ไฮไลท์
พระปิดตา รุ่นแรก วัดชัยมงคล ปี 2522 ตะกรุดเงิน 9 ดอก หลวงปู่โต๊ะเสก (มีบัตรรับรองพระแท้)
- องค์นี้เนื้อผงเกสรผสมผงพุทธคุณ ตระกรุดเงิน ๙ ดอก ตอกโค๊ต รวย ด้านข้าง 9 โค๊ต
- มีบัตรรับรองพระแท้จากบริษัทล้านนาอมูเลท
พระปิดตารุ่นแรก หลังยันต์นะ วัดชัยมงคล ปี 2522 (หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ปลุกเสก)
หลวงปู่โต๊ะได้เดินธุดงค์ไปที่ ฝาง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ประมาณปี 2495-2496 และได้เก็บมวลสารต่างๆ เกษรดอกไม้ เป็นต้นฯ
ในปี 2496 ท่านก็ไปร่วมพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดพระสิงห์ และท่านธุดงค์มาอีกครั้งในปี 2518 ที่วัดชัยมงคล
จัดสร้างและปลุกเสกโดยหลวงปู่โต๊ะและคณาจารย์ทางภาคเหนือ เพื่อนำไปบรรจุในองค์พระธาตุสบฝาง และบางส่วนนำออกมาให้เช่าบูชาในปี 2522 เพื่อหาทุนบูรณะองค์พระธาตุสบฝาง
เจตนาการสร้างดี พระผู้สร้างและปลุกเสกดี พิธีการสร้างและเนื้อหามวลสารดี
เป็นของดีที่หลวงปู่โต๊ะมอบไว้ให้คนเหนือได้ใช้ พุทธคุณไม่แตกจากวัดประดู่ฉิมพลีแน่นอน
ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า
พระปิดตา รุ่นแรก วัดชัยมงคล ปี 2522 ตะกรุดเงิน 9 ดอก หลวงปู่โต๊ะเสก (มีบัตรรับรองพระแท้)
 
- องค์นี้- องค์นี้เนื้อผงเกสรผสมผงพุทธคุณ ตระกรุดเงิน ๙ ดอก ตอกโค๊ต รวย ด้านข้าง 9 โค๊ต
 
- มีบัตรรับรองพระแท้จากบริษัทล้านนาอมูเลท
 
 
พระปิดตารุ่นแรก หลังยันต์นะ วัดชัยมงคล ปี 2522 (หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ปลุกเสก)
 
หลวงปู่โต๊ะได้เดินธุดงค์ไปที่ ฝาง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ประมาณปี 2495-2496 และได้เก็บมวลสารต่างๆ เกษรดอกไม้ เป็นต้นฯ 
ในปี 2496 ท่านก็ไปร่วมพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดพระสิงห์ และท่านธุดงค์มาอีกครั้งในปี 2518 ที่วัดชัยมงคล 
 
 
จัดสร้างและปลุกเสกโดยหลวงปู่โต๊ะและคณาจารย์ทางภาคเหนือ เพื่อนำไปบรรจุในองค์พระธาตุสบฝาง และบางส่วนนำออกมาให้เช่าบูชาในปี 2522 เพื่อหาทุนบูรณะองค์พระธาตุสบฝาง 
 
เจตนาการสร้างดี พระผู้สร้างและปลุกเสกดี พิธีการสร้างและเนื้อหามวลสารดี 
เป็นของดีที่หลวงปู่โต๊ะมอบไว้ให้คนเหนือได้ใช้ พุทธคุณไม่แตกจากวัดประดู่ฉิมพลีแน่นอน
 
 
#หลวงปู่โต๊ะได้ออกธุดงค์จาริกไปทั้วทุกภาคในประเทศไทย ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ ท่านได้ไปศึกษาพระปริยัติธรรม โดยได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ เรียนวิชาพุทธาคม และได้ไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์กับ หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน และก็ได้ธุดงค์ไปยังภาคเหนือเพื่อศึกษาวิชากับพระอาจารย์อีกหลายท่าน และในขณะที่ท่านเดินธุดงค์ ท่านก็ได้เรียนวิปัสสนากรรมฐานกับ หลวงพ่อชุ่ม วัดราชสิทธาราม ส่วนสหธรรมิกของท่านที่มีชื่อเสียงได้แก่ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง หลวงพ่อกล้าย วัดหงส์รัตนาราม และต่อจากนั้น ท่านก็เดินทางไปยังภาคใต้ ไปที่จังหวัดปัตตานี และเมื่อหลวงปู่ท่านกลับมาที่ จังหวัดธนบุรี กลับมายังวัดประดู่ฉิมพลี ท่านก็ได้สร้างพระพุทธบาทจำลอง
 
 
- หลวงพ่อแพวัด พิกุลทอง ได้กล่าวว่า "หลวงปู่โต๊ะพลังจิตแรงกล้าเป็นวสีเข้าออกตามใจนึก"
เรื่องมีอยู่ว่าหลวงพ่อแพท่านตามดูจิตหลวงปู่โต๊ะในงานพุทธาพิเศก พระเครื่องรุ่นนึง  ...ท่านเล่าว่าพอหลวงปู่โต๊ะเข้าสมาธิก็เห็นมือที่จับสายสิญญ์มีแสงสี"ม่วง"จากมือหลวงปู่วิ่งไปตามสายสิญญ์สู่กองวัตถุมงคลเป็นรัศมีสีม่วงสว่างไสวจนหลวงปู่โต๊ะคลายจิตจากสมาธิแสงจึงจะหายไปหลวงพ่อแพเล่าว่าพลังจิตหลวงปู่โต๊ะองค์เดียวเท่ากับเกจิอาจารย์องค์อื่นรวมกันสิบองค์ดังนั้นเวลามีพิธีพุทธาภิเษกของหลวงพ่อแพทุกครั้งท่านจะนิมนต์หลวงปู่โต๊ะมาด้วยทุกครั้ง(พลังจิตสีม่วงหมายถึงพลังงานที่ประกอบด้วยบุญญฤทธิและอิทธิฤทธิถ้าเป็นพลังจิตสีขาวซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพระสายปฏิบัติสายหลวงปู่มั่นจะเป็นบุญญฤทธิ)
 
 
- หลวงปู่เริ่ม ปรโม วัดจุกกะเฌอ ชลบุรี ได้กล่าวถึงหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี และหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่
"บรรดาพระเกจิอาจารย์ในสมัยนี้ ฉันไม่กลัวใคร พอสู้เขาได้ แต่ที่ฉันยอมรับว่าแน่กว่าฉันก็มีหลวงปู่ทิมกับหลวงปู่โต๊ะนี่แหละ พลังจิตของท่านทั้งสองนี้แก่กล้าพอๆกัน
ในการเสกครั้งหนึ่ง จิตหลวงปู่ทิมหลวงปู่โต๊ะท่านเสกครอบไปทั้งพิธีเลย (เหมือนม่าน"บาเรียร์"พลังจิต) ยันกันไปก็ยันกันมา อย่างตัวฉันนี่ ยังไม่โผล่ขึ้นมาได้เลย
ก็พระเกจิองค์ไหนพลังจิตไม่ถึงขั้น ก็เสกไม่เข้า เพ่งจิตเข้าไปโดนม่านพลังของหลวงปู่ทั้งสอง ก็โดนตีกลับลงมาหมด
ได้แต่นั่งอนุโมทนาอยู่เฉยๆเท่านั้นแหละ!!!!!"( คำบอกเล่าของ หลวงปู่เริ่ม ปรโม วัดจุกกะเฌอ ชลบุรี)
 
 
- ครั้งหนึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จเป็นการส่วนพระองค์ ไปนมัสการหลวงปู่โต๊ะ เมื่อปฎิสันถารกันพอสมควรแล้ว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้ทรงตรัสถามว่า
“หลวงปู่คะ ไสยศาสตร์มีจริงหรือไม่คะ?”
ทำเอาหลวงปู่โต๊ะถึงกับอึ้ง แต่แค่พักเดียวหลวงปู่ท่านก็นึกออก หลวงปู่โต๊ะท่านได้หยิบปากกาข้างตัวท่าน มาเขียน อักระตัวนะ ที่ฝ่ามือ แล้วชูให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ดู
แล้วเอามือที่ลงนะนั้นมาเป่า แล้วชูให้ดูใหม่ ปรากฎว่าอักระนะที่ฝ่ามือท่านหายไปแล้ว และท่านก็ชี้ขึ้นไปบนขื่อ เมื่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทอดพระเนตรตามนิ้วหลวงปู่ ก็ทรงเห็นนะที่เมื่อครู่อยู่ที่ฝ่ามือหลวงปู่ ไปติดอยู่ที่บนขื่อแล้ว เป็นอันไม่ต้องอธิบายแล้ว
 
 
- หลวงปู่โต๊ะ อินทสุวณฺโณ-หลวงพ่อเกษม เขมโก
ในงานพิธีพุทธาภิเษก เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๔  ณ วัดนางเหลียว ต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง
หลวงพ่อเกษมได้บอกกับลูกศิษย์ใกล้ชิดที่ติดตามหลวงปู่โต๊ะ
องค์ที่นั่งปรกอยู่ข้างบนว่า...  “เราไหว้องค์นี้เพียงองค์เดียวก็พอแล้ว” (ทั้งๆ ที่งานพิธีในวันนั้น มีการนิมนต์พระเกจิชั้นยอดมาร่วมนั่งปรกหลายต่อหลายองค์)
 
 
 
 
====================================
 
คาถาบูชาพระปิดตา
นะโม ๓ จบ
คะวัมปะติ จะ มหาเถโร ลาภะ ลาโภ นิรันตะรัง
คะวัมปะติ จะ มหาเถรัง ลาภะ สุขัง ภะวันตุเม
สวด 3-7-9 จบ
 
พุทธคุณ ครบถ้วน ทั้งพุทธคุณทางเมตตา ค้าขาย โชคลาภ ทั้งแคล้วคลาด ปลอดภัย ปิดกั้นสิ่งไม่ดีต่างๆ
 
====================================
 
พระปิดตา หรือพระควัมปติ
 
เป็นพระเครื่องที่ได้รับความนิยม หวงแหน และใฝ่หามาบูชากันมาก ด้วยเชื่อว่าพระปิดตา มีพุทธคุณ ครบถ้วน ทั้งเมตตามหานิยม ค้าขาย โชคลาภ แคล้วคลาด ปลอดภัย
 
 ตามตำนานว่า พระควัมปติหมายถึง พระสังกัจจายนะ หมายถึง พระมหากัจจายนะ พระสาวกของพระพุทธเจ้า
 
ประวัติความเป็นมาของพระปิดตานั้น มีอยู่ 2 เรื่องด้วยกัน เนื่องจากพระปิดตานั้นมีอีกชื่อว่า พระควัมปติ
(บ้างก็เรียกว่า ภควัมบดี หรือ ภควัมปติ)
ซึ่งมีพระสาวกอยู่ 2 องค์ที่ถูกเรียกขานด้วยนามนี้ในสมัยพุทธกาล ซึ่งมีลาภเสมอเหมือน พระสีวลี เเละมีปัญญาเเละมีฤทธิ์มาก
 
......
 
ตำนานและประวัติของ พระปิดตา เรื่องที่ 1
พระควัมปติ คือ พระมหากัจจายนะ ผู้มีรูปงดงามคล้ายพระพุทธเจ้า
พระควัมบดี หรือ พระควัมปติ คือนามหนึ่งของพระมหากัจจายนะ หนึ่งในพระอรหันต์สมัยพุทธกาล ท่านเป็นบุตรของพราหมณ์ตระกูลกัจจายนะ ผู้เป็นปุโรหิต (ที่ปรึกษา) ของพระเจ้าจัณฑปัชโชต ในกรุงอุชเชนี นอกจากท่านจะมีความเฉลียวฉลาด สามารถศึกษาอะไรได้รวดเร็วแล้ว ท่านยังมีรูปกายที่งดงาม มีผิวพรรณดั่งทองคำอีกด้วย
 
ต่อมาท่านได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าจนเกิดความเลื่อมใสและสำเร็จเป็นพระอรหันต์ จึงได้อุปสมบทด้วยวิธีเอหิภิกขุสัมปทา (พระพุทธเจ้าทำการบวชให้) และพระพุทธเจ้าทรงยกย่องให้เป็นเอตทัคคะในทางอธิบายความย่อให้พิสดาร คือมีความสามารถเป็นเลิศในการย่อพระธรรมให้สั้นและเข้าใจง่าย
ด้วยความที่ท่านมีรูปงามมาก ทำให้หลายคนมักเข้าใจผิดว่าท่านคือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเชื่อกันว่า "พระภควัมปติ" ที่ผู้คนเรียกขานท่านนั้น มีความหมายว่า "ผู้มีความงามละม้ายเหมือนพระผู้มีพระภาคเจ้า" นั่นเอง นอกจากคนจะเข้าใจผิดแล้ว บางคนยังหลงใหลในรูปของท่านจนก่อกรรมโดยไม่ได้ตั้งใจ เมื่อเห็นโทษเช่นนี้แล้ว พระมหากัจจายนะจึงทรุดองค์ลงนั่งคู้บัลลังก์ ยกหัตถ์ขึ้นปิดพระพักตร์ แล้วอธิษฐานจิตเนรมิตให้ร่างกลายเป็นอ้วน เตี้ย พุงพลุ้ยนับแต่นั้นเป็นต้น
 
-------------------------------------
 
ตำนานและประวัติของ พระปิดตา เรื่องที่ 2
พระควัมปติ คือ พระควัมปติเถระ ผู้เป็นสหายของพระยสเถระ
อีกความเชื่อหนึ่งก็คือ พระปิดตา ก็คือ พระควัมปติเถระ ผู้เป็นหนึ่งในพระอสีติมหาสาวก 80 องค์ (พระสาวกผู้ยิ่งใหญ่ สำคัญ และเป็นภิกษุผู้บรรลุธรรมขั้นสูงสุด คือพระอรหัตผล) เดิมท่านเป็นบุตรในตระกูลเศรษฐี และเป็นสหายกับยสมานพ (อ่านว่า ยะสะมานพ) ต่อมาเมื่อไดบรรพชาเป็นพระภิกษุสงฆ์และได้ฟังธรรมจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จนบรรลุเป็นพระอรหันต์พร้อมกับสหายท่านอื่นๆ
 
นอกจากนี้พระควัมปติเถระท่านยังมีฤทธิ์มาก โดยความในพระไตรปิฎกกล่าวไว้ว่า ขณะที่พระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์เสด็จไปยังเมืองสาเกต แล้วประทับอยู่ในพระวิหารอัญชนวัน ปรากฏว่าเสนาสนะมีไม่เพียงพอ ภิกษุจำนวนมากจึงต้องพักอยู่ที่เนินทรายริมแม่น้ำสรภู ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพระวิหาร แต่ทว่าในคืนนั้นเอง ก็เกิดเหตุน้ำหลากในยามวิกาล ทำให้สามเณรส่งเสียงร้องด้วยความตกใจ พระพุทธเจ้าทรงทราบเหตุแล้วจึงตรัสให้พระควัมปติเถระหยุดกระแสน้ำนั้นไว้ ซึ่งพระควัมปติเถระก็สามารถใช้กำลังของฤทธิ์หยุดกระแสน้ำนั้นไว้ได้เป็นที่อัศจรรย์
ถึงแม้ว่ายังไม่เป็นที่แน่ชัดเต็มร้อยว่าแท้จริงแล้ว พระปิดตา หรือ พระควัมปติ นั้นมีที่มาจากพระสาวกองค์ใดกันแน่ แต่ที่แน่นอนก็คือล้วนแต่เป็นมงคลทั้งสิ้น เพราะลักษณะของ พระปิดตา นั้นแสดงธรรมให้เห็นได้ดังนี้
 
 
ลักษณะของพระปิดตา และพุทธคุณของพระปิดตา
ร่างกายของมนุษย์ มี "ทวาร" หมายถึง "ประตู" แห่งการเข้าออก 9 ทาง ได้แก่ ตา 2 จมูก 2 หู 2 ปาก 1 รวมถึงช่องทางขับถ่ายด้านหน้าและด้านหลังอีก 2 รวมเป็น ทวารทั้ง 9
ลักษณะของพระปิดตา จึงสื่อถึงปริศนาธรรมในการปิดทวารทั้ง 9 คือปิดทางเข้าของกิเลสทั้งหลาย นั่นเอง โบราณจึงถือว่าพระเครื่องในรูปแบบของพระปิดตานั้น จะเป็นเครื่องระลึกให้เราสำรวมระวังกายและใจไม่ให้เปิดรับกิเลสเข้ามาโดยง่าย และยังเชื่อกันว่ามีพุทธคุณในการปิดกั้นสิ่งไม่ดี รวมถึงภัยอันตรายต่างๆ อีกด้วย
 
 
 ======================================= 
 
ข้อแนะนำ ในการใช้พระเครื่อง วัตถุมงคลให้บังเกิดผล 
 
ผู้นำไปใช้จะต้องปฏิบัติให้ถูกวิธีตามขั้นตอน หมั่นนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ต้องสวดคาถาให้ขึ้นใจ ที่สำคัญห้ามใช้ในทางที่ผิดศิลธรรม อยากเห็นผลไวควรปฏิบัติตนให้อยู่ในศิล เป็นคนดีต่อตนเอง ต่อคนในครอบครัว และสังคม ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต 
 
ให้ทำบุญใส่บาตรถวายสังฆทาน ปล่อยนกปล่อยปลา บริจาคให้ทานแก่คนตกทุกข์ได้ยาก บริจาคโลงศพผ้าคลุมศพไร้ญาติ กรวดน้ำอุทิศส่วนบุญกุศลที่ทำมาให้แก่ตนเอง คนในครอบครัว ทุกดวงจิต ทุกดวงวิญญาณ เทพเทวาอารักษ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ครูบาอาจารย์ ท่านทั้งหลายที่ประสิทธิ์ประสาทวิทยาคม และสถิตปกปักษ์รักษาอยู่ภายในวัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง อยู่เป็นประจำ ชีวิตจะประสบความสำเร็จรุ่งเรือง ไม่เป็นที่ทุกข์ร้อน
เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขาหน้าโรงพยาบาลมหาราช เชียงใหม่ ออมทรัพย์
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านธัญทิพย์ อมูเลท
ธัญทิพย์ อมูเลท
บริการให้เช่า พระเครื่อง และเครื่องรางของมงคล ทั่วไทย
เบอร์โทร : 0629966394
อีเมล : thanyatip4289@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม