จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | 1 ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | เครื่องราง มหาเสน่ห์ เมตตา |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ไฮไลท์ |
งั่ง รุ่นแรก อาจารย์เหลี้ยม นาโยง สำนักไชยมงคล จ.ตรัง ปี ๒๕๖๔
( งั่ง ) รุ่นแรก ปี๒๕๖๔
< สำนักไชยมงคล (อาจารย์เหลี้ยม นาโยง) จ.ตรัง > 📌ปลุกเสกเดี่ยว ๑ ปีเต็ม
✳️สุดยอดเครื่องรางมหาเสน่ห์ความรัก เมตตามหานิยม
- พระงั่งมีอิทธิฤทธิ์ในด้านเสน่ห์ เมตตามหานิยม พระงั่งหาใช่จะมีแต่คุณในด้านฝ่ายเสน่ห์อย่างเดียว ยังมีคุณในด้านโชคลาภ เมตตา มหาละลวย
แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรีอีกด้วย และป้องกันสิ่งที่ไม่ดีที่กระทำด้วยไสยเวทย์ คาถาอาคม
เพราะในยุคสมัยโบราณได้สร้างพระงั่งขึ้น ก็เพื่อใช้ในทางด้านออกศึกสงครามอีกด้วย
ในยุคสมัยโบราณมักใช้พระงั่งเป็นเครื่องรางที่สำคัญมาก ที่นักรบระดับนายกองคุมทัพใช้เป็นเครื่องพกติดตัว
เพื่อป้องกันคุ้มครองตัวเองและกองทัพของตนเองไม่ให้พลาดท่าเสียทีหรือพ่ายแพ้ต่อสัตรูต่างๆ
เชื่อว่าจะได้รับชัยชนะต่อสัตรู ด้วยเหตุประการนี้จึงเรียกกันว่า "พระชัย" บ้าง (ไม่ใช่พระชัยวัฒน์อย่างที่หลายคนเข้าใจผิด)
📌 พระงั่งของดั้งเดิมจะสร้างด้วยเนื้อตะกั่วนมหรือสัมฤทธิ์
จะมีส่วนผสมของทองแดง ทองเหลือง ดีบุก สังกะสี ฯ ใช้หล่อรวมกัน จึงเป็น "เนื้อสัมฤทธิ์"
ทางคาจารยุคหลังมานี้ มักสร้าง "พระงั่ง"
ด้วยเนื้อทองเหลืองและเนื้อผงอาถรรพ์ต่างๆ
บางแห่งจะมีการบรรจุด้วยธาตุกายสิทธิ์ ทนสิทธิ์ เช่น...ทองคำ ปรอท เหล็กไหลต่างๆ ฯลฯ
เพื่อหวังให้พระงั่งที่สร้างขึ้นนั้นบังเกิดอิทธิคุณเป็นที่สุด
📌 ที่เราเรียกกันว่า " งั่ง " นั้นเป็นคำที่ใช้เรียกเนื้อพระของคนโบราณ ที่หล่อด้วยโลหะหลายชนิด บ้างเรียก " พระเนื้องั่ง "
ต่อมาจึงเรียกติดปากกันว่า " งั่ง " หรือ " อ้ายงั่ง " ชึ่งคำว่า " งั่ง " ในที่นี้ ไม่ใช่มาจากคำว่างี่เง่า น่ารังเกียจ
คนโง่ คนไม่เป็นประสีประสา หรือโง่ไม่รู้ภาษา แต่ประการใด...
🌟จัดสร้างงั่ง (ตาเถน) รุ่นนี้ขึ้นมาด้วยผงอาถรรพ์และผงศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
ทั้งว่าน - ยาสมุนไพร ดินอาถรรพ์ ธาตุกายสิทธิ์และอื่นๆอีกมากมายชนิดเกินที่จะบรรยายและบอกกล่าวได้หมด
กระผมจึงขอสรุปย่อๆ รวมว่าสร้างด้วย มวลสารอาถรรพ์และมวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
พระงั่งรุ่นนี้ทางกระผมได้จัดสร้างมานานกว่า ๑ ปีแล้วและได้ปลุกเสกเดี่ยวมาโดยตลอด
✳️สามารถใช้พกพาทั่วไปได้ ใส่กระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกงได้
ไม่ต้องกลัวว่าจะลดถอยอิทธิคุณ เพราะไม่เสื่อม ไม่ปลอง แต่อย่างใด
และไม่มีมวลสารที่อันตรายนำมาผสม จึงไม่เกิดโทษแต่อย่างใดเลย
==================================
ประวัติอาจารย์เหลี้ยม นาโยง
" #อาจารย์เหลี้ยม นาโยง "บ้านหนองเหรียง อ.นาโยง จ.ตรัง
ได้เรียนวิชาไสยศาสตร์ เรียนวิชาคาถาอาคมต่างๆ จากครูอาจารย์สายเขาอ้อหลายๆท่าน และ ได้บวชเรียนหนังสืออยู่ที่วัดประสิทธิชัย (ท่าจีน) จ.ตรัง
ได้เรียนวิชาในสายพ่อท่านวันจากหลวงพ่อสุทัตต์ เจ้าอาวาสในยุคนั้น
และได้เรียนการเขียนอักขระขอมจากอาจารย์โด่ง ปูขาว บ้านบางรัก
และเรียนคาถาอาคมจากพระอาจารย์มงคล วัดใหม่ท่าจีน
และจากนั้นก็ได้ย้ายไปอยู่ที่วัดเขาอ้อเป็นระยะเวลาหลายปี
และได้ไปต่อเรียนวิชาต่างๆจากอาจารย์ประจวบ คงเหลือ
และครูอาจารย์อีกหลายๆท่าน เช่น...หมอชัย บ้านปากคลองเก่า
หมอแซม บ้านดอนหลา
หมอผล บ้านปากคลองเก่า (เรียนยาสมุนไพร)
เมื่อสึกมาแล้วก็ยังได้ขวนขวายต่อเรียนวิชาต่างๆ
จากพระและอาจารย์ฆราวาสอีกหลายๆท่าน เช่น...
พ่อท่านแปลก วัดปากปรน
พ่อท่านเปี่ยม วัดลำปลอก
พ่อท่านล้อม วัดต้นปีก
พ่อท่านพลอย วัดหาดเลา
พ่อท่านเพียรชัย วัดช่องน้อย ฯลฯ
และได้เรียนจากฆราวาสเขาอ้ออีกหลายๆท่านด้วยกัน เช่น...
ตาส้อง ทองแจ้ง บ้านทุ่งส้าน
ตาแบน จันทร์แผ้ว บ้านควนยอดทอง
ตาลอบ หยูจีน บ้านควนสวรรค์
อาจารย์เชื้อ ทองคำแทน บ้านห้วยไทร
ตาเพิ่ม ชัยแก้ว บ้านไสบ่อลึก
ตาระพี บ้านสวน ฯลฯ
อาจารย์ฆราวาสที่สำคัญมากอีกท่าน คือหมอคล้อย จันทร์สร
เพราะท่านเป็นทั้งอาจารย์และเป็นทั้งเครือญาติและอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ห่างกันประมาณ ๓๐๐ เมตร
ตาคล้อยได้สอนสรรพวิชาอาคมต่างๆให้ตั้งแต่บวชเป็นสามเณร
และต่อเรียนจากตาคล้อยมาตลอดจนท่านเสียชีวิต
และยังได้เรียนวิชาจากครูอาจารย์ต่างๆอีกหลายๆท่าน...
