จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | 0 ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | ปรอทกรอ หัวนะโม ลูกอม แหวน |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ไฮไลท์ |
แหวนช่อไพเราะ พิธี 900 ปี วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง ปี 2552
วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง สำนักตักศิลาไสยเวทย์และเวชศาสตร์อันเลื่องลือที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งประเทศไทย
แหวนพิรอด หรือเเหวนช่อไพเราะ
เป็นแหวนมหามงคลของดีประจำกายที่ถือได้ว่าขาดมิได้ ของอาจารย์สายเขาอ้อ เช่น
ท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช ท่านจะสวมเเหวนพิรอดอยู่เป็นประจำ ดังที่เราจะเห็นได้จากรูปถ่ายของท่านหรือในภาพยนต์ เรื่องขุนพันธ์นั้นเอง เเม้กระทั้งท่านเสียชีวิตเเล้ว ในการปั้นหุ่นของท่านยังมีการสวมเเหวนพิรอดที่นิ้วท่านไว้เลย เพราะเป็นของดีมาก พุทธคุณสารพัด ๑๐๘ ประการ
เเละอาจารย์เปลี่ยน หัทยานนท์ ก็เข่นกัน ท่านใดที่เคยเห็นตัวจริงท่าน ก็จะสังเกตได้ว่า ท่านจะสวมอยู่ตลอดเวลา ทั้งเวลาทำพิธีเเละเเละเวลาปกติ
ในส่วนลูกศิษย์หรือผู้มีวิชาอาคมก็นิยม นำเเหวนพิรอดนี้ไปสวมใส่ เเละบริกรรมคาถา
ตลอดจนให้เป็นเครื่องรางในการ ทำกิจการต่างๆในพิธี เช่นการใส่ในหม้อน้ำมนต์ ทำน้ำมนต์ หรือนำไปผูก เฉียงพร้าหรือไม้ที่ประพรหมน้ำมนต์ เป็นต้น
บางท่านก็นำไปผูกไว้บนเปลลูก หรือเอาไว้บนหิ้งที่บ้าน
โบราณท่านว่า พุทธคุณของพิรอดนี้ เเคล้วคลาด ปลอดภัย กันเขี้ยว กันพิษ เเละกันสนียดจัญไร ของอุบาดชั้นต่ำได้ เเละคนที่หวังร้ายก็จะทำอะไรมิได้ ท่านอาจารย์หลายท่านจึงสวมเเหวนพิรอดนี้มาโดยตลอด บางท่านก็ตลอดชีวิตจนสิ้นลม
ในการจัดสร้างเเต่ละครั้งนั้น ต้องใช้ชนวน มวลสาร หลากหลายชนิด เช่นชนวนโบราณชั้นครูนั้นเอง เเละครั้งประวัติศาสตร์ของวัดเขาอ้อ
พิธี 900 ปี วัดเขาอ้อ พุทธาภิเษก วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม 2552 ณ มณฑลพิธี ถ้ำฉัตรทัณฑ์บรรพต เวลา 13.49น.
รายนามพระเกจิอาจารย์นั่งปรก
1. พระอธิการห้อง ธมมฺวโร เจ้าอาวาส วัดเขาอ้อ
2. พรครูพิพิธวรกิจ (หลวงพ่อคล้อย) เจ้าอาวาสวัดภูเขาทอง
3. พระครูขันตยาภรณ์ (หลวงพ่อพรหม) เจ้าอาวาสวัดบ้านสวน
4. พระครูโสภณกิตยาทร (อาจารย์รรรสิริ) รองเจ้าอาวาสวัดบ้านสวน
5. พระครูสังฆรักษ์ เอียด ครุธมฺโม (หลวงพ่อเอียด) เจ้าอาวาสวัดโคกแย้ม
6. พระครูวิจิตรธรรมภาณ (หลวงพ่อสลับ) เจ้าอาวาสวัดป่าตอ
7. พระครูวิโรจน์ศาสนกิจ (หลวงพ่อช่วง) เจ้าอาวาสวัดควนปันตาราม
8. เจ้าอธิการวิษณุ กิตติวํณโน เจ้าอาวาสวัดประดู่หอม
9. พระครูวิจิตรกิจจาภรณ์ (อาจารย์เถียร) เจ้าอาวาสวัดโคกโดน
10. พระครูสุธรรมวัฒน์ (หลวงพ่อเหวียน) เจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง
11. พระมหาอุทัย วิมโลก (หลวงพ่ออุทัย) เจ้าอาวาสวัดดอนศาลา
โดยมีพราหมณ์เปลี่ยน หัทยานนท์ ศิษย์ฆราวาสสายเขาอ้อ ศิษย์เอกอาจารย์ปาน ปาลธฺมโม เป็นเจ้าพิธี
แหวนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางด้านใน 1.9 c.m. ทำจากโลหะผสม ที่นำเอาแผ่นยันต์จากอาจารย์ต่างๆมาหลอมเข้าด้วยกัน แหวนช่อไพเราะนี้ ดีทางเมตตามหานิยมและปกป้องคุ้มครองภัยทั้งปวง เเละกันสนียดจัญไร ของอุบาดชั้นต่ำได้ เเละคนที่หวังร้ายก็จะทำอะไรมิได้
=====================================
วัดเขาอ้อ พัทลุง สำนักตักศิลาไสยเวทย์และเวชศาสตร์อันเลื่องลือ ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งประเทศไทย
ถ้าพูดถึงไสยเวทย์ วิชาอาคม คงกระพันแห่งแดนใต้ ต้องยกให้ที่นี่เลย วัดเขาอ้อ สำนักตักศิลาไสยเวทย์และเวชภัณฑ์ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในภาคใต้
อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนาที่เต็มไปด้วยความเข้มขลัง ลี้ลับ และน่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง
วัดเขาอ้อหรือสำนักเขาอ้อ ตั้งอยู่ที่ตำบลมะกอกเหนือ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุงเป็นวัดเก่าแก่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ในด้านวิชาอาคมมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่เดิมวัดเขาอ้อเคยเป็นสำนักพราหมณ์มาก่อน โดยมีพระเกจิอาจารย์หลายท่านเป็นผู้สืบทอดวิชาไสยเวทย์ ซึ่งเป็นศาสตร์ลับแห่งความแข็งแกร่ง และสมุนไพรการแพทย์แผนโบราณ โดยเชื่อว่าใครได้เข้าร่วมทำพิธีกรรมที่วัดเขาอ้อ ทำให้หนังเหนียว อยู่ยงคงกระพันชาตรี ฟันแทงไม่เข้า แม้แต่ขุนพันธรักษ์ราชเดช ท่านก็เคยเป็นลูกศิษย์ที่วัดเขาอ้อ
พิธีกรรมสำคัญของวัดเขาอ้อ ที่ได้รับการกล่าวขานถึงตำนานความศักดิ์สิทธิ์ เช่น พิธีกรรมรับศิษย์ พิธีกรรมทำน้ำพุทธมนต์ การสะเดาะเคราะห์ พิธีกรรมแช่ว่านยา พิธีกรรมกินว่านยา พิธีกรรมกินข้าวเหนียวดำ พิธีกรรมกินน้ำมันงา และการสร้างพระเครื่องต่างๆ สถานที่นี้จึงเปรียบเสมือนสรรพเวทย์สรรพยาแห่งปักษ์ใต้ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังศรัทธาจากผู้คนทั่วทุกสารทิศ ต่างหลั่งไหลกันมาที่วัดแห่งนี้เป็นจำนวนมาก
วัดเขาอ้อ ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาอ้อ ซึ่งเป็นภูเขาที่มีลักษณะเหมือนช้างนอน มีความสำคัญทางโบราณคดี และประวัติศาสตร์กว่า 1,000 ปี ภายในวัดเขาอ้อ เต็มไปด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์เกจิอาจารย์ พระพุทธรูปเก่าแก่ที่อยู่ในถ้ำฉัททันต์บรรพต องค์ฤๅษี เทพเจ้าต่างๆ รวมถึงการให้เช่าบูชาพระ และความสวยงามของสถาปัตยกรรมวิหาร อุโบสถ
ถ้ำฉัททันต์บรรพต วัดเขาอ้อ เป็นถ้ำโบราณดึกดำบรรพ์หลายล้านปี เมื่อเข้ามาภายในถ้ำรู้สึกร่มเย็น สวยงามอลังการ รับรู้ได้ถึงความเข้มขลังและความศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากถ้ำฉัททันต์บรรพตใช้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมทางความเชื่อด้านไสยเวทย์ การปลุกเสกวัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง และบำเพ็ญศีลภาวนา ซึ่งความมหัศจรรย์ของถ้ำฉัททันต์บรรพต ก็คือหินปูนที่มีรูปร่างคล้ายกับหัวช้าง และภูเขาอ้อที่มีลักษณะเหมือนช้างนอน จึงเป็นที่มาของชื่อถ้ำฉัททันต์บรรพต ซึ่งคำว่า "ฉัททันต์" หมายถึง ชื่อช้างตระกูลหนึ่งในป่าหิมพานต์ ส่วนคำว่า "บรรพต" หมายถึง ภูเขา นั่นเอง
ว่ากันว่าถ้ามาถึงเขาอ้อ ไม่ได้ขึ้นเขาอ้อ ก็เหมือนมาไม่ถึงซึ่งบันไดทางขึ้นมีทั้งหมด 109 ขั้น ระหว่างทางเดินขึ้นไปจะพบกับรางแช่ว่านยา สิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย เช่น พระบรมธาตุเจดีย์น้อย พระพุทธบาทจำลอง หลวงพ่อโต ถ้ำน้อยจำศีลให้ลาภ นอกจากนี้ยังได้สูดอากาศบริสุทธิ์ พร้อมกับชมวิวความสวยงามของทัศนียภาพ
วัดเขาอ้อ ยังมีสถานที่สำคัญบนเขาอ้ออีกหลายแห่ง เช่น ถ้ำไทร ถ้ำท้องพระโรง ซึ่งการมาเที่ยววัดเขาอ้อทุกคนจะได้สัมผัสถึงความขลัง ความน่าพิศวง และธรรมชาติบนเขาอ้อ
วัดเขาอ้อ พัทลุงสำหรับใครที่สนใจมาเที่ยวพัทลุง วัดเขาอ้อ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ตลอดจนเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชน ดังนั้นอย่าลืมแวะมาเที่ยว ทำบุญขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดเขาอ้อกันได้นะครับ
ข้อมูล : วัดเขาอ้อ พัทลุง
=====================================
วัดเขาอ้อ” จ. พัทลุง แหล่งวิทยาคมไสยศาสตร์ ศิษย์ใช้วิชาไสยชนะพม่า เมื่อ 200 กว่าปีก่อน...
วัดเขาอ้อ จังหวัดพัทลุง เป็นแหล่งวิทยาคมทางไสยศาสตร์ที่มีความสำคัญกับชาวพัทลุงและคนไทยมาช้านาน ตำนานเล่าว่าในอดีตพื้นที่แห่งนี้เป็นที่บำเพ็ญพรตของพราหมณ์มาหลายรุ่น เป็นแหล่งถ่ายทอดวิชาให้คณาศิษย์ในเรื่องการปกครองตามตำราธรรมศาสตร์ พิธีกรรมการจัดทัพ รวมถึง ไสยเวท และการแพทย์
วัดเขาอ้อ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1651 หรือหากให้นับก็กว่า 900 ปี เป็นวัดที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในสมัยอยุธยา ก่อนจะถูกทิ้งร้าง จนเมื่อพระมหาอินทราชเดินทางจากเมืองปัตตานีมาจำวัดที่นี่ ก็ได้เป็นเจ้าอาวาส และทำการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่
แต่เมื่อพระมหาอินทราชออกจากวัดไป วัดก็เสื่อมโทรมอีกครั้ง จนท่านปะขาวขุนแก้วเสนาและขุนศรีสมบัติ รวมถึงชาวบ้าน ได้ไปนิมนต์พระมหาคง จากวัดพนางตุง มาเป็นเจ้าอาวาส ที่นี่จึงกลับมาเจริญรุ่งเรือง มีเจ้าอาวาสปกครองเรื่อยมา และเจ้าอาวาสแต่ละรูปล้วนมีความสามารถในเรื่องไสยศาสตร์
การศึกษาไสยศาสตร์ที่วัดเขาอ้อ จังหวัดพัทลุง เป็นที่เลื่องชื่อมาเนิ่นนาน
มีบันทึกไว้ว่าเมื่อ พ.ศ. 2328 พระอาจารย์และศิษย์ที่วัดแห่งนี้ช่วยกันใช้ความรู้ไสยเวท ช่วยให้สยามรอดพ้นจากการถูกกองทัพพม่าโจมตี โดยพระมหาช่วย จากวัดป่าเลไลย์ ชาวบ้านน้ำเลือด ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของวัดเขาอ้อแห่งนี้ ได้ลงตะกรุด ผ้าประเจียด ให้กับไพร่พล แล้วไปคอยรับศึกทัพพม่า
นอกจากนี้ยังได้ทำการผูกหุ่นพยนต์เข้าช่วยเป็นทหารสูงใหญ่จำนวนมาก เมื่อทัพพม่ามาถึงก็เห็นว่ากองกำลังฝ่ายสยามมีเยอะกว่า แม้แท้จริงแล้วจะมีน้อยกว่า เนื่องจากอำนาจของมนตร์และคาถาที่พระมหาช่วยนั่งบริกรรมอยู่เบื้องหลัง จึงทำให้พม่าถอยทัพไป..
ต่อมา พระมหาช่วยจึงได้ลาสิกขา และได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “พระยาทุกขราษฎร์” ผู้ช่วยราชการเมืองพัทลุง ด้วยคุณงามความดีของท่าน จึงมีการสร้างอนุสาวรีย์ให้ท่านที่สามแยก ท่ามิหรำ อ. เมือง จ. พัทลุง
เป็นอีกหนึ่งเรื่องเล่าที่แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญ ความแกร่งกล้า และความสำคัญของวัดหรือสำนักเขาอ้อ ที่มีมาเนิ่นนาน...ขอบคุณข้อมูลจากsilpa-mag.com
|
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
แหวนช่อไพเราะ พิธี 900 ปี วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง ปี 2552
วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง สำนักตักศิลาไสยเวทย์และเวชศาสตร์อันเลื่องลือที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งประเทศไทย
แหวนพิรอด หรือเเหวนช่อไพเราะ
เป็นแหวนมหามงคลของดีประจำกายที่ถือได้ว่าขาดมิได้ ของอาจารย์สายเขาอ้อ เช่น
ท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช ท่านจะสวมเเหวนพิรอดอยู่เป็นประจำ ดังที่เราจะเห็นได้จากรูปถ่ายของท่านหรือในภาพยนต์ เรื่องขุนพันธ์นั้นเอง เเม้กระทั้งท่านเสียชีวิตเเล้ว ในการปั้นหุ่นของท่านยังมีการสวมเเหวนพิรอดที่นิ้วท่านไว้เลย เพราะเป็นของดีมาก พุทธคุณสารพัด ๑๐๘ ประการ
เเละอาจารย์เปลี่ยน หัทยานนท์ ก็เข่นกัน ท่านใดที่เคยเห็นตัวจริงท่าน ก็จะสังเกตได้ว่า ท่านจะสวมอยู่ตลอดเวลา ทั้งเวลาทำพิธีเเละเเละเวลาปกติ
ในส่วนลูกศิษย์หรือผู้มีวิชาอาคมก็นิยม นำเเหวนพิรอดนี้ไปสวมใส่ เเละบริกรรมคาถา
ตลอดจนให้เป็นเครื่องรางในการ ทำกิจการต่างๆในพิธี เช่นการใส่ในหม้อน้ำมนต์ ทำน้ำมนต์ หรือนำไปผูก เฉียงพร้าหรือไม้ที่ประพรหมน้ำมนต์ เป็นต้น
บางท่านก็นำไปผูกไว้บนเปลลูก หรือเอาไว้บนหิ้งที่บ้าน
โบราณท่านว่า พุทธคุณของพิรอดนี้ เเคล้วคลาด ปลอดภัย กันเขี้ยว กันพิษ เเละกันสนียดจัญไร ของอุบาดชั้นต่ำได้ เเละคนที่หวังร้ายก็จะทำอะไรมิได้ ท่านอาจารย์หลายท่านจึงสวมเเหวนพิรอดนี้มาโดยตลอด บางท่านก็ตลอดชีวิตจนสิ้นลม
ในการจัดสร้างเเต่ละครั้งนั้น ต้องใช้ชนวน มวลสาร หลากหลายชนิด เช่นชนวนโบราณชั้นครูนั้นเอง เเละครั้งประวัติศาสตร์ของวัดเขาอ้อ
พิธี 900 ปี วัดเขาอ้อ พุทธาภิเษก วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม 2552 ณ มณฑลพิธี ถ้ำฉัตรทัณฑ์บรรพต เวลา 13.49น.
รายนามพระเกจิอาจารย์นั่งปรก
1. พระอธิการห้อง ธมมฺวโร เจ้าอาวาส วัดเขาอ้อ
2. พรครูพิพิธวรกิจ (หลวงพ่อคล้อย) เจ้าอาวาสวัดภูเขาทอง
3. พระครูขันตยาภรณ์ (หลวงพ่อพรหม) เจ้าอาวาสวัดบ้านสวน
4. พระครูโสภณกิตยาทร (อาจารย์รรรสิริ) รองเจ้าอาวาสวัดบ้านสวน
5. พระครูสังฆรักษ์ เอียด ครุธมฺโม (หลวงพ่อเอียด) เจ้าอาวาสวัดโคกแย้ม
6. พระครูวิจิตรธรรมภาณ (หลวงพ่อสลับ) เจ้าอาวาสวัดป่าตอ
7. พระครูวิโรจน์ศาสนกิจ (หลวงพ่อช่วง) เจ้าอาวาสวัดควนปันตาราม
8. เจ้าอธิการวิษณุ กิตติวํณโน เจ้าอาวาสวัดประดู่หอม
9. พระครูวิจิตรกิจจาภรณ์ (อาจารย์เถียร) เจ้าอาวาสวัดโคกโดน
10. พระครูสุธรรมวัฒน์ (หลวงพ่อเหวียน) เจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง
11. พระมหาอุทัย วิมโลก (หลวงพ่ออุทัย) เจ้าอาวาสวัดดอนศาลา
โดยมีพราหมณ์เปลี่ยน หัทยานนท์ ศิษย์ฆราวาสสายเขาอ้อ ศิษย์เอกอาจารย์ปาน ปาลธฺมโม เป็นเจ้าพิธี
แหวนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางด้านใน 1.9 c.m. ทำจากโลหะผสม ที่นำเอาแผ่นยันต์จากอาจารย์ต่างๆมาหลอมเข้าด้วยกัน แหวนช่อไพเราะนี้ ดีทางเมตตามหานิยมและปกป้องคุ้มครองภัยทั้งปวง เเละกันสนียดจัญไร ของอุบาดชั้นต่ำได้ เเละคนที่หวังร้ายก็จะทำอะไรมิได้
=====================================
วัดเขาอ้อ พัทลุง สำนักตักศิลาไสยเวทย์และเวชศาสตร์อันเลื่องลือ ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งประเทศไทย
ถ้าพูดถึงไสยเวทย์ วิชาอาคม คงกระพันแห่งแดนใต้ ต้องยกให้ที่นี่เลย วัดเขาอ้อ สำนักตักศิลาไสยเวทย์และเวชภัณฑ์ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในภาคใต้
อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนาที่เต็มไปด้วยความเข้มขลัง ลี้ลับ และน่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง
วัดเขาอ้อหรือสำนักเขาอ้อ ตั้งอยู่ที่ตำบลมะกอกเหนือ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุงเป็นวัดเก่าแก่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ในด้านวิชาอาคมมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่เดิมวัดเขาอ้อเคยเป็นสำนักพราหมณ์มาก่อน โดยมีพระเกจิอาจารย์หลายท่านเป็นผู้สืบทอดวิชาไสยเวทย์ ซึ่งเป็นศาสตร์ลับแห่งความแข็งแกร่ง และสมุนไพรการแพทย์แผนโบราณ โดยเชื่อว่าใครได้เข้าร่วมทำพิธีกรรมที่วัดเขาอ้อ ทำให้หนังเหนียว อยู่ยงคงกระพันชาตรี ฟันแทงไม่เข้า แม้แต่ขุนพันธรักษ์ราชเดช ท่านก็เคยเป็นลูกศิษย์ที่วัดเขาอ้อ
พิธีกรรมสำคัญของวัดเขาอ้อ ที่ได้รับการกล่าวขานถึงตำนานความศักดิ์สิทธิ์ เช่น พิธีกรรมรับศิษย์ พิธีกรรมทำน้ำพุทธมนต์ การสะเดาะเคราะห์ พิธีกรรมแช่ว่านยา พิธีกรรมกินว่านยา พิธีกรรมกินข้าวเหนียวดำ พิธีกรรมกินน้ำมันงา และการสร้างพระเครื่องต่างๆ สถานที่นี้จึงเปรียบเสมือนสรรพเวทย์สรรพยาแห่งปักษ์ใต้ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังศรัทธาจากผู้คนทั่วทุกสารทิศ ต่างหลั่งไหลกันมาที่วัดแห่งนี้เป็นจำนวนมาก
วัดเขาอ้อ ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาอ้อ ซึ่งเป็นภูเขาที่มีลักษณะเหมือนช้างนอน มีความสำคัญทางโบราณคดี และประวัติศาสตร์กว่า 1,000 ปี ภายในวัดเขาอ้อ เต็มไปด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์เกจิอาจารย์ พระพุทธรูปเก่าแก่ที่อยู่ในถ้ำฉัททันต์บรรพต องค์ฤๅษี เทพเจ้าต่างๆ รวมถึงการให้เช่าบูชาพระ และความสวยงามของสถาปัตยกรรมวิหาร อุโบสถ
ถ้ำฉัททันต์บรรพต วัดเขาอ้อ เป็นถ้ำโบราณดึกดำบรรพ์หลายล้านปี เมื่อเข้ามาภายในถ้ำรู้สึกร่มเย็น สวยงามอลังการ รับรู้ได้ถึงความเข้มขลังและความศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากถ้ำฉัททันต์บรรพตใช้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมทางความเชื่อด้านไสยเวทย์ การปลุกเสกวัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง และบำเพ็ญศีลภาวนา ซึ่งความมหัศจรรย์ของถ้ำฉัททันต์บรรพต ก็คือหินปูนที่มีรูปร่างคล้ายกับหัวช้าง และภูเขาอ้อที่มีลักษณะเหมือนช้างนอน จึงเป็นที่มาของชื่อถ้ำฉัททันต์บรรพต ซึ่งคำว่า "ฉัททันต์" หมายถึง ชื่อช้างตระกูลหนึ่งในป่าหิมพานต์ ส่วนคำว่า "บรรพต" หมายถึง ภูเขา นั่นเอง
ว่ากันว่าถ้ามาถึงเขาอ้อ ไม่ได้ขึ้นเขาอ้อ ก็เหมือนมาไม่ถึงซึ่งบันไดทางขึ้นมีทั้งหมด 109 ขั้น ระหว่างทางเดินขึ้นไปจะพบกับรางแช่ว่านยา สิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย เช่น พระบรมธาตุเจดีย์น้อย พระพุทธบาทจำลอง หลวงพ่อโต ถ้ำน้อยจำศีลให้ลาภ นอกจากนี้ยังได้สูดอากาศบริสุทธิ์ พร้อมกับชมวิวความสวยงามของทัศนียภาพ
วัดเขาอ้อ ยังมีสถานที่สำคัญบนเขาอ้ออีกหลายแห่ง เช่น ถ้ำไทร ถ้ำท้องพระโรง ซึ่งการมาเที่ยววัดเขาอ้อทุกคนจะได้สัมผัสถึงความขลัง ความน่าพิศวง และธรรมชาติบนเขาอ้อ
วัดเขาอ้อ พัทลุงสำหรับใครที่สนใจมาเที่ยวพัทลุง วัดเขาอ้อ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ตลอดจนเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชน ดังนั้นอย่าลืมแวะมาเที่ยว ทำบุญขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดเขาอ้อกันได้นะครับ
ข้อมูล : วัดเขาอ้อ พัทลุง
=====================================
วัดเขาอ้อ” จ. พัทลุง แหล่งวิทยาคมไสยศาสตร์ ศิษย์ใช้วิชาไสยชนะพม่า เมื่อ 200 กว่าปีก่อน...
วัดเขาอ้อ จังหวัดพัทลุง เป็นแหล่งวิทยาคมทางไสยศาสตร์ที่มีความสำคัญกับชาวพัทลุงและคนไทยมาช้านาน ตำนานเล่าว่าในอดีตพื้นที่แห่งนี้เป็นที่บำเพ็ญพรตของพราหมณ์มาหลายรุ่น เป็นแหล่งถ่ายทอดวิชาให้คณาศิษย์ในเรื่องการปกครองตามตำราธรรมศาสตร์ พิธีกรรมการจัดทัพ รวมถึง ไสยเวท และการแพทย์
วัดเขาอ้อ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1651 หรือหากให้นับก็กว่า 900 ปี เป็นวัดที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในสมัยอยุธยา ก่อนจะถูกทิ้งร้าง จนเมื่อพระมหาอินทราชเดินทางจากเมืองปัตตานีมาจำวัดที่นี่ ก็ได้เป็นเจ้าอาวาส และทำการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่
แต่เมื่อพระมหาอินทราชออกจากวัดไป วัดก็เสื่อมโทรมอีกครั้ง จนท่านปะขาวขุนแก้วเสนาและขุนศรีสมบัติ รวมถึงชาวบ้าน ได้ไปนิมนต์พระมหาคง จากวัดพนางตุง มาเป็นเจ้าอาวาส ที่นี่จึงกลับมาเจริญรุ่งเรือง มีเจ้าอาวาสปกครองเรื่อยมา และเจ้าอาวาสแต่ละรูปล้วนมีความสามารถในเรื่องไสยศาสตร์
การศึกษาไสยศาสตร์ที่วัดเขาอ้อ จังหวัดพัทลุง เป็นที่เลื่องชื่อมาเนิ่นนาน
มีบันทึกไว้ว่าเมื่อ พ.ศ. 2328 พระอาจารย์และศิษย์ที่วัดแห่งนี้ช่วยกันใช้ความรู้ไสยเวท ช่วยให้สยามรอดพ้นจากการถูกกองทัพพม่าโจมตี โดยพระมหาช่วย จากวัดป่าเลไลย์ ชาวบ้านน้ำเลือด ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของวัดเขาอ้อแห่งนี้ ได้ลงตะกรุด ผ้าประเจียด ให้กับไพร่พล แล้วไปคอยรับศึกทัพพม่า
นอกจากนี้ยังได้ทำการผูกหุ่นพยนต์เข้าช่วยเป็นทหารสูงใหญ่จำนวนมาก เมื่อทัพพม่ามาถึงก็เห็นว่ากองกำลังฝ่ายสยามมีเยอะกว่า แม้แท้จริงแล้วจะมีน้อยกว่า เนื่องจากอำนาจของมนตร์และคาถาที่พระมหาช่วยนั่งบริกรรมอยู่เบื้องหลัง จึงทำให้พม่าถอยทัพไป..
ต่อมา พระมหาช่วยจึงได้ลาสิกขา และได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “พระยาทุกขราษฎร์” ผู้ช่วยราชการเมืองพัทลุง ด้วยคุณงามความดีของท่าน จึงมีการสร้างอนุสาวรีย์ให้ท่านที่สามแยก ท่ามิหรำ อ. เมือง จ. พัทลุง
เป็นอีกหนึ่งเรื่องเล่าที่แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญ ความแกร่งกล้า และความสำคัญของวัดหรือสำนักเขาอ้อ ที่มีมาเนิ่นนาน...ขอบคุณข้อมูลจากsilpa-mag.com ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |