ไฮไลท์
เหรียญกลมเล็ก หลังดอกบัว
(หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง)
จังหวัดเชียงใหม่ สร้างปี 2528
♦พุทธคุณสูงบูชาไว้คุ้มครองตัวเราและคนรอบข้างดีมากๆค่ะ
♦เหรียญมีขนาด 2.3 cm x 2.65 cm
💠 เหรียญหลวงปู่แหวน สุจิณโณ
สร้างวาระฉลองอายุครบ 98 ปี
วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ สภาพสวยเดิมๆ
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ท่านเป็นศิษย์ยุคต้นของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
โดยท่านได้ศึกษาปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดและธุดงค์ไปทั่วทั้งภาคอีสาน ลาว พม่า จนช่วงบั้นปลายท่านได้มาสร้างวัดดอยแม่ปั๋งที่จ.เชียงใหม่
👉 ประสบการณ์เกี่ยวกับพุทธคุณและความศักดิ์สิทธิ์ของท่านที่เล่าขานกันเป็นตำนานเรื่องหนึ่งได้แก่ที่เชื่อว่าท่านได้แสดงปาฏิหารย์ขึ้นไปยืนบนก้อนเมฆให้นักบินที่บินผ่านวัดดอยแม่ปั๋งได้เห็นอยู่หลายครั้ง จนทหารเริ่มทำการสืบเสาะหาวัดของท่าน จึงทำให้คนได้เริ่มรู้จักหลวงปู่แหวนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บรรดาลูกศิษย์ทั้งข้าราชการทหารตำรวจพ่อค้าและประชาชนต่างพากันสร้างพระเครื่องวัตถุมงคลนำมาให้ท่านปลุกเสก
⭐ อธิษฐานจิตเป็นจำนวนมากมายหลายรุ่น สำหรับเหรียญที่นำลงประมูลนี้เป็นเหรียญหลวงปู่แหวน เหรียญรุ่นนี้สร้างปี พ.ศ.๒๕๒๑ เข้าพิธีที่หลวงปู่แหวนปลุกเสกอธิษฐานจิตในปีพ.ศ.๒๕๒๑ โดยสร้างเป็นเนื้อทองแดงเป็นเหรียญที่ออกแบบได้สวยงามทั้งด้านหน้าซึ่งเป็นรูปเหมือนของท่านและด้านหลังลงอักขระยันต์เนื้อทองแดง
⭐ หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง
ท่านได้อธิษฐานจิต วัตถุมงคลต่างๆมากมายหลายรุ่น ล้วนมีประสบการณ์ด้านแคล้วคลาด ปลอดภัย เมตตามหานิยม สำหรับเหรียญที่นำลงประมูลเป็นเหรียญที่สร้างในวาระฉลองอายุหลวงปู่ครบ 98 ปีเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2528
🔸 ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนหลวงปู่ที่แกะบล็อกได้สวยงามเหมือนท่านมากและ
🔸 ด้านหลังเป็นรูปดอกบัว 8 ดอก สภาพสวยมาก
❇❇❇❇❇❇❇❇❇❇❇❇
🔰ประวัติ หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง
ชาติกำเนิดและชีวิตปฐมวัย
หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ เดิมชื่อ ญาณ หรือ ยาน รามศิริ เกิดวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2430 วันจันทร์ ขึ้น 3 ค่ำ ปีกุน ณ บ้านนาโป่งบ้างก็ว่า บ้านหนองบอน ตำบลหนองใน (ปัจจุบันเป็น ตำบลนาโป่ง) อำเภอเมือง จังหวัดเลย ท่านเกิดในตระกูลช่างตีเหล็ก เป็นบุตรคนที่ 2 (คนสุดท้อง) ของ นายใส หรือ สาย กับ นางแก้ว รามศิริ มีพี่สาวร่วมท้องเดียวกัน 1 คน
หลวงปู่แหวน ได้รับการบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อปี พ.ศ. 2439 มีอายุได้ 9 ปี ที่วัดโพธิ์ชัย บ้านนาโป่ง ตำบลนาโป่ง อำเภอเมือง จังหวัดเลย มีพระอาจารย์คำมา เป็นพระอุปัชฌาย์ และ พระอาจารย์อ้วน เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย เป็นพระพี่เลี้ยง
ท่านได้ตั้งสัจจาธิษฐาน ขออุทิศชีวิตพรหมจรรย์แด่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์หลังจากตั้งจิตอธิษฐานแล้ว ท่านมีความรู้สึกปลอดโปร่ง เบากายเบาใจ อยู่มา 2-3 วัน โยมอุปัฏฐาก ได้มาบอกว่า พระอาจารย์จวง วัดธาตุเทิง อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ได้ไปกราบ ญาคูมั่น พึ่งกลับมา ท่านจึงได้ไปนมัสการพระอาจารย์จวง เพื่อขอทราบที่อยู่ของ หลวงปู่มั่น ด้วยรู้สึกศรัทธาในกิตติศัพท์ความเก่งกล้าสามารถของหลวงปู่มั่นยิ่งนัก
จากนั้น ท่านก็ได้ออกธุดงค์มุ่งสู่สำนักของ หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต โดยผ่านม่วงสามสิบ คำเขื่อนแก้ว ยโสธร เลิงนกทา มุกดาหาร คำชะอี นาแก สกลนคร พรรณานิคม สว่างแดนดิน หนองหาน อุดรธานี บ้านผือ ซึ่งนับเป็นการเดินทางไกลและยาวนานเป็นครั้งแรกจนได้เข้าพบหลวงปู่มั่น ที่ดงมะไฟ บ้านค้อ
คำแรกที่หลวงปู่มั่นสั่งสอนก็คือ "ต่อไปนี้ให้ภาวนา ความรู้ที่เรียนมา ให้เอาใส่ตู้ไว้ก่อน" ซึ่งทำให้ท่านรู้สึกยินดีมากเพราะได้บรรลุสิ่งที่ตั้งใจ
หลังจากอยู่กับหลวงปู่มั่นได้ 4 วัน พี่เขยและน้าเขยก็มาตามให้กลับไปเยี่ยมโยมพ่อที่ไม่ได้พบกันมานาน 10 ปี จึงเข้าไปกราบลาหลวงปู่มั่น และได้รับคำเตือนว่า "ไปแล้วให้รีบกลับมา อย่าอยู่นาน ประเดี๋ยวจะเสียท่าเขา ถูกเขามัดไว้แล้วจะดิ้นไม่หลุด"
จากหลวงปู่มั่นจนเป็นที่เข้าใจแล้ว จึงกลับสู่ที่ปฏิบัติของตนดังเดิม โดยยึดมั่นในคำเตือนของหลวงปู่มั่นว่า "ให้ตั้งใจภาวนา อย่าได้ประมาท ให้มีสติอยู่ทุกเมื่อ จงอย่าเห็นแก่การพักผ่อนหลับนอนให้มาก"
ประมาณ พ .ศ.2464 ท่านได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อพำนักและศึกษาธรรม กับพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท) แห่งวัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ ซึ่งหลวงปู่มั่นยกย่องอยู่เสมอว่าเชี่ยวชาญทั้งทางการเทศน์และการปฏิบัติ ธรรม
ปีต่อมา เดือนตุลาคม ท่านได้จาริกธุดงค์ไปเชียงตุง และ เชียงรุ้ง ในเขตพม่า โดยออกเดินทางไปด่านอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผ่านหมู่บ้านชาวเขา พักตามป่าเขา จาริกผ่านเชียงตุง แล้วต่อไปทางเหนือ อันเป็นถิ่นชาวเขา เช่น จีนฮ่อ ซึ่งอยู่ตามเมืองแสนทวี ฝีฝ่า หนองแส บางเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง พอฝนตกชุกจวนเข้าพรรษาก็กลับเข้าเขตไทย นับได้ว่าท่านได้ธุดงค์จาริกไปตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่งในและนอกประเทศส่วนใหญ่จะพำนักอยู่ในเขตจังหวัดอุบลฯ อุดรฯ และตั้งใจจะไปให้ถึงสิบสองปันนาสิบสองจุไท แต่ทหารฝรังเศสห้ามเอาไว้ จึงไปถึง วัดใต้หลวงพระบาง แล้วก็กลับพร้อมกับหลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม
ทางภาคเหนือ ท่านได้มุ่งเดินทางไป ค่ำไหนนอนนั่น จากอำเภอท่าลี่ จังหวัดเลยออกไป อำเภอด่านซ้าย ผ่านอำเภอน้ำปาด อำเภอนครไทย อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ ตัดไปอำเภอนาน้อย แพร่ หมู่บ้านชาวเย้า อำเภอสูงเม่น อำเภอเด่นชัย ลำปาง แล้วต่อไปยังเชียงใหม่ เที่ยวดูภูมิประเทศโดยรอบเขาดอยสุเทพ
ท่านได้รับความเมตตาจาก ท่านเจ้าคุณพระอุปาลีคุณูปมาจารย์ ด้วยดีตลอดมา ประมาณปี พ.ศ.2470 ท่านเจ้าคุณเห็นว่า หลวงปู่แหวน เป็น ผู้ตั้งใจประพฤติปฏิบัติมีวิริยะอุตสาหะปรารภความเพียรสม่ำเสมอไม่ท้อถอย มีข้อวัตรปฏิบัติดี มีอัธยาศัยไมตรีไม่ขึ้นลง คุ้นเคยกันมานาน เห็นสมควรจะได้ญัตติเสีย หลวงปู่แหวน จึงตัดสินในเป็นพระ ธรรมยุต ที่พัทธสีมา วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท) เป็นพระอุปัชฌาย์ มี พระนพีสิ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ต่อมา หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ซึ่งเคยเป็นสหธรรมิกร่วมธุดงค์กัน ก็ได้ญัตติเป็นธรรายุตเหมือนกัน
ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า
เหรียญกลมเล็ก หลังดอกบัว 
(หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง) 
จังหวัดเชียงใหม่ สร้างปี 2528 
 
♦พุทธคุณสูงบูชาไว้คุ้มครองตัวเราและคนรอบข้างดีมากๆค่ะ
♦เหรียญมีขนาด 2.3 cm x 2.65 cm
 
💠 เหรียญหลวงปู่แหวน สุจิณโณ 
สร้างวาระฉลองอายุครบ 98 ปี 
วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ สภาพสวยเดิมๆ
 
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ท่านเป็นศิษย์ยุคต้นของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต 
โดยท่านได้ศึกษาปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดและธุดงค์ไปทั่วทั้งภาคอีสาน ลาว พม่า จนช่วงบั้นปลายท่านได้มาสร้างวัดดอยแม่ปั๋งที่จ.เชียงใหม่ 
 
👉 ประสบการณ์เกี่ยวกับพุทธคุณและความศักดิ์สิทธิ์ของท่านที่เล่าขานกันเป็นตำนานเรื่องหนึ่งได้แก่ที่เชื่อว่าท่านได้แสดงปาฏิหารย์ขึ้นไปยืนบนก้อนเมฆให้นักบินที่บินผ่านวัดดอยแม่ปั๋งได้เห็นอยู่หลายครั้ง จนทหารเริ่มทำการสืบเสาะหาวัดของท่าน จึงทำให้คนได้เริ่มรู้จักหลวงปู่แหวนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บรรดาลูกศิษย์ทั้งข้าราชการทหารตำรวจพ่อค้าและประชาชนต่างพากันสร้างพระเครื่องวัตถุมงคลนำมาให้ท่านปลุกเสก
 
⭐ อธิษฐานจิตเป็นจำนวนมากมายหลายรุ่น สำหรับเหรียญที่นำลงประมูลนี้เป็นเหรียญหลวงปู่แหวน เหรียญรุ่นนี้สร้างปี พ.ศ.๒๕๒๑ เข้าพิธีที่หลวงปู่แหวนปลุกเสกอธิษฐานจิตในปีพ.ศ.๒๕๒๑ โดยสร้างเป็นเนื้อทองแดงเป็นเหรียญที่ออกแบบได้สวยงามทั้งด้านหน้าซึ่งเป็นรูปเหมือนของท่านและด้านหลังลงอักขระยันต์เนื้อทองแดง 
 
⭐ หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง 
ท่านได้อธิษฐานจิต วัตถุมงคลต่างๆมากมายหลายรุ่น ล้วนมีประสบการณ์ด้านแคล้วคลาด ปลอดภัย เมตตามหานิยม สำหรับเหรียญที่นำลงประมูลเป็นเหรียญที่สร้างในวาระฉลองอายุหลวงปู่ครบ 98 ปีเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2528
🔸 ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนหลวงปู่ที่แกะบล็อกได้สวยงามเหมือนท่านมากและ
🔸 ด้านหลังเป็นรูปดอกบัว 8 ดอก สภาพสวยมาก
               ❇❇❇❇❇❇❇❇❇❇❇❇
 
🔰การปลุกเสกวัตถุมงคลของหลวงปู่แหวน เล่าโดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
 
การปลุกเสกวัตถุมงคลของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั่ง จ.เชียงใหม่
 
ต่อไปนี้เป็นคำเล่าของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เล่าให้ลูกศิษย์ของท่านฟัง แล้วนำมาถ่ายทอด ลงในหนังสือโลกทิพย์ ปีที่ ๑ ฉบับที่ ๑ ปี พ.ศ.๒๕๒๕ โดยสิทธา เชตวัน ดังนี้ :-
 
 
หลวงปู่แหวน ไม่เคยสนใจเรื่องการสร้างพระเครื่องแปลกๆพิสดาร ตลอดจนเครื่องราง ของขลังเลย มีแต่พระและฆราวาสลูกศิษย์ลูกหาจัดสร้างขึ้น แล้วขนไปให้ท่านปลุกเสกบ้าง ซึ่งท่าน ก็มีเมตตาไม่ขัดข้อง
 
หลวงปุ่แหวน กล่าวว่า ชาวบ้านทั้งหลายยังติดข้องอยู่ในโลกธรรม โลกียสมบัติ ยึดถือตัวตน บุคคลเราเขา ยังเวียนว่ายตายเกิด ไม่มีโอกาสจะเป็นนักบวชกระทำจิตตัดกิเลส หาทางหลุดพ้น ได้สะดวก จำเป็นอยู่เอง ที่ชาวบ้านจะต้องยึดถือพระเครื่องเป็นที่พึ่ง อย่างน้อยพระเครื่องก็เป็นจุด ให้ชาวบ้านเข้าถึงความดี ระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า จึงไม่ใช่เรื่องเสียหาย ที่ชาวบ้านจะมี พระเครื่องไว้ติดตัว
 
" ปู่ก็เสกให้ ใครเอามาให้ ก็ต้องเสกให้ไป ด้วยความเมตตานั่นแหละ หลานเอ๊ย"
 
หลวงปุ่แหวน กล่าวไว้อย่างนี้ เมื่อคณะศรัทธาจากที่ต่างๆทั่วสารทิศ หอบหิ้วขนเอาพระ เครื่องรางของขลัง ไปให้ท่านปลุกเสกถึงวัด
ตอนนั้นหลวงปู่แก่มากแล้ว ชราภาพไปด้วยวิสัยสังขาร หูตึง เดินเหินไม่สะดวก ทางวัดจึง ต้องจำกัดเวลาให้ชาวบ้านเข้านมัสการ ไม่ีค่อยจะให้ท่านเดินทางไกลไปร่วมปลุกเสกพระเครื่อง ในพธีพุทธาภิเษกใดๆ ง่ายๆ นอกจากว่า หลวงปุ่จะยินดีเต็มใจไปเองจริงๆ ทั้งนี้ก็เพื่อจะถนอม ชีวิตของหลวงปุ่แหวน ไว้ให้ยืนนานเป็นมิ่งขวัญของวัดและประชาชน ผุ้เคารพศรัทธาทั้งหลาย ต่อไปให้นานเท่านาน นั่นเอง
 
มีสิ่งที่น่าสังเกตุอยู่อย่างคือ พระเครื่องรางของขลังใดๆ ที่พระและฆราวาส นำไปขอเมตตาจิต จากหลวงปู่แหวน เพื่อให้ท่านปลุกเสกให้นั้น หลวงปู่แหวน จะปลุกเสกให้อย่างมากไม่เกิน ๙ นาที บางครั้งก็เสกให้ ๓ นาที ๕ นาทีบ้าง เป็นอันว่าใช้ได้
 
การปลุกเสกนี้ไม่มีพิธีรีตรองใดๆทั้งสิ้น ต้องไปนอนอยู่ที่วัดรอให้หลวงปู่แหวนออกมาจาก ห้อง พอท่านออกมาก็ขนสิ่งที่จะปลุกเสกเข้าไปกราบนมัสการท่านทันที แล้วท่านก็จะทำให้ ในเดี๋ยวนั้น ทำปุ๊ปเสร็จปั๊ป ก็เป็นอันว่าแล้วกันไป เสร็จสิ้นเรื่องเปิดโอกาสให้ผู้คนอื่นๆ เข้าไปนมัสการท่าน ตามคิว ซึ่งแน่นขนัดอยู่ทุกวัน ไม่มีขาด
 
