ตะกรุดพุทธทำนาย (จารมือ) ขนาด 3.5 นิ้ว หลวงพ่อคล้อย วัดภูเขาทอง (เทพเจ้าแห่งความเมตตา)

=========================

การจารตะกรุดไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่อยากเขียนอะไรก็เขียนได้ แบบการลอกลาย มันต้องเริ่มจากการเชิญครู ประสิทธิปากกาหรือเหล็กจาร ดูกฤษ์ผานาที ขณะเวลาที่จรดปากกาจารลงไปนั้น ปากต้องภาวนา ตาต้องจ้อง มือต้องเขียน เมื่อเขียนอักขระผิดก็ต้องโยนทิ้ง เขียนทับกันยันต์วิบัตก็ต้องโยนทิ้ง เมื่อเขียนได้แล้วยังต้องเอามาภาวนาปลุกเสกซ้ำจนมั่นใจ ถึงจะนำไปแจก ให้บูชา กว่าจะได้แต่ละดอกมันจึงยาก

========================================

ประวัติหลวงพ่อคล้อย อโนโม วัดภูเขาทอง (เทพเจ้าแห่งความเมตตา)

หลวงพ่อคล้อย เป็นพระเกจิอาจารย์ อันดันหนึ่ง สำนักตักศิลาเขาอ้อ

สำนักตักศิลาเขาอ้อ คือ ต้นกำเนิด ไสยเวทพุทธาคม ที่มีชื่อเสียงโด่งดังหนึ่งเดียวในสยามเมืองใต้ .. พ่อท่านคล้อย เป็นศิตย์สายตรงที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมอักขระเลขยันต์สายเขาอ้อ จากพระอาจารย์เอียด ปทุมสโร วัดดอนศาลา ซึ่งเป็นหนึ่งในสาขาวิชาเขาอ้อ

อักขระยันต์ของดีวิชาโบราณ เป็นของไสยศาสตร์ลี้ลับที่สืบทอดวิชาสำนักเขาอ้อกันมาเป็นพันๆ ปี ยังคงความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ตลอดกาล โดยมีพระเกจิชื่อดังในอดีต ล้วนเป็นศิตย์สำนักเขาอ้อ เช่น พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา พระอาจารย์เอียด พระอาจารย์ปาน วัดเขาอ้อ และพระเกจิชื่อดังอื่นๆ อีกหลายรูปค่ะ

ปัจจุบัน พระเครื่องของเกจิอาจารย์เหล่านี้ มีราคาประเมินค่ามิได้ แถมหาของแท้ สวยๆ ไม่ได้ง่ายๆค่ะ วันนี้ เป็นโอกาสดีแล้ว ที่เราจะได้บูชา เหรียญดี มีพุทธคุณสูงครอบจักรวาล และสวยงามมาก พร้อมยอดจัดสร้างที่ไม่มาก มีโค้ด หมายเลข ทุกเหรียญ เก็บไว้เป็นที่ระลึก คนละเหรียญสองเหรียญ ต่อไปภายภาคหน้า คงหาไม่ได้ง่ายๆ เช่นกันค่ะ

หลวงพ่อคล้อย ท่านยังเป็นหลานแท้ๆ พระอาจารย์เอียด วัดดอนศาลา ท่านจึงได้รับการถ่ายทอดวิชามาจาก พ่อท่านเอียด และพ่อท่านปาน อย่างแน่นอน ...

วัตถุมงคลที่ พ่อท่านคล้อยปลุกเสก จึงมีประสบการณ์เสมอ

ปัจจุบัน งานปลุกเสกพระเกือบทุกรุ่น ก็นิมนต์ท่านมาปลุกเสกด้วย แม้แต่ ภาคกลาง ภาคเหนือ ก็ยังต้องนิมนต์ หลวงพ่อคล้อย ท่านมาร่วมปลุกเสกด้วยเสมอ แสดงว่าท่านต้องไม่ธรรมดาแน่นอน

หลวงพ่อคล้อยได้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดภูเขาทอง ท่านได้พัฒนาวัดมาอย่างต่อเนื่องไม่เคยว่างเว้น เสนาสนะแทบทุกอย่างภายในวัดภูเขาทอง อาทิ อุโบสถ ศาลาการเปรียญ เมรุ กุฏิสงฆ์ กำแพงแก้ว หอระฆัง ฯลฯ ล้วนเกิดจากความมีวิริยะ อุตสาหะของท่านทั้งสิ้น แต่กาลเวลาเนิ่นนานย่อมทำให้เสนาสนะและสิ่งปลูกสร้างต่างๆภายในวัดเกิดการเสื่อมสภาพ ต้องได้รับการฟื้นฟูบูรณะให้มีสภาพดีคงเดิม อุโบสถของวัดภูเขาทองหลังนี้ก็เช่นกัน หลวงพ่อคล้อยสร้างมาตั้งแต่ปี 2522 ปัจจุบันยังเสร็จไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ท่านจึงมีดำริที่จะทำการบูรณะปฎิสังขรณ์ให้มีความงดงาม สามารถใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้อย่างสมบูรณ์ โดยจะให้มีการผูกพัทธสีมาและฝังลูกนิตในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่อเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาให้มีความยั่งยืน จึงอยากบอกบุญมายังพุทธศาสนิกชนได้ร่วมในบุญครั้งนี้ด้วย

แม้นว่าหลวงพ่อคล้อยจะได้รับการยอมรับจากชาวไทยและชาวต่างประเทศว่า ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์สายใต้ที่มีวิชาอาคมแก่กล้า เข้มขลัง มีอาวุโสสูงรูปหนึ่งในสายเขาอ้อ(ตักศิลาทางไสยเวทของเมืองไทย) แต่ด้านการสอนสั่งในพระพุทธศาสนาท่านก็ถือยึดแนวตามหลักคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ สอนให้พุทธศาสนิกชนทุกคนจงใช้สติ ระลึกได้ก่อนกระทำ พูด คิด และมีสติสัมปชัญญะ รู้ตัวขณะทำ พูดและคิด มีเมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย

แม้วัยของหลวงพ่อคล้อยล่วงเลยมาจนครบ 7 รอบ 84 ปีแล้ว แต่หากไม่มีกิจนิมนต์ที่ต้องเดินทางไกล ผู้มีโอกาสไปวัดภูเขาทองจะเห็นภาพของพระเกจิร่างเล็กผู้เรืองเวทกวาดใบไม้ลานวัดหน้ากุฏิอยู่เสมอๆ ท่านบอกว่าอยากให้วัดมีความสะอาดมีความเป็นระเบียบ ใครมาวัดก็จะได้ดูร่มรื่นสบายใจ และถือว่าเป็นการออกกำลังกายไปในตัวด้วย ท่านเป็นพระเกจิที่มีสุขภาพจิตดีและมีอารมณ์ขันมากๆ เวลาท่านมีบรรดาญาติโยมไปกราบนมัสการ ท่านก็มีเมตตาออกรับแขกทุกคนโดยไม่เลือกชนชั้นวรรณะ จะมีเรื่องเก่าๆเล่าให้ฟังแฝงด้วยคติคำสอนตลอดเวลา ก่อนญาติโยมจะลากลับท่านก็จะเรียกลูกศิษย์ที่คอยดูแลปรนนิบัติให้เข้าไปในกุฏิเพื่อหยิบเอาวัตถุ มงคลของท่านมาแจกให้ทุกครั้งคนละหนึ่งองค์ แล้วก็จะกล่าวกำชับเชิงหยอกล้อว่า " รูปของเรา ของแท้ๆจงเก็บรักษาไว้ให้ดีนะ อย่าให้ใครมาหลอกเอาไปอีกล่ะ " แล้วก็มีเสียงหัวเราะตามมาทั้งผู้รับและผู้ให้...