((ประวัตินี้ได้เขียนขึ้นพอเป็นสังเขปเท่านั้น ))
*****************************************************
******อาจารย์อาจารย์เหลี้ยม นาโยงเล่าถึงการไปขอเรียนวิชากับครูบาอาจารย์ของท่านของท่าน
สมัยที่ผมไปเรียนกับครูอาจารย์ที่ท่านเป็นพระสงฆ์
บางหลวงพ่อที่ผมไปขอวิชาจากท่านนั้นๆ
กว่าจะได้เรียนท่านจะลองใจเราสารพัด
จะต้องซักจีวร บีบนวด ล้างบาตร หิ้วชั้น
ถากหญ้า กวาดขยะลานวัด ทำอื่นๆอีกมากมาย
ถ้าครูอาจารย์ท่านเป็นฆราวาสก็จะต้องขยันเทียวมาเทียวไป
ต้องไปอาสาสมัครรับใช้ครูอาจารย์ท่านในทุกอย่าง
ไม่ว่าท่านจะไปทำพิธีกรรมอะไรก็จะต้องไปด้วย ไปช่วยไปเป็นลูกมือท่าน
ไปอยู่ไปหาท่านอย่างสม่ำเสมอ จนท่านเห็นถึงความตั้งใจจริง
จะต้องทำตามที่ท่านสั่งกันแค่ตายหวางอีได้มาสักอย่างสักบท
บางอาจารย์ท่านให้คาถา ให้มนต์เรา แล้วท่านให้ท่องให้จำ
แล้วพาเราไปนั่งภาวนาคาถาอยู่ในป่าช้า
พอยามหัวรุ่งไม่รู้ว่าอาจารย์ท่านยกขึ้นไปเมื่อไหร่แล้ว
หารู้หม้ายว่าเรานั่งภาวนามนต์อยู่คนเดียวตั้งแต่ตีเท่าไหร่
ครูอาจารย์ท่านลุกขึ้นกลับไปนอนเสียเมื่อไหร่แล้วก็ไม่รู้
ครูอาจารย์บางท่านพาเราไปนั่งสมาธิหน้าเชิงตะกอน
ตอนที่ถ่านไฟเผาศพยังแดงๆอยู่เลยก็มีหลายครั้ง
แถมพอกลับมาถึงกุฏิท่านบอกว่าท่านลืมอาสนะ ลืมของไว้ในป่าช้าบ้าง
ท่านใช้ให้ไปเอาของให้ท่าน แต่ต้องไปเอาคนเดียว ใครจะไปเอาก็ได้
ผลสุดท้ายเมื่อเราอาสาไปเอา ของๆท่านๆก็ลืมเอาไว้จริงนั้นแหละ
แต่บนอาสนะหรือสิ่งของต่างๆจะตั้งทับกระดาษไว้แผ่นนึง
กระดาษแผ่นนั้นท่านก็เขียนคาถาเอาไว้ให้เราเอามาท่องมาเรียน
นี้คือภูมิธรรมและปัญญาต่างๆของครูอาจารย์ท่าน
สิ่งเหล่านี้คือการปรนนิบัติและการอยู่ด้วยกับครูอาจารย์
ท่านจะตรวจดูนิสัยใจคอ ดูใจและความอดทนของเรา
บางท่านทดสอบ ฝึกฝน ด้วยกลวิธีต่างๆมากมาย
อาจารย์บางท่านก็ ดุ ด่า ว่า เฆี่ยนตีสารพัด
เปรียบดั่งการตีเหล็ก เพื่อให้เป็นเหล็กเนื้อดีมีคุณภาพ
สิ่งเหล่านี้เป็นขั้นพื้นฐานต่างๆที่ศิษย์ควรจะเรียนรู้...
**********************************
นี้แหละ !!!
ก่อนที่จะเป็นอาจารย์เหลี้ยม นาโยง เยี่ยงทุกทุกวันนี้
หาใช่มีชื่อหรือดังมาได้เพราะใช้สื่อโซเชียล
หรือจ้างลงหนังสือ การลงนิตยาสารประชาสัมพันธ์ตัวเอง...
|
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
งั่ง รุ่นแรก อาจารย์เหลี้ยม นาโยง สำนักไชยมงคล จ.ตรัง ปี ๒๕๖๔
( งั่ง ) รุ่นแรก ปี๒๕๖๔
< สำนักไชยมงคล (อาจารย์เหลี้ยม นาโยง) จ.ตรัง > 📌ปลุกเสกเดี่ยว ๑ ปีเต็ม
✳️สุดยอดเครื่องรางมหาเสน่ห์ความรัก เมตตามหานิยม
- พระงั่งมีอิทธิฤทธิ์ในด้านเสน่ห์ เมตตามหานิยม พระงั่งหาใช่จะมีแต่คุณในด้านฝ่ายเสน่ห์อย่างเดียว ยังมีคุณในด้านโชคลาภ เมตตา มหาละลวย
แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรีอีกด้วย และป้องกันสิ่งที่ไม่ดีที่กระทำด้วยไสยเวทย์ คาถาอาคม
เพราะในยุคสมัยโบราณได้สร้างพระงั่งขึ้น ก็เพื่อใช้ในทางด้านออกศึกสงครามอีกด้วย
ในยุคสมัยโบราณมักใช้พระงั่งเป็นเครื่องรางที่สำคัญมาก ที่นักรบระดับนายกองคุมทัพใช้เป็นเครื่องพกติดตัว
เพื่อป้องกันคุ้มครองตัวเองและกองทัพของตนเองไม่ให้พลาดท่าเสียทีหรือพ่ายแพ้ต่อสัตรูต่างๆ
เชื่อว่าจะได้รับชัยชนะต่อสัตรู ด้วยเหตุประการนี้จึงเรียกกันว่า "พระชัย" บ้าง (ไม่ใช่พระชัยวัฒน์อย่างที่หลายคนเข้าใจผิด)
📌 พระงั่งของดั้งเดิมจะสร้างด้วยเนื้อตะกั่วนมหรือสัมฤทธิ์
จะมีส่วนผสมของทองแดง ทองเหลือง ดีบุก สังกะสี ฯ ใช้หล่อรวมกัน จึงเป็น "เนื้อสัมฤทธิ์"
ทางคาจารยุคหลังมานี้ มักสร้าง "พระงั่ง"
ด้วยเนื้อทองเหลืองและเนื้อผงอาถรรพ์ต่างๆ
บางแห่งจะมีการบรรจุด้วยธาตุกายสิทธิ์ ทนสิทธิ์ เช่น...ทองคำ ปรอท เหล็กไหลต่างๆ ฯลฯ
เพื่อหวังให้พระงั่งที่สร้างขึ้นนั้นบังเกิดอิทธิคุณเป็นที่สุด
📌 ที่เราเรียกกันว่า " งั่ง " นั้นเป็นคำที่ใช้เรียกเนื้อพระของคนโบราณ ที่หล่อด้วยโลหะหลายชนิด บ้างเรียก " พระเนื้องั่ง "
ต่อมาจึงเรียกติดปากกันว่า " งั่ง " หรือ " อ้ายงั่ง " ชึ่งคำว่า " งั่ง " ในที่นี้ ไม่ใช่มาจากคำว่างี่เง่า น่ารังเกียจ
คนโง่ คนไม่เป็นประสีประสา หรือโง่ไม่รู้ภาษา แต่ประการใด...
🌟จัดสร้างงั่ง (ตาเถน) รุ่นนี้ขึ้นมาด้วยผงอาถรรพ์และผงศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
ทั้งว่าน - ยาสมุนไพร ดินอาถรรพ์ ธาตุกายสิทธิ์และอื่นๆอีกมากมายชนิดเกินที่จะบรรยายและบอกกล่าวได้หมด
กระผมจึงขอสรุปย่อๆ รวมว่าสร้างด้วย มวลสารอาถรรพ์และมวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
พระงั่งรุ่นนี้ทางกระผมได้จัดสร้างมานานกว่า ๑ ปีแล้วและได้ปลุกเสกเดี่ยวมาโดยตลอด
✳️สามารถใช้พกพาทั่วไปได้ ใส่กระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกงได้
ไม่ต้องกลัวว่าจะลดถอยอิทธิคุณ เพราะไม่เสื่อม ไม่ปลอง แต่อย่างใด
และไม่มีมวลสารที่อันตรายนำมาผสม จึงไม่เกิดโทษแต่อย่างใดเลย
==================================
ประวัติอาจารย์เหลี้ยม นาโยง
" #อาจารย์เหลี้ยม นาโยง "บ้านหนองเหรียง อ.นาโยง จ.ตรัง
ได้เรียนวิชาไสยศาสตร์ เรียนวิชาคาถาอาคมต่างๆ จากครูอาจารย์สายเขาอ้อหลายๆท่าน และ ได้บวชเรียนหนังสืออยู่ที่วัดประสิทธิชัย (ท่าจีน) จ.ตรัง
ได้เรียนวิชาในสายพ่อท่านวันจากหลวงพ่อสุทัตต์ เจ้าอาวาสในยุคนั้น
และได้เรียนการเขียนอักขระขอมจากอาจารย์โด่ง ปูขาว บ้านบางรัก
และเรียนคาถาอาคมจากพระอาจารย์มงคล วัดใหม่ท่าจีน
และจากนั้นก็ได้ย้ายไปอยู่ที่วัดเขาอ้อเป็นระยะเวลาหลายปี
และได้ไปต่อเรียนวิชาต่างๆจากอาจารย์ประจวบ คงเหลือ
และครูอาจารย์อีกหลายๆท่าน เช่น...หมอชัย บ้านปากคลองเก่า
หมอแซม บ้านดอนหลา
หมอผล บ้านปากคลองเก่า (เรียนยาสมุนไพร)
เมื่อสึกมาแล้วก็ยังได้ขวนขวายต่อเรียนวิชาต่างๆ
จากพระและอาจารย์ฆราวาสอีกหลายๆท่าน เช่น...
พ่อท่านแปลก วัดปากปรน
พ่อท่านเปี่ยม วัดลำปลอก
พ่อท่านล้อม วัดต้นปีก
พ่อท่านพลอย วัดหาดเลา
พ่อท่านเพียรชัย วัดช่องน้อย ฯลฯ
และได้เรียนจากฆราวาสเขาอ้ออีกหลายๆท่านด้วยกัน เช่น...
ตาส้อง ทองแจ้ง บ้านทุ่งส้าน
ตาแบน จันทร์แผ้ว บ้านควนยอดทอง
ตาลอบ หยูจีน บ้านควนสวรรค์
อาจารย์เชื้อ ทองคำแทน บ้านห้วยไทร
ตาเพิ่ม ชัยแก้ว บ้านไสบ่อลึก
ตาระพี บ้านสวน ฯลฯ
อาจารย์ฆราวาสที่สำคัญมากอีกท่าน คือหมอคล้อย จันทร์สร
เพราะท่านเป็นทั้งอาจารย์และเป็นทั้งเครือญาติและอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ห่างกันประมาณ ๓๐๐ เมตร
ตาคล้อยได้สอนสรรพวิชาอาคมต่างๆให้ตั้งแต่บวชเป็นสามเณร
และต่อเรียนจากตาคล้อยมาตลอดจนท่านเสียชีวิต
และยังได้เรียนวิชาจากครูอาจารย์ต่างๆอีกหลายๆท่าน...
((ประวัตินี้ได้เขียนขึ้นพอเป็นสังเขปเท่านั้น ))
*****************************************************
******อาจารย์อาจารย์เหลี้ยม นาโยงเล่าถึงการไปขอเรียนวิชากับครูบาอาจารย์ของท่านของท่าน
สมัยที่ผมไปเรียนกับครูอาจารย์ที่ท่านเป็นพระสงฆ์
บางหลวงพ่อที่ผมไปขอวิชาจากท่านนั้นๆ
กว่าจะได้เรียนท่านจะลองใจเราสารพัด
จะต้องซักจีวร บีบนวด ล้างบาตร หิ้วชั้น
ถากหญ้า กวาดขยะลานวัด ทำอื่นๆอีกมากมาย
ถ้าครูอาจารย์ท่านเป็นฆราวาสก็จะต้องขยันเทียวมาเทียวไป
ต้องไปอาสาสมัครรับใช้ครูอาจารย์ท่านในทุกอย่าง
ไม่ว่าท่านจะไปทำพิธีกรรมอะไรก็จะต้องไปด้วย ไปช่วยไปเป็นลูกมือท่าน
ไปอยู่ไปหาท่านอย่างสม่ำเสมอ จนท่านเห็นถึงความตั้งใจจริง
จะต้องทำตามที่ท่านสั่งกันแค่ตายหวางอีได้มาสักอย่างสักบท
บางอาจารย์ท่านให้คาถา ให้มนต์เรา แล้วท่านให้ท่องให้จำ
แล้วพาเราไปนั่งภาวนาคาถาอยู่ในป่าช้า
พอยามหัวรุ่งไม่รู้ว่าอาจารย์ท่านยกขึ้นไปเมื่อไหร่แล้ว
หารู้หม้ายว่าเรานั่งภาวนามนต์อยู่คนเดียวตั้งแต่ตีเท่าไหร่
ครูอาจารย์ท่านลุกขึ้นกลับไปนอนเสียเมื่อไหร่แล้วก็ไม่รู้
ครูอาจารย์บางท่านพาเราไปนั่งสมาธิหน้าเชิงตะกอน
ตอนที่ถ่านไฟเผาศพยังแดงๆอยู่เลยก็มีหลายครั้ง
แถมพอกลับมาถึงกุฏิท่านบอกว่าท่านลืมอาสนะ ลืมของไว้ในป่าช้าบ้าง
ท่านใช้ให้ไปเอาของให้ท่าน แต่ต้องไปเอาคนเดียว ใครจะไปเอาก็ได้
ผลสุดท้ายเมื่อเราอาสาไปเอา ของๆท่านๆก็ลืมเอาไว้จริงนั้นแหละ
แต่บนอาสนะหรือสิ่งของต่างๆจะตั้งทับกระดาษไว้แผ่นนึง
กระดาษแผ่นนั้นท่านก็เขียนคาถาเอาไว้ให้เราเอามาท่องมาเรียน
นี้คือภูมิธรรมและปัญญาต่างๆของครูอาจารย์ท่าน
สิ่งเหล่านี้คือการปรนนิบัติและการอยู่ด้วยกับครูอาจารย์
ท่านจะตรวจดูนิสัยใจคอ ดูใจและความอดทนของเรา
บางท่านทดสอบ ฝึกฝน ด้วยกลวิธีต่างๆมากมาย
อาจารย์บางท่านก็ ดุ ด่า ว่า เฆี่ยนตีสารพัด
เปรียบดั่งการตีเหล็ก เพื่อให้เป็นเหล็กเนื้อดีมีคุณภาพ
สิ่งเหล่านี้เป็นขั้นพื้นฐานต่างๆที่ศิษย์ควรจะเรียนรู้...
**********************************
นี้แหละ !!!
ก่อนที่จะเป็นอาจารย์เหลี้ยม นาโยง เยี่ยงทุกทุกวันนี้
หาใช่มีชื่อหรือดังมาได้เพราะใช้สื่อโซเชียล
หรือจ้างลงหนังสือ การลงนิตยาสารประชาสัมพันธ์ตัวเอง...
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |