ไฮไลท์
เหรียญเจ้าพ่อพญาวัง อ.วังเหนือ จ.ลำปาง ครบรอบ 36 ปี รร.วังเหนือวิทยา 16 ธ.ค 2548
============================
เจ้าพ่อพญาวัง เป็นเจ้าเมืองวัง ปกครองเมืองวัง ระหว่างปี พ.ศ.๑๗๐๐- ๑๘๐๐ และเจ้าพ่อพญาวังน่าจะเป็นพระยูรญาติพระองค์หนึ่งของพระเจ้าไชยสิริ และในยุคนี้มีการค้าขายและผลิตสินค้า มีความเจริญมากที่สุด ประเภทถ้วยชามเครื่องปั้นดินเผา ผางประทีป ที่มาจากเตาเผาสันกำแพง เชียงใหม่ เตาเผาพาน เชียงราย หรือเตาเผา
ประวัติเจ้าพ่อพญาวัง
"ลุเมื่อ พ.ศ.๑๗๐๒ พระเจ้าไชยศิริแห่งนครไชยปราการ ได้เสียเมืองให้แก่ขุนเลียขวัญฟ้ามหาราช แห่งอาณาจักรเมาพระองค์จึงได้ อพยพพลเมือง ไปตั้งอยู่ที่เมืองอู่ทอง มื้อนั้นก็ถึงกาลที่นครไชยปราการต้องถึงคราววิบัติ นี่เอง พญาวังข้าราชบริพาร แห่งพระเจ้าไชยศิริมิได้อพยพติดตามไปด้วย หากแต่ได้อพยพผู้คนส่วนหนึ่ง ซึ่งรักถิ่นฐานเดิมหลบหนีจาก ไชยปราการ มาตั้งอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ พญาวังได้สร้างคุ้มและวัดวาอารามขึ้นในอาณาบริเวณแห่งนี้ อันมีชื่อเรียกในกาลปัจจุบันว่า ดงหอเจ้าพ่อพญาวัง อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวอำเภอวังเหนือและอำเภอใกล้เคียงตราบจนปัจจุบัน"
ประวัติอำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง
อำเภอวังเหนือ ตามปรากฏในธรรมพุทธจาริก ได้จารึกเป็นลายลักษณ์อักษรว่าเดิมเรียกว่าเมืองหวัง ต่อมาผู้คนพูดกันผิดเพี้ยนเป็น เมืองวัง และเรียกว่า วังเหนือ จนถึงปัจจุบัน สำหรับการตั้งถิ่นฐาน แบ่งได้เป็น ๓ ยุคคือ
ยุคที่ ๑ สมัยเจ้าพ่อพญาวังปกครองเมืองวัง ประมาณ ช่วง พ.ศ. ๑๗๐๐-๑๘๐๐ จากการศึกษาประวัติพระองค์ท่านจากเอกสารแผนภูมิปฏิบัติการประจำปี พ.ศ. ๒๕๔๑ สำนักงานการประถมศึกษาอำเภอวังเหนือ และเอกสารประวัติอำเภอวังเหนือ ซึ่งแต่งโดยพระมหาสุทัศน์ หลักแน่น (ปัจจุบันคือ พระเทพรัตนมุนี รจภ.๖) วัลลพ เสียงกึก ได้เขียนประวัติเจ้าพ่อพญาวังตรงกันว่า “ ได้มีพระประยูรญาติพระองค์หนึ่งของพระเจ้าไชยสิริ เจ้าเมืองไชยปราการ ขณะหนีภัยสงคราม หลังเสียเมืองให้แก่พระเจ้าขวานฟ้าแห่งอาณาจักรเมา ได้นำข้าราชบริพารหลีกออกจากขบวนมาตั้งถิ่นฐานและครอบครองเมือวังและได้สถาปนาตนเองเป็น “พญาวัง “
ยุคที่ ๒ หลังจากสิ้นเจ้าพ่อพญาวัง พ.ศ. ๑๙๐๐-๒๓๐๐ เป็นยุคที่ไม่มีเจ้าผู้ครองเมือง เป็นเพียงหัวเมืองเล็กๆ โดยมีฐานะเป็นพันนาคือเป็นตำบลที่จะต้องส่งส่วย ขึ้นอยู่กับแว่นแคว้นพะเยา ซึ่งเป็นยุคที่รุ่งเรืองที่สุด เป็นยุคที่มีการติดต่อค้าขายกับต่างเมือง สินค้าที่พบคือเครื่องปั้นถ้วยชาม เครื่องเคลือบดินเผา ซึ่งเป็นวัตถุโบราณที่สวยงามและหายากในปัจจุบัน
ยุคที่ ๓ พ.ศ. ๒๓๐๐ - ปัจจุบัน เป็นยุคที่เริ่มมีการปกครองระบบเทศาภิบาล วังเหนือเป็นตำบลหนึ่งของอำเภอแจ้ห่ม ได้ยกฐานะเป็นกิ่งอำเภอเมื่อขึ้น พ.ศ. ๒๔๘๑ เมื่อได้พัฒนาตัวเองจนเจริญมากขึ้น จึงได้ยกฐานะเป็นอำเภอเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๐ จากการที่ เจ้าพ่อพญาวัง เป็นผู้ครองเมืองวังเพียงพระองค์เดียว จึงเป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง มีการก่อสร้างอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาวังขึ้นบริเวณคุ้มวังเดิม ในเขตเทศบาลตำบลบ้านใหม่ ตำบลวังเหนือ เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางด้านจิตใจของคนวังเหนือสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน ทุกปีจะมีประเพณีบวงสรวงเจ้าพ่อพญาวัง เดือน ๙ ( เหนือ ) แรม ๑๓ ค่ำ เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนวังเหนือมีความรัก ความผูกพันในถิ่นเกิด ทุกปีต้องกลับต้องกลับมาภูมิลำเนา
เมืองวัง มีหลักฐานการตั้งถิ่นฐานเป็นชุมชนขนาดเล็กมีการค้นพบเครื่องมือหินบริเวณสันเขาปันน้ำและภูเขาทั่วไปในอำเภอวังเหนือ โดยเฉพาะพบรอย พระพุทธบาทบนภูเขาบ้านสบลืน ตำบลร่องเคาะมีการพบขวานหิน ขวานสำริดอำเภอวังเหนือ ในประวัติศาสตร์เดิมมีชื่อเรียกว่า “ดงเวียง” หรือ “ เวียงวัง ” (เมืองวัง) ตามหนังสือประวัติศาสตร์อำเภอวังเหนือที่แต่งโดยพระมหาสุทัศน์ หลักแน่น และนายวัลลพ เสียงกึก สันนิษฐานว่าเมืองวังเกิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ.๕๐๐-๕๙๙ เป็นต้นมา โดยคาดว่าน่าจะเป็นเมืองขึ้นหรือส่วนหนึ่งของเมืองอื่นในอดีต เช่น เมืองเชียงแสน หรือ เมืองนครเขลางค์ เมืองวังมีช่วงที่เจริญสูงสุด จะเป็นในช่วงยุคสมัยที่เจ้าพ่อพญาวัง ปกครองเมืองวังระหว่างปี พ.ศ.๑๗๐๐-๑๘๐๐ ซึ่งประวัติเจ้าพ่อพญาวังน่าจะเป็นพระประยูรญาติพระองค์หนึ่งของพระเจ้าไชยสิริ และในยุคนี้มีการค้าขายและผลิตสินค้า ประเภทถ้วยชามเครื่องปั้นดินเผา ผางประทีป ที่มาจากเตาเผาสันกำแพง เชียงใหม่ เตาเผาพาน เชียงราย หรือเตาเผา วังเหนือ เวียงกาหลง และมีการค้นพบชิ้นถ้วยที่ผลิตในยุคราชวงค์หมิงประเทศจีน ต่อมาประมาณ ปี พ.ศ.๒๓๑๗ เกิดภาวะสงครามขึ้นระหว่างพม่า กับล้านนา ทำให้ผู้คนต่างหนีภัยไปในทิศทางต่างๆ จนกลายเป็นสภาพเมืองร้าง จนถึงปีประมาณ พ.ศ. ๒๓๗๓ เมืองวังกลับคืนสู่สภาพความเป็นชุมชนเมือง อีกครั้งหนึ่ง หลังจากพม่าสิ้นอำนาจการปกครองในสมัยพระเจ้ากาวิละ เจ้าผู้ครองเชียงใหม่สามารถขับไล่พม่าได้สำเร็จ ใน พ.ศ.๒๔๓๕ มีการแบ่งการปกครอง เป็นระบบส่วนภูมิภาค และระบบเทศาภิบาลเมืองวังเป็นตำบลหนึ่งของอำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ต่อมาปี พ.ศ. ๒๔๘๑ จึงได้รับการยกฐานะเป็นกิ่งอำเภอมีการเปิดที่ว่ากิ่งอำเภอครั้งแรก เมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๔๘๑ และปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ได้รับการยกฐานขึ้นเป็นอำเภอจนถึงปัจจุบัน
ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า

เหรียญเจ้าพ่อพญาวัง อ.วังเหนือ จ.ลำปาง ครบรอบ 36 ปี รร.วังเหนือวิทยา 16 ธ.ค 2548   

 

============================

 

เจ้าพ่อพญาวัง เป็นเจ้าเมืองวัง ปกครองเมืองวัง ระหว่างปี พ.ศ.๑๗๐๐- ๑๘๐๐ และเจ้าพ่อพญาวังน่าจะเป็นพระยูรญาติพระองค์หนึ่งของพระเจ้าไชยสิริ และในยุคนี้มีการค้าขายและผลิตสินค้า มีความเจริญมากที่สุด ประเภทถ้วยชามเครื่องปั้นดินเผา ผางประทีป     ที่มาจากเตาเผาสันกำแพง   เชียงใหม่   เตาเผาพาน  เชียงราย  หรือเตาเผา 

 

ประวัติเจ้าพ่อพญาวัง

"ลุเมื่อ พ.ศ.๑๗๐๒ พระเจ้าไชยศิริแห่งนครไชยปราการ ได้เสียเมืองให้แก่ขุนเลียขวัญฟ้ามหาราช แห่งอาณาจักรเมาพระองค์จึงได้ อพยพพลเมือง ไปตั้งอยู่ที่เมืองอู่ทอง มื้อนั้นก็ถึงกาลที่นครไชยปราการต้องถึงคราววิบัติ นี่เอง พญาวังข้าราชบริพาร แห่งพระเจ้าไชยศิริมิได้อพยพติดตามไปด้วย หากแต่ได้อพยพผู้คนส่วนหนึ่ง ซึ่งรักถิ่นฐานเดิมหลบหนีจาก ไชยปราการ มาตั้งอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ พญาวังได้สร้างคุ้มและวัดวาอารามขึ้นในอาณาบริเวณแห่งนี้ อันมีชื่อเรียกในกาลปัจจุบันว่า ดงหอเจ้าพ่อพญาวัง อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวอำเภอวังเหนือและอำเภอใกล้เคียงตราบจนปัจจุบัน"

 

ประวัติอำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง

                  อำเภอวังเหนือ ตามปรากฏในธรรมพุทธจาริก ได้จารึกเป็นลายลักษณ์อักษรว่าเดิมเรียกว่าเมืองหวัง ต่อมาผู้คนพูดกันผิดเพี้ยนเป็น เมืองวัง และเรียกว่า วังเหนือ จนถึงปัจจุบัน สำหรับการตั้งถิ่นฐาน แบ่งได้เป็น ๓ ยุคคือ

             

ยุคที่ ๑ สมัยเจ้าพ่อพญาวังปกครองเมืองวัง ประมาณ ช่วง พ.ศ. ๑๗๐๐-๑๘๐๐ จากการศึกษาประวัติพระองค์ท่านจากเอกสารแผนภูมิปฏิบัติการประจำปี พ.ศ. ๒๕๔๑ สำนักงานการประถมศึกษาอำเภอวังเหนือ และเอกสารประวัติอำเภอวังเหนือ ซึ่งแต่งโดยพระมหาสุทัศน์ หลักแน่น (ปัจจุบันคือ พระเทพรัตนมุนี รจภ.๖) วัลลพ เสียงกึก ได้เขียนประวัติเจ้าพ่อพญาวังตรงกันว่า “ ได้มีพระประยูรญาติพระองค์หนึ่งของพระเจ้าไชยสิริ เจ้าเมืองไชยปราการ ขณะหนีภัยสงคราม หลังเสียเมืองให้แก่พระเจ้าขวานฟ้าแห่งอาณาจักรเมา ได้นำข้าราชบริพารหลีกออกจากขบวนมาตั้งถิ่นฐานและครอบครองเมือวังและได้สถาปนาตนเองเป็น “พญาวัง “

            

ยุคที่ ๒ หลังจากสิ้นเจ้าพ่อพญาวัง พ.ศ. ๑๙๐๐-๒๓๐๐ เป็นยุคที่ไม่มีเจ้าผู้ครองเมือง เป็นเพียงหัวเมืองเล็กๆ โดยมีฐานะเป็นพันนาคือเป็นตำบลที่จะต้องส่งส่วย ขึ้นอยู่กับแว่นแคว้นพะเยา ซึ่งเป็นยุคที่รุ่งเรืองที่สุด เป็นยุคที่มีการติดต่อค้าขายกับต่างเมือง สินค้าที่พบคือเครื่องปั้นถ้วยชาม เครื่องเคลือบดินเผา ซึ่งเป็นวัตถุโบราณที่สวยงามและหายากในปัจจุบัน

            

 ยุคที่ ๓ พ.ศ. ๒๓๐๐ - ปัจจุบัน เป็นยุคที่เริ่มมีการปกครองระบบเทศาภิบาล วังเหนือเป็นตำบลหนึ่งของอำเภอแจ้ห่ม ได้ยกฐานะเป็นกิ่งอำเภอเมื่อขึ้น พ.ศ. ๒๔๘๑ เมื่อได้พัฒนาตัวเองจนเจริญมากขึ้น จึงได้ยกฐานะเป็นอำเภอเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๐ จากการที่ เจ้าพ่อพญาวัง เป็นผู้ครองเมืองวังเพียงพระองค์เดียว จึงเป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง มีการก่อสร้างอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาวังขึ้นบริเวณคุ้มวังเดิม ในเขตเทศบาลตำบลบ้านใหม่ ตำบลวังเหนือ เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางด้านจิตใจของคนวังเหนือสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน ทุกปีจะมีประเพณีบวงสรวงเจ้าพ่อพญาวัง เดือน ๙ ( เหนือ ) แรม ๑๓ ค่ำ เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนวังเหนือมีความรัก ความผูกพันในถิ่นเกิด ทุกปีต้องกลับต้องกลับมาภูมิลำเนา

            

 เมืองวัง มีหลักฐานการตั้งถิ่นฐานเป็นชุมชนขนาดเล็กมีการค้นพบเครื่องมือหินบริเวณสันเขาปันน้ำและภูเขาทั่วไปในอำเภอวังเหนือ โดยเฉพาะพบรอย พระพุทธบาทบนภูเขาบ้านสบลืน ตำบลร่องเคาะมีการพบขวานหิน ขวานสำริดอำเภอวังเหนือ ในประวัติศาสตร์เดิมมีชื่อเรียกว่า “ดงเวียง” หรือ “ เวียงวัง ” (เมืองวัง) ตามหนังสือประวัติศาสตร์อำเภอวังเหนือที่แต่งโดยพระมหาสุทัศน์ หลักแน่น และนายวัลลพ เสียงกึก สันนิษฐานว่าเมืองวังเกิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ.๕๐๐-๕๙๙ เป็นต้นมา โดยคาดว่าน่าจะเป็นเมืองขึ้นหรือส่วนหนึ่งของเมืองอื่นในอดีต เช่น เมืองเชียงแสน หรือ เมืองนครเขลางค์ เมืองวังมีช่วงที่เจริญสูงสุด จะเป็นในช่วงยุคสมัยที่เจ้าพ่อพญาวัง ปกครองเมืองวังระหว่างปี พ.ศ.๑๗๐๐-๑๘๐๐ ซึ่งประวัติเจ้าพ่อพญาวังน่าจะเป็นพระประยูรญาติพระองค์หนึ่งของพระเจ้าไชยสิริ และในยุคนี้มีการค้าขายและผลิตสินค้า ประเภทถ้วยชามเครื่องปั้นดินเผา ผางประทีป ที่มาจากเตาเผาสันกำแพง เชียงใหม่ เตาเผาพาน เชียงราย หรือเตาเผา วังเหนือ เวียงกาหลง และมีการค้นพบชิ้นถ้วยที่ผลิตในยุคราชวงค์หมิงประเทศจีน ต่อมาประมาณ ปี พ.ศ.๒๓๑๗ เกิดภาวะสงครามขึ้นระหว่างพม่า กับล้านนา ทำให้ผู้คนต่างหนีภัยไปในทิศทางต่างๆ จนกลายเป็นสภาพเมืองร้าง  จนถึงปีประมาณ พ.ศ. ๒๓๗๓ เมืองวังกลับคืนสู่สภาพความเป็นชุมชนเมือง อีกครั้งหนึ่ง หลังจากพม่าสิ้นอำนาจการปกครองในสมัยพระเจ้ากาวิละ เจ้าผู้ครองเชียงใหม่สามารถขับไล่พม่าได้สำเร็จ   ใน พ.ศ.๒๔๓๕ มีการแบ่งการปกครอง เป็นระบบส่วนภูมิภาค และระบบเทศาภิบาลเมืองวังเป็นตำบลหนึ่งของอำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ต่อมาปี พ.ศ. ๒๔๘๑ จึงได้รับการยกฐานะเป็นกิ่งอำเภอมีการเปิดที่ว่ากิ่งอำเภอครั้งแรก เมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๔๘๑ และปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ได้รับการยกฐานขึ้นเป็นอำเภอจนถึงปัจจุบัน

 

 

เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขาหน้าโรงพยาบาลมหาราช เชียงใหม่ ออมทรัพย์
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านธัญทิพย์ อมูเลท
ธัญทิพย์ อมูเลท
บริการให้เช่า พระเครื่อง และเครื่องรางของมงคล ทั่วไทย
เบอร์โทร : 0629966394
อีเมล : thanyatip4289@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม