ๆ ป้องกันคุณไสย์มนต์ดำ สิ่งชั่วร้าย เปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี ปกป้องคุ้มครอง และนำความสุขความเจริญ ความสำเร็จสมหวังร่ำรวย ให้บังเกิดแก่ผู้สักการะบูชา
 
บางท่านมีทุกข์ร้อนเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ กิจการค้าขาย ตำแหน่งหน้าที่การงาน การสอบคัดเลือก ฯลฯ ก็มากราบนมัสการขอบารมีพระพุทธชินราชท่านเป็นที่พึ่ง แม้บางท่านไม่สามารถจะเดินทางมานมัสการถึงที่วัดได้ด้วยตนเอง เพียงจุดธูปเทียนสำรวมจิตอธิษฐาน เคารพด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก็สำเร็จสมดังปรารถนาได้เช่นกัน
 
 
พระคาถาบูชาพระพุทธชินราช
 
อิเมหิ นานาสักกาเรหิ อะภิปูชิเตหิ
 
ทีฆายุโก โหมิ อะโรโค สุขิโต
 
สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง ปิยัง มะมะปะ
 
สิทธิลาโภ ชะโย โหตุ สัพพะทา
 
พุทธะชินะราชา อะภิปาเลตุ มัง นะโมพุทธายะ
พระพุทธชินราช เนื้อผงว่าน รุ่น ปิดทอง ปี 2547 มีกล่องกำมะหยี่เดิมจากวัด
พระพุทธชินราช เนื้อผงว่าน รุ่น ปิดทอง ปี 2547 มีกล่องกำมะหยี่เดิมจากวัด
พระพุทธชินราช เนื้อผงว่าน รุ่น ปิดทอง ปี 2547 มีกล่องกำมะหยี่เดิมจากวัด
พระพุทธชินราช เนื้อผงว่าน รุ่น ปิดทอง ปี 2547 มีกล่องกำมะหยี่เดิมจากวัด
พระพุทธชินราช เนื้อผงว่าน รุ่น ปิดทอง ปี 2547 มีกล่องกำมะหยี่เดิมจากวัด
พระพุทธชินราช เนื้อผงว่าน รุ่น ปิดทอง ปี 2547 มีกล่องกำมะหยี่เดิมจากวัด
พระพุทธชินราช เนื้อผงว่าน รุ่น ปิดทอง ปี 2547 มีกล่องกำมะหยี่เดิมจากวัด
พระพุทธชินราช เนื้อผงว่าน รุ่น ปิดทอง ปี 2547 มีกล่องกำมะหยี่เดิมจากวัด
พระพุทธชินราช เนื้อผงว่าน รุ่น ปิดทอง ปี 2547 มีกล่องกำมะหยี่เดิมจากวัด
เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขาหน้าโรงพยาบาลมหาราช เชียงใหม่ ออมทรัพย์
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านธัญทิพย์ อมูเลท
ธัญทิพย์ อมูเลท
บริการให้เช่า พระเครื่อง และเครื่องรางของมงคล ทั่วไทย
เบอร์โทร : 0629966394
อีเมล : thanyatip4289@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม