พระสมเด็จองค์ปฐม หลังหลวงพ่อฤาษีลิงดำ รุ่นถวายสังฆทาน วัดท่าซุง ปี 2536 (เลี่ยมเงินแท้ พร้อมใช้)

พระผงสมเด็จองค์ปฐม หลังรูปเหมือนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ รุ่นถวายสังฆทาน วัดท่าซุง ปี 2536 (เลี่ยมเงินแท้ พร้อมใช้)

รุ่นถวายสังฆทาน จัดสร้างปี 2536 พิธีเสาร์5 ณ วัดท่าซุง

มวลสารหลักก็เป็นผงดินสอพองหลวงพ่อปลุกเสก 1 ไตรมาสปี 2517 พร้อมพระทุ่งเศรษฐี ผงคำข้าวทุกๆรุ่น

ผงพระหางหมากทุกรุ่น เเละมวลสารที่พุทธภิเษกทุกๆรุ่นที่พุทธภิเษกในอุโบสถ

และน้ำมันชาตรี ผสมเกศาหลวงพ่อเอาไว้ด้วย

🔰 พุทธคุณ เมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันภูติผีปีศาจ คุณไสยและมนต์ดำทั้งปวง

ที่ระลึกถวายสังฆทาน พุทธคุณเทียบเท่ากับวัตถุมงคลทุกรุ่นที่ทันหลวงพ่อท่านสร้าง

#พระชุดนี้สร้างโดย พระครูปลัดอนันต์ พัทธญาโณ เจ้าอาวาสวัดท่าซุง เพื่อเป็นที่ระลึก สำหรับผู้ ถวายสังฑทาน และ ร่วมบุญต่าง ๆ กับทางวัด

#~ประวัติการสร้างสมเด็จองค์ปฐมรุ่นถวายสังฆทานโดยนำมวลสารเดิมมาเป็นส่วนผสม คือ ผงดินสอพองปลุกเสกครบ ๓ เดือน เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๗

ผงนี้ปลุกครบไตรมาส หลวงพ่อกล่าวว่า " ต่อไปจะไม่มีเวลาทำครบไตรมาสอีกแล้ว

" ด้านหน้า~ เป็นรูปสมเด็จองค์ปฐม ประทับนั่งเต็มองค์ บนซุ้มซ้าย ขวา มีข้อความว่า สมเด็จ – องค์ปฐม ด้านหลัง~เป็นรูปหลวงพ่อครึ่งองค์ ด้านล่าง มีข้อความว่า หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

~พระคาถาอาราธนา วัตถุมงคล ของหลวงพ่อฤาษี ฯ ยกวัตถุมงคล ขึ้นพนมมือ

ตั้งนะโม ๓ จบ แล้ว อาราธนาพระคาถา ๓ จบ ดังนี้

" อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะ เดชัง ขอเดช เดชะ จงมาเป็นที่พึ่ง แก่ มะอะอุ นี้เถิด

" * อิทธิฤทธิ อ่านว่า อิดทิ ริดทิ *

#วัตถุมงคลหลวงพ่อ ทุกชนิด ทุกชิ้น ย่อมมีเทวดา คุ้มครองรักษา อย่างน้อย ๑ องค์ และล้วนมีประสบการณ์สูง ควรพก แขวน ติดตัว อาราธนาไว้เสมอ

มีอานุภาพป้องกัน สรรพอันตราย ทั้งปวง แคล้วคลาด เดินทางปลอดภัย ดีทั้งโชคลาภ เด่นทั้งเมตตามหามงคล

อาราธนาได้ตามใจปรารถนา แต่ต้องไม่เกิน กฎของกรรม และไม่มีผลต่อท่านที่เป็น มิจฉาทิฏฐิ เก็บสะสมเพื่อเป็นมรดกให้ลูก ให้หลาน เป็นของฝาก ของขวัญ อันล้ำค่า แก่ผู้มีคุณ

ต่อบุคคลที่เรารัก ในอนาคต จะหายาก

=====================================

พระสุปฏิปันโนกล่าวถึง..หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณหลวงพ่อ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น ชุตินธโร) วัดสามพระยา

ท่านปรารภกับท่าน พระครูปลัดอนันต์ พัทธญาโณ เจ้าอาวาสวัดท่าซุง ว่า

".......คำสอนของท่านเจ้าคุณพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) ใช้เป็นตำราได้ทั้งหมดนะ "

หลวงปู่ดาบส สุมโณ พูดถึงหลวงพ่อฤๅษีฯ ว่า

".....พระคุณเจ้าองค์นั้น เป็นอรหันต์องค์เอกองค์หนึ่งของโลกในปลายศาสนา ๕๐๐๐ ปี จะหาใครสอนเสมอเหมือนพระคุณท่านหาไม่ได้แล้ว พระคุณท่านองค์นั้นสอนได้คล้ายพระพุทธเจ้าสอน เพราะท่านปรารถนาพระโพธิญาณ

ถ้าท่านไม่ลาพุทธภูมิหักใจเป็นพระอรหันตสาวกเสียก่อน ท่านเทศน์คราวไร เรา..พวกเรานี้ที่บำเพ็ญบารมีตามท่านมา ก็จะฟังเทศน์จากท่านเพียงครั้งเดียวก็จะเป็นพระอรหันต์ตามได้

จำไว้นะ..กลับไปฟังคำสอนของพระคุณท่าน ฟังเทปของท่าน ดูวีดีโอของท่าน ให้ส่งจิตคิดตามเสียงท่าน ประหนึ่งว่าเป็นเสียงในใจเรา ก็อาจจะบรรลุมรรคผลได้ตามที่ตัดสินใจ ตามเสียงนั้นเฉพาะหน้า เหมือนฟังจากพระพุทธเจ้านั่นแหละ องค์นี้หาใครสอนได้เสมือนท่านยากนักหนาแล้ว"

พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระญาณสิทธาจารย์ (หลวงปู่สิม พุทธาจาโร) บอกว่า

"......หลวงพ่อมหาวีระ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) ท่านเป็นโลกวิทู แจ้งทั้งโลก แจ้งทั้งธรรม"

หลวงปู่บุดดา ถาวโร ยังปรารภถึงหลวงพ่อว่า

".......หลวงปู่น่ะเหมือนหิ่งห้อย หลวงพ่อมหาวีระ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) นั้นเหมือนพระอาทิตย์"

หลวงปู่ครูบาคำแสน (เล็ก) ท่านบอกว่า

“หลวงปู่บวชมา ๖๐ กว่าพรรษาเข้านี่แล้วยังไม่เคยพบ พระองค์ไหนเหมือนหลวงพ่อ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)”

หลวงปู่ดู่ กล่าวถึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำ...

"....ท่านมหาวีระ ท่านมีบารมีสูง มีข้างบนเป็นกำลังหนุน เป็นอาจารย์ใหญ่สอนคนได้จำนวนมาก ข้าขอโมทนา พวกแกเกิดมาพบพระอรหันต์ที่มีบารมีสูง อย่าให้เสียทีที่ได้พบ เอาสิ่งที่ตนปฏิบัติบัติได้(ญาณ) มาอบรมตนเอง

ส่วนหลวงพ่อฤๅษีลิงดำฝากศิษย์ไปกราบหลวงปู่ดู่

"......หลวงปู่เคยปรารภหลายครั้งว่าสอนกรรมฐานให้เด็ก ๆ นั้น ง่ายกว่าผู้ใหญ่ เพราะผู้ใหญ่อ่านมามาก ฟังมามาก สอนคนรู้มากนั้นสอนยาก เพราะมักมีความลังเลสงสัย อันเป็นนิวรณ์หรืออุปสรรคต่อการทำจิตให้เป็นสมาธิ

บางครั้งหลวงปู่ก็หลอกให้เด็กอ่านหนังสือธรรมะให้ท่านฟังในยามบ่าย ปลอดจากผู้คนที่มากวนท่าน นัยว่าเด็ก ๆ จะได้ซึมซับธรรมะที่ตนกำลังอ่านอยู่ ที่ข้าพเจ้าสังเกต ก็มักเป็นหนังสือของ "หลวงพ่อฤาษีลิงดำ" ซึ่งมีเรื่องตัวอย่างภพภูมิและกฎแห่งกรรมอยู่อย่างมากมาย

หลวงปู่เคยพูดว่า "หนังสือของท่านมหาวีระ..อ่านดี"

จาก หนังสือลูกศิษย์บันทึก เล่ม ๒ พระอาจารย์บุญรัตน์ กันตจาโร อดีตเจ้าอาวาสวัดโขงขาว ได้บันทึกไว้ว่า

"....ในปีพ.ศ. ๒๕๑๕ หลวงปู่ชุ่ม โพธิโก หลวงปู่คำแสน คุณาลังกาโร กำลังสนทนาธรรมกันที่วัดป่าดอนมูล อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ผู้เขียนกำลังรับฟังธรรม จากพระเดชพระคุณท่านฯ ทั้งสองอยู่ หลวงปู่ชุ่มก็หันหน้ามาบอกผู้เขียนว่า

“ท่านบุญรัตน์ ให้ไปกราบหลวงพ่อใหญ่ วัดท่าซุงหน่อย ท่านเป็นพระทอง หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ท่านเปี่ยมด้วยเมตตาบารมี ใครได้กราบไหว้ก็เป็นบุญกุศลใหญ่นัก”

หลวงปู่คำแสนซึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆ ก็กล่าวเสริมขึ้นว่า

“เออ..ดีมาก หลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นผู้ประกอบไปด้วยเมตตาธรรมอันสูงส่ง เหมือนกับครูบาศรีวิชัย หาที่ไหนไม่ได้แล้ว”

ผู้เขียนได้รับฟังหลวงปู่ทั้งสององค์บอกกล่าว ดังนั้นก็ก้มกราบเท้าทั้งสองหลวงปู่ด้วยความอิ่มอกอิ่มใจจนน้ำตาไหล หลวงปู่ชุ่มบอกว่า

“.....พระเดชพระคุณหลวงพ่อวีระ วัดท่าซุงนี่ท่านเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมอันสูงมาก บารมีสูง ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของท่าน ท่านจะไม่มาอีกแล้ว จะเข้าสู่พระนิพพาน เพราะฉะนั้นท่านจึงสั่งสอนให้ลูกหลานและศิษย์ท่านปฏิบัติให้เข้าถึงพระนิพพานกันหมด”

หลวงปู่ชุ่มบอกกับผู้เขียนว่า

“ขอให้ท่านจงได้ปฏิบัติติดตามคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเถอะ จะได้ถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้”

ผู้เขียนก็น้อมรับว่า “สาธุ” ตั้งแต่นั้นมาผู้เขียนก็ได้มีโอกาสได้ไปกราบเท่าพระเดชพระคุณเจ้าประคุณหลวงพ่อฯ อีกหลายครั้ง

หลวงปู่ครูบาวงศ์ กล่าวถึงหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

บันทึกเรื่อง "หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ" โดย อ.เล็ก พลูโต

......ตอนบ่าย ครูบานั่งรับแขกที่กุฏิ ผู้บันทึกนั่งข้างล่างช่วยครูบา เพื่ออำนวยความสะดวกญาติโยมที่มาทำบุญ พอหมดแขก ครูบานั่งพักผ่อน ผู้บันทึกมองเห็นรูป "หลวงพ่อฤาษีลิงดำ" ที่ข้างฝา ลูกศิษย์ท่านเอามาถวาย

ผู้บันทึกถาม... ครูบาเคยเป็นอะไรกับหลวงพ่อฤาษี

ครูบาท่านตอบ.... ตอนที่เจอกัน หลวงพ่อฤาษีบอกครูบาวงศ์ว่า ท่านเป็นพี่ ส่วนครูบาวงศ์ เป็นน้อง

ผู้บันทึก.. เคยเกิดเป็นอะไรมาเยอะเหรอครับ

ครูบาตอบ... ก็เยอะ (ทำเสียงเยอะ) ก็เวียนว่ายนับไม่ถ้วน

ครั้งหนึ่ง หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้กล่าวแก่ลูกศิษย์ครูบาวงศ์ฯ ว่า

“พระดีแบบครูบาวงศ์ไม่มีอีกแล้ว หาได้ยาก…..พวกลูกมีบุญมาก และโชคดีที่มาพบพระระดับหลวงพ่อวงศ์ ซึ่งเป็นพระปฏิบัติดี มีคุณธรรมสูง หลวงพ่อได้อะไร หลวงพ่อวงศ์ก็ได้เช่นเดียวกัน ไม่ด้อยไปกว่ากันเลย…. อย่าเสียทีที่เกิดมามีบุญ ได้พบพระระดับหลวงพ่อวงศ์”

ที่มา - ครูบาเจ้าศรีวิชัย (๒๙) โดย อ.เล็ก พลูโต

"..พระดี จะหาอะไรดียิ่งกว่านั้นไปอีก .."

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโณ กล่าวถึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

**************************************

**************************************

สมเด็จองค์ปฐม ประธานของพระพุทธเจ้าทั้งปวง

เมื่อครั้นสมเด็จพระพุทธสิกขีทรงอุบัติในโลกมนุษย์ ในเวลานั้นมนุษย์มีอายุไขประมาณ ๘ หมื่นปี พระพุทธสิกขีทรงออกผนวชเมื่อพระชนมายุได้ ๔ หมื่นปี และหลังจากออกผนวชได้ ๒ หมื่นปี ก็ได้บรรลุอภิเษกสัมมาโพธิญาณตรัสรู้ เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์แรกของโลก

พระพุทธสิกขีทรงใช้เวลาอันยาวนานกว่า ๔๐ อสงไขยกัปเศษ ในการบำเพ็ญพระบารมี แสวงหาพระโพธิญาณด้วยพระองค์เอง สาเหตุที่พระองค์ทรงใช้ระยะเวลาบำเพ็ญพระบารมียาวนานกว่าพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันมากกว่า ๑๐ เท่า เนื่องจากพระพุทธสิกขีเป็นพระพุทธเจ้าองค์แรก จึงไม่มีแบบอย่างแนวทางในการศึกษาปฏิบัติธรรม เพื่อบรรลุพระโพธิญาณเป็นพระโพธิสัตว์ พระพุทธสิกขีทรงโปรดเวไนยสัตว์นาน ๒ หมื่นปีหลังการตรัสรู้ จากนั้นจึงได้เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน

การค้นพบสมเด็จองค์ปฐมครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๑ โดยพระราชพรหมยาน หรือหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ จากวัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี พระเดชพระคุณหลวงพ่อเสร็จจากการสอนพระกรรมฐานก็ได้ทำสมาธิ ท่านได้เห็นพระพุทธเจ้าในปางพระนิพพานหลายพระองค์ ทรงยืนสองแถวยาวเหยียด พร้อมพนมมือขึ้นไหว้ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำนึกในใจว่าท่านคงอุปทานไป เพราะพระพุทธเจ้าไม่ทรงก้มเศียรให้ใคร แม้ในยามเสด็จเข้าใกล้บ้านเรือนหลังเล็กที่มีหลังคาต่ำ หลังคาบ้านเรือนก็จะสูงขึ้นเองเมื่อพระพุทธองค์เสด็จย่างกรายเข้าใกล้ แต่ ณ เวลานี้ท่านทรงเห็นพระพุทธเจ้าทรงก้มเศียรยืนพนมมือ และหลังจากนั้นอุปทานในใจก็หายไปสิ้น หลวงพ่อฤๅษีลิงดำได้เห็นสมเด็จองค์ปฐมปรากฎพระวรกายขึ้น รูปร่างใหญ่โตมาก สูงมาก ทรงปรากฏกายในปางพระนิพพาน ทรงพระดำเนินอยู่ตรงกลางระหว่างพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์

สมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๑ เป็นต้นพระวงศ์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ และยกให้เป็นสมเด็จองค์ปฐมบรมครูอย่างแท้จริง

**************************************

#พระสมเด็จองค์ปฐม

หลวงพ่อฤาษีท่านได้กล่าวว่า พระสมเด็จองค์ปฐมนี้มีลาภดีนักหนา และชนะมารผู้ใดที่อาราธนาสมเด็จองค์ปฐมไว้บูชา หากใครก็ตามไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ก็ดี อมนุษย์ก็ดีหรือสัตว์ร้ายก็ดี มีจิตคิดร้ายกับเราจะร้อนรุ่มจนทนไม่ได้ต้องถอยไปในที่สุด