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้เล่าถึงการปลุกเสกพระ ที่ลูกศิษย์ ลุกหาต่งถอดสร้อย และรวมพระ เครื่องต่งๆ รอให้หลวงปุ่แหวน ปลุกเสกให้ดังนี้ :-
" พอใครขนเอาเครื่องรางไปวางเสร็จ หลวงปู่แหวนก็ัตั้งท่าสงบใจสงเคราะห์ อาตมาก็จับดู จิตของหลวงปุ่แหวน ดูอารมณ์จิตของท่านว่า จะทำยังไง
ครั้นแล้ว ก็เห็นอารมณ์จิตของหลวงปู่แหวนผ่องใสเป็นดาวประกายพฤษ์เต็มดวง ลอยอยู่ใน อกท่าน เวลานั้นกำลังจิตของหลวงปุ่แหวน ก็คิดว่า ขออารธนาบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมา สัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ให้มาโปรดช่วยทำของเหล่านี้ ให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ เป็นมิ่งขวัญมงคล ของบรรดาท่านพุทธบริษัท ให้เข้าถึงพระธรรม
 
โดยความจริง หลวงปุ่แหวน ไม่คิดว่าเสกให้เอาไปตีกับชาวบ้าน เอาไปปล้นชาวบ้าน ท่านเสก ให้คนเข้าถึงธรรม
ท่านนึกในใจต่อไป หลวงปุ่แหวนก็อาราธนาบารมีของพระอรหันต์ทั้งหมด บารมีของพรหม ของเทวดาทั้งหมด ตลอดจนกระทั่งครูบาอาจารย์
พอถึงพะอรหันต์ อาตมาก็เห็นหลวงปู่ตื้อ ปรี๊ดมาถึงข้างหลัง เอากำปั้นลง หลังอาตมาปั๊ปเข้าให้ แล้วถามว่า เฮ้ย ... มึงมานั่งอยู่ทำไมวะ อาตมาก็เลยบอกไปว่านี่ ... พระผี ไม่ต้องพูด หลวงปู่ แหวน เชิญพระผีนะ ไม่ได้เชิญพระมีเนื้อหนังมังสา มีหน้าที่อะไรก็ทำไป
 
แล้วก็ได้เห็นกระแสจิตหลวงปุ่แหวน เป็นประกายพฤกษ์ พุ่งออมาจากอก สว่างเจิดจ้า ใหญ่เหลือเกิน คลุมเครื่องรางของขลังทั้งหมด แสงสว่างประกายพฤกษ์ของจิตพระอรหันตเจ้า แทรกลงไปในเครื่องรางของขลัง อยู่ผิวด้านหน้ายันข้างล่างสุด เรียกว่าคลุมหมดอาบลงไปหมด เลย โพลงสว่างสุกปลั่งไปหมด คล้ายตกอยู่ในเบ้าหลอม เป็นกระแสสว่างของจิตที่เยือกเย็น เต็มไป ด้วยอำนาจพุทธบารมี เห็นแล้วรู้สึกเยือกเย็นสบายอย่างประหลาด บอกไม่ถูก
 
นี่เป็นการปลุกเสกพระเครื่องรางของขลังของ หลวงปุ่แหวน ซึ่งใช้เวลาไม่ถึง ๓ นาที แต่ทว่า อานุภาพยิ่งใหญ่ ทรงความขลงศักดิ์สิทธิ์ เลิศล้ำน่ามหัศจรรย์

***************************************

เรื่องเล่าปาฏิหารย์ “หลวงปู่แหวน สุจิณโณ”

 ย้อนกลับไปเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2516 เมื่อนักบินของกองทัพอากาศนายหนึ่ง ได้นำเครื่องบินออกบินตามหน้าที่ปกติ วันนั้นเป็นวันที่ทัศนวิสัยดี ท้องฟ้าปลอดโปร่ง แม้จะมีเมฆ แต่นักบินก็สามารถเห็นท้องฟ้าเบื้องหน้าได้อย่างชัดเจน เขาบังคับเครื่องบินไปตามเส้นทางปกติ ซึ่งเป็นแนวบินที่พาดผ่านเหนือวัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ทันใดนั้นเอง นักบินต้องตกตะลึง เพราะเบื้องหน้าของตนนั้น ปรากฏพระชรารูปหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนก้อนเมฆ ขวางเส้นทางการบินอยู่ แต่ด้วยสัญชาตญาณ เขาจึงบิดคันบังคับหลบไปในทันที เครื่องบินโฉบผ่านพระรูปนั้นไปอย่างฉิวเฉียด
 หลังจากตั้งสติได้ เขาไม่แน่ใจว่าตัวเองตาฝาดหรือไม่ จึงตัดสินใจขับเครื่องบินย้อนกลับมาอีกครั้ง และนั่นทำให้เขายิ่งตกใจซ้ำสอง เพราะพระชรารูปนั้น ยังคงนั่งสงบนิ่งอยู่บนก้อนเมฆเหมือนเดิม แต่คราวนี้เขาพยายามรักษาระยะห่างของเครื่องเอาไว้ เฝ้ามองพระชรารูปนั้นค่อย ๆ หายลับไปในหมู่เมฆ เมื่อนำเครื่องลงจอด เขารีบเข้าไปกราบนมัสการเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ถามท่านว่า ที่เชียงใหม่ มีพระองค์ไหนที่แสดงปาฏิหาริย์ได้ ท่านเจ้าคณะบอกว่า เห็นมีอยู่องค์หนึ่ง คือ “หลวงปู่แหวน” วัดดอยแม่ปั๋ง
 ทันทีที่ทราบ เขาจึงรีบตรงไปที่วัดเพื่อพิสูจน์ให้เห็นกับตา เมื่อไปถึงก็ปรากฏว่า มีผู้คนมากมายมารอพบหลวงปู่แหวนเต็มไปหมด ปกติแล้ว หลวงปู่แหวนจะไม่ยอมออกมาพบปะใครง่าย ๆ ด้วยความที่ท่านเป็นพระที่เก็บตัวอยู่แต่ในห้องและหนีคนตามอุปนิสัยเดิม ท่านจะออกมาจากห้องก็เฉพาะเวลาฉันเช้าและเจริญพระพุทธมนต์เท่านั้น
 นายทหารคนนี้ไปถึงวัดในตอนเช้า เหลือเชื่อว่าเป็นเวลาที่หลวงปู่แหวนออกจากห้องมาฉันเช้าพอดี และเมื่อเห็นท่าน นายทหารก็ถึงกับตกตะลึงซ้ำสาม เพราะหลวงปู่แหวนที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้าก็คือพระชราที่เขาเห็นนั่งอยู่บนก้อนเมฆนั่นเอง เขาจึงแหวกผู้คนเข้าไปกราบนมัสการแทบเท้าหลวงปู่แหวนด้วยความเคารพเลื่อมใส อย่างสูงสุด น้ำตาไหล ปลาบปลื้มใจตื้นตันใจ ที่ตนได้มีบุญได้พบเห็นตัวจริงของหลวงปู่แหวน

คาถาหลวงปู่แหวน สุจิณโณ  วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่

เป็นคาถาสำหรับสวดภาวนาเพื่อให้สำเร็จผลทางแคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยอันตรายทั้งหลาย ด้วยอำนาจแห่งพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ มาคอยปกป้องคุ้มครองรักษา ท่านว่าให้สวดภาวนาเป็นประจำ จะดีนักแล

นะโม 3 จบ

พุทโธ อะระหัง ธัมโม อะระหัง

สังโฆ อะระหัง อะระหัง พุทโธ

อะระหัง ธัมโม อะระหัง สังโฆ
เหรียญกลมเล็ก หลังดอกบัว (หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง) จังหวัดเชียงใหม่ สร้างปี2528
เหรียญกลมเล็ก หลังดอกบัว (หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง) จังหวัดเชียงใหม่ สร้างปี2528
เหรียญกลมเล็ก หลังดอกบัว (หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง) จังหวัดเชียงใหม่ สร้างปี2528
เหรียญกลมเล็ก หลังดอกบัว (หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง) จังหวัดเชียงใหม่ สร้างปี2528
เหรียญกลมเล็ก หลังดอกบัว (หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง) จังหวัดเชียงใหม่ สร้างปี2528
เหรียญกลมเล็ก หลังดอกบัว (หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง) จังหวัดเชียงใหม่ สร้างปี2528
เหรียญกลมเล็ก หลังดอกบัว (หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง) จังหวัดเชียงใหม่ สร้างปี2528
เหรียญกลมเล็ก หลังดอกบัว (หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง) จังหวัดเชียงใหม่ สร้างปี2528
เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขาหน้าโรงพยาบาลมหาราช เชียงใหม่ ออมทรัพย์
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านธัญทิพย์ อมูเลท
ธัญทิพย์ อมูเลท
บริการให้เช่า พระเครื่อง และเครื่องรางของมงคล ทั่วไทย
เบอร์โทร : 0629966394
อีเมล : thanyatip4289@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม