จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | ไม่จำกัด ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | พระกริ่ง พระชัยวัฒน์ พระสมเด็จ พระพุทธ |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ไฮไลท์ |
เหรียญพระพุทธชินราช รุ่นพระบารมีปกเกล้า ๙ รัชกาล
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก
ปี๒๕๑๔ ((หลวงพ่อกวย ร่วมปลุกเสก))
♦พระมีขนาด 2.83 ซม.x 3.90 ซม.
พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะที่สวยงาม เด่นสง่าที่สุดของประเทศไทย เป็นพระพุทธรูปศิลปะ
สุโขทัยผสมผสานกับศิลปะเชียงแสนอย่างลงตัว นับได้ว่าเป็นประติมากรรมชั้นสูงสุดแห่ง " พุทธศิลป์ "
เป็นพระพุทธรูปสำริดโบราณ ปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย หน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว สูง 7ศอก สร้างจากโลหะเนื้อสัมฤทธิ์
ลงน้ำรัก ปิดทองประดิษฐานในพระวิหาร วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก
ในการสร้างพระพุทธชินราช จากหลักฐานของหนังสือพงศาวดารของทางเหนือได้เขียนกล่าวยืนยันเอาไว้ว่าในปี
พุทธศักราช 1500 หรือ จุลศักราช 319 เมื่อพระเจ้าศรีธรรมไตรปิฏก หรือ พระธรรมราชาลิไท ได้สร้างวัดพระศรีรัตนมหา
ธาตุวรมหาวิหารเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว พระองค์ทรงพระประสงค์จะทรงสร้างพระพุทธรูปขึ้นเป็นจำนวน 3 องค์และ
พระองค์ก็ได้ช่างฝีมือดีที่เป็นพราหมณ์มา 5 คน มาเป็นแม่งาน พร้อมทั้งได้ทรงหาช่างฝีมือเอกจากเมืองศรีสัชนาลัย สวรรค
โลก เมืองเชียงแสน และเมืองหริภุญชัย มาร่วมช่วยกันหล่อพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ คือ พระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์
พระศรีศาสดา
ความศักดิ์สิทธิ์อภินิหารของพระพุทธชินราช หรือ หลวงพ่อพระพุทธชินราช หรือ หลวงพ่อใหญ่ ที่ชาวพิษณุโลก
เรียกกันจนติดปาก มีอยู่มากมายเหลือคณานับ อย่างเช่น ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทุก
ครั้งที่พระองค์จะเสด็จออกทำศึกสงคราม พระองค์จะเสด็จเข้าไปในวิหารทรงกราบไหว้อธิษฐานขอพรจากความศักดิ์สิทธิ์
ของพระพุทธชินราช ขอให้ทรงมีชัยชำนะศึกต่ออริราชศัตรูของแผ่นดิน
และก็เป็นดั่งคำอธิษฐานขอพรจากความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธชิราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระนเรศวร
มหาราชทรงมีชัยชำนะศึกทุกครั้ง เมื่อเสด็จกลับสู่เมืองพิษณุโลก พระองค์ก็ทรงนำเครื่องทรงที่มีชัยชำนะศึกถวายเป็นเครื่อง
สักการะ แด่พระพุทธชินราชเสมอมา ส่วนพุทธศาสนิกชนตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรืออยู่ไกล ก็ยังพากัน
ไปกราบไหว้บูชาพระพุทธชินราชด้วยความศรัทธา บางคนมีความทุกข์ร้อนในใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องของครอบครัว การงาน
หรือค้าขาย ต่างก็ได้บนบานศาลกล่าวอธิษฐานขอพรที่ปรารถนา แล้วก็เหมือนความอัศจรรย์ที่ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ คำบนบานศาล
กล่าวอธิษฐานขอพรต่างก็ประสบความสำเร็จไปตามๆ กันและก็มีประสบการณ์ให้เห็นอยู่ทุกวัน กับการแก้บนในวิหารพระ
พุทธชินราช
มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า ในการหล่อพระพุทธรูปทั้งสามองค์ ปรากฏว่าหล่อสำเร็จได้เพียงสององค์เท่านั้น คือ พระพุทธชินสีห์และพระศาสดา ส่วนพระพุทธชินราช ต้องทำหุ่นและแบบหล่อใหม่ถึงสามครั้ง แต่ก็ยังหล่อไม่สำเร็จ เพราะทองแล่นไม่ทั่วแบบ เมื่อแกะแบบหล่อออก องค์พระจึงไม่สมบูรณ์และมีตำหนิ
ครั้งนั้น มีปะขาวผู้หนึ่งเข้ามาช่วยปั้นหุ่น ทำการแข็งแรง แต่ไม่พูดด้วยปาก ใช้แต่ใบ้ ใครถามชื่อและตำบลบ้านก็ไม่บอก ไม่มีผู้ใดรู้จัก ทำงานทั้งกลางวันและกลางคืนไม่มีเวลาหยุด ครั้นรูปหุ่นสำเร็จงามดี เข้าดินพิมพ์แห้งแล้ว กำหนดมหามงคลฤกษ์เททอง อาราธนาชุมนุมพระภิกษุสงฆ์ชีพราหมณ์ ทำการมงคลพิธีเหมือนครั้งก่อน แล้วเททอง ทองก็แล่นเต็มบริบูรณ์ ปะขาวที่มาช่วยหล่อพระ ก็เดินหายจากที่นั้นไป เชื่อกันว่า เทวดาได้แปลงกายเป็นปะขาวเพื่อมาช่วยหล่อพระพุทธชินราช ส่วนสถานที่ที่ปะขาวผู้นั้นเดินหายจากไป ก็มีชื่อปรากฏในปัจจุบันว่า บ้านตาปะขาวหาย
(( พระบารมีของพระพุทธชินราช ))
ในแต่ละวัน มีผู้คนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมากราบนมัสการขอพรจากพระพุทธชินราช ด้วยจิตที่เคารพเลื่อมใสและเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในบารมีของพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืององค์นี้ว่า จะช่วยปัดเป่าทุกข์ภัยอันตรายต่าง ๆ ป้องกันคุณไสย์มนต์ดำ สิ่งชั่วร้าย เปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี ปกป้องคุ้มครอง และนำความสุขความเจริญ ความสำเร็จสมหวังร่ำรวย ให้บังเกิดแก่ผู้สักการะบูชา
บางท่านมีทุกข์ร้อนเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ กิจการค้าขาย ตำแหน่งหน้าที่การงาน การสอบคัดเลือก ฯลฯ ก็มากราบนมัสการขอบารมีพระพุทธชินราชท่านเป็นที่พึ่ง แม้บางท่านไม่สามารถจะเดินทางมานมัสการถึงที่วัดได้ด้วยตนเอง เพียงจุดธูปเทียนสำรวมจิตอธิษฐาน เคารพด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก็สำเร็จสมดังปรารถนาได้เช่นกัน
พระคาถาบูชาพระพุทธชินราช
อิเมหิ นานาสักกาเรหิ อะภิปูชิเตหิ
ทีฆายุโก โหมิ อะโรโค สุขิโต
สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง ปิยัง มะมะปะ
สิทธิลาโภ ชะโย โหตุ สัพพะทา
พุทธะชินะราชา อะภิปาเลตุ มัง นะโมพุทธายะ
|
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
เหรียญพระพุทธชินราช รุ่นพระบารมีปกเกล้า ๙ รัชกาล
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก
ปี๒๕๑๔ ((หลวงพ่อกวย ร่วมปลุกเสก))
♦พระมีขนาด 2.83 ซม.x 3.90 ซม.
===================================
พระพุทธชินราช พระพุทธรูปที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทย
พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะที่สวยงาม เด่นสง่าที่สุดของประเทศไทย เป็นพระพุทธรูปศิลปะ
สุโขทัยผสมผสานกับศิลปะเชียงแสนอย่างลงตัว นับได้ว่าเป็นประติมากรรมชั้นสูงสุดแห่ง " พุทธศิลป์ "
เป็นพระพุทธรูปสำริดโบราณ ปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย หน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว สูง 7ศอก สร้างจากโลหะเนื้อสัมฤทธิ์
ลงน้ำรัก ปิดทองประดิษฐานในพระวิหาร วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก
ในการสร้างพระพุทธชินราช จากหลักฐานของหนังสือพงศาวดารของทางเหนือได้เขียนกล่าวยืนยันเอาไว้ว่าในปี
พุทธศักราช 1500 หรือ จุลศักราช 319 เมื่อพระเจ้าศรีธรรมไตรปิฏก หรือ พระธรรมราชาลิไท ได้สร้างวัดพระศรีรัตนมหา
ธาตุวรมหาวิหารเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว พระองค์ทรงพระประสงค์จะทรงสร้างพระพุทธรูปขึ้นเป็นจำนวน 3 องค์และ
พระองค์ก็ได้ช่างฝีมือดีที่เป็นพราหมณ์มา 5 คน มาเป็นแม่งาน พร้อมทั้งได้ทรงหาช่างฝีมือเอกจากเมืองศรีสัชนาลัย สวรรค
โลก เมืองเชียงแสน และเมืองหริภุญชัย มาร่วมช่วยกันหล่อพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ คือ พระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์
พระศรีศาสดา
ความศักดิ์สิทธิ์อภินิหารของพระพุทธชินราช หรือ หลวงพ่อพระพุทธชินราช หรือ หลวงพ่อใหญ่ ที่ชาวพิษณุโลก
เรียกกันจนติดปาก มีอยู่มากมายเหลือคณานับ อย่างเช่น ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทุก
ครั้งที่พระองค์จะเสด็จออกทำศึกสงคราม พระองค์จะเสด็จเข้าไปในวิหารทรงกราบไหว้อธิษฐานขอพรจากความศักดิ์สิทธิ์
ของพระพุทธชินราช ขอให้ทรงมีชัยชำนะศึกต่ออริราชศัตรูของแผ่นดิน
และก็เป็นดั่งคำอธิษฐานขอพรจากความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธชิราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระนเรศวร
มหาราชทรงมีชัยชำนะศึกทุกครั้ง เมื่อเสด็จกลับสู่เมืองพิษณุโลก พระองค์ก็ทรงนำเครื่องทรงที่มีชัยชำนะศึกถวายเป็นเครื่อง
สักการะ แด่พระพุทธชินราชเสมอมา ส่วนพุทธศาสนิกชนตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรืออยู่ไกล ก็ยังพากัน
ไปกราบไหว้บูชาพระพุทธชินราชด้วยความศรัทธา บางคนมีความทุกข์ร้อนในใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องของครอบครัว การงาน
หรือค้าขาย ต่างก็ได้บนบานศาลกล่าวอธิษฐานขอพรที่ปรารถนา แล้วก็เหมือนความอัศจรรย์ที่ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ คำบนบานศาล
กล่าวอธิษฐานขอพรต่างก็ประสบความสำเร็จไปตามๆ กันและก็มีประสบการณ์ให้เห็นอยู่ทุกวัน กับการแก้บนในวิหารพระ
พุทธชินราช
มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า ในการหล่อพระพุทธรูปทั้งสามองค์ ปรากฏว่าหล่อสำเร็จได้เพียงสององค์เท่านั้น คือ พระพุทธชินสีห์และพระศาสดา ส่วนพระพุทธชินราช ต้องทำหุ่นและแบบหล่อใหม่ถึงสามครั้ง แต่ก็ยังหล่อไม่สำเร็จ เพราะทองแล่นไม่ทั่วแบบ เมื่อแกะแบบหล่อออก องค์พระจึงไม่สมบูรณ์และมีตำหนิ
ครั้งนั้น มีปะขาวผู้หนึ่งเข้ามาช่วยปั้นหุ่น ทำการแข็งแรง แต่ไม่พูดด้วยปาก ใช้แต่ใบ้ ใครถามชื่อและตำบลบ้านก็ไม่บอก ไม่มีผู้ใดรู้จัก ทำงานทั้งกลางวันและกลางคืนไม่มีเวลาหยุด ครั้นรูปหุ่นสำเร็จงามดี เข้าดินพิมพ์แห้งแล้ว กำหนดมหามงคลฤกษ์เททอง อาราธนาชุมนุมพระภิกษุสงฆ์ชีพราหมณ์ ทำการมงคลพิธีเหมือนครั้งก่อน แล้วเททอง ทองก็แล่นเต็มบริบูรณ์ ปะขาวที่มาช่วยหล่อพระ ก็เดินหายจากที่นั้นไป เชื่อกันว่า เทวดาได้แปลงกายเป็นปะขาวเพื่อมาช่วยหล่อพระพุทธชินราช ส่วนสถานที่ที่ปะขาวผู้นั้นเดินหายจากไป ก็มีชื่อปรากฏในปัจจุบันว่า บ้านตาปะขาวหาย
(( พระบารมีของพระพุทธชินราช ))
ในแต่ละวัน มีผู้คนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมากราบนมัสการขอพรจากพระพุทธชินราช ด้วยจิตที่เคารพเลื่อมใสและเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในบารมีของพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืององค์นี้ว่า จะช่วยปัดเป่าทุกข์ภัยอันตรายต่าง ๆ ป้องกันคุณไสย์มนต์ดำ สิ่งชั่วร้าย เปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี ปกป้องคุ้มครอง และนำความสุขความเจริญ ความสำเร็จสมหวังร่ำรวย ให้บังเกิดแก่ผู้สักการะบูชา
บางท่านมีทุกข์ร้อนเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ กิจการค้าขาย ตำแหน่งหน้าที่การงาน การสอบคัดเลือก ฯลฯ ก็มากราบนมัสการขอบารมีพระพุทธชินราชท่านเป็นที่พึ่ง แม้บางท่านไม่สามารถจะเดินทางมานมัสการถึงที่วัดได้ด้วยตนเอง เพียงจุดธูปเทียนสำรวมจิตอธิษฐาน เคารพด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก็สำเร็จสมดังปรารถนาได้เช่นกัน
พระคาถาบูชาพระพุทธชินราช
อิเมหิ นานาสักกาเรหิ อะภิปูชิเตหิ
ทีฆายุโก โหมิ อะโรโค สุขิโต
สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง ปิยัง มะมะปะ
สิทธิลาโภ ชะโย โหตุ สัพพะทา
พุทธะชินะราชา อะภิปาเลตุ มัง นะโมพุทธายะ
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |