พระอินทร์อวตารประทานทรัพย์ เนื้อว่านผสมผงพรายกุมาร ฝังตะกรุดเงิน พระมหาวารินทร์ วัดสันต้นหมื้อ จ.เชียงใหม่

พระอินทร์อวตารประทานทรัพย์  เนื้อว่านผสมผงพรายกุมาร  ฝังตะกรุดเงิน พระมหาวารินทร์ นรินโท วัดสันต้นหมื้อ จ.เชียงใหม่ ปี 2559

 

คาถาบูชาพระอินทร์อวตารประทานทรัพย์

( เทพพญาวานร สี่หูห้าตา )

วัดสันต้นหมื่อ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่

 

( ตั้งนะโม 3 จบ )

โอม ตัง เม เส หิ จัตตา สัพพะ ลาภา

สัพพะโภคา สัพพะ ธะนา ภะวันตุเม

( สวด3จบ )

 

ป้องกันอันตรายทั้งปวง กันฟ้าผ่า ไฟไหม้

เป็นมหาโชค ดวงตก อาภัพโชค การงานมีปัญหา

สวดบูชาทุกค่ำเช้า ดีนักแล

 

======================================

สร้างจากมวลสารอาถรรพ์ต่างๆมากมาย 

ที่พระอาจารย์ท่านได้เริ่มเก็บและเซาะแสวงหา เป็นเวลา 10 กว่าปี ประกอบด้วย

ดิน7ป่าช้าที่เคยประหารนักโทษ

ดิน7ตลาดที่ค้าขายดี

ดิน7วัดที่ชื่อเป็นมงคล 

ดอกไม้7หลักเมือง

ดิน7ท่า

ดิน7โป่ง

ดินขุยปูดอย

ดิน7จอมปลวก

ตะไคร่ใบเสมา7วัด7พระธาตุ

กระดูกผีตายวันส์เผาวันอังคาร

ดินฝังศพผีตายทั้งกลม

ดินหลุ่มศพเด็ก

กระดูกผีพันปีแมน

ลูกอมผงพรายหลวงปู่ทิม

มวลสารจากพระขุนแผนรุ่นแรกครูบาจันต๊ะ

มวลสารจากพระขุนแผนยุคต้นหลวงพ่อกวย

น้ำมันพรายสุดารัตน์

มวลสารจากพระขุนแผนหลวงพ่อเขียววัดห้วยเงาะ

มวลสารจากพระขุนแผนหลวงพ่อรักษ์ อนาลโย

มวลสารจากพระขุนแผนหลวงพ่อครึ้นวัดสังโฆ

มวลสารจากพระขุนแผนหลวงปู่สรวงเทวดาเดินดิน

ผงพรายกุมารทองหลวงพ่อจืดรุ่นแรก

มวลสารจากพระขุนแผนครูบาสิทธิ

ห่วงคณาจารย์ทั่วประเทศหลอมทำเป็นแผ่นจาร

เม็ดประคำหลวงปู่ทองหลวงปู่หมุน

มวลสารจากพระขุนแผนหลวงพ่ออุ้นวัดตาลกง

มวลสารจากพระขุนแผนครูบาอุ่นวัดโรงวัว

มวลสารจากพระขุนแผนหลวงพ่อดีวัดประรูป

มวลสารจากพระขุนแผนกรุทัพข้าว

มวลสารจากพระขุนแผนหลวงตาม้าวัดถ้ำเมืองนะ

มวลสารเมืองใต้แร่หลวงปู่ปี97

มวลสารจากพระขุนแผนหลวงพ่อเสน่ห์วัดเชียงขาง

มวลสารจากพระขุนแผนวัดสันมะเม่า จ.เชียงราย

มวลสารจากพระขุนแผนหลวงปู่ฤาษี สุอน ธรรมราชา

มวลสารจากพระขุนแผนแร่เหล็กน้ำพี้

มวลสารจากพระขุนแผนหลังยันต์อกแตก

มวลสารจากพระกรุวัดบางกระทิง

พระปิดตาพรายสมุทรหลวงพ่อเจิม อชิโต วัดห้วยราก2499

แร่มหานิล ใช้โรยจตุคามรุ่นพระนเรศวรวัดเจดีย์งาม

ลูกอมชานหมากหลวงปู่ผ่านวัดศาลาเขียง

แร่พลอย,แร่สะเก็ดดาวตก,แร่มหานิล,หินหยก,แร่เกาะล้าน,

เทียนชัยปิดตาพระอุปคุตวัดแม่อายหลวง,กาฝากมะยมครูบาสิทธิ,

ผงนะเมตตาหลวง,ผงนะฤาชา,เคลือเขาหลวงป่า,ขมิ้นภูติ,แร่หินทองคำ,

ดินโปร่งผี,แร่หินโปร่งขาม,พุดซ้อน,มะลิซ้อน,ดอกรักซ้อน,ว่านดอกทอง,

ผงสมเด็จข้าวก้นบาตรวัดใหม่ราชกรุด จ.ระนอง,แร่จากถ้ำยะลา

 

.....ผู้ที่บูชาจะต้องปฏิบัติตนอยู่ในศีลในธรรม จึงจะเกิดผล อธิฐานขอประสบผลสำเร็จทุกประการ

 

อธิฐานขอประสบความสำเร็จตามที่ขอไว้แล้ว ไม่ต้องเซ่นทำบุญอุทิศให้พรายก็พอ เขาจะได้บุญไปเกิดภพภูมิที่สูงขึ้น 

เขาก็มีบุญกุศลเยอะและอยากร่วมทำบุญกุศลกับเรา บารมีเพิ่มก็ช่วยเราได้แรง 

พรายที่กินแต่ของเซ่นเขาก็อยู่อย่างนั้น ช่วยเราได้ไม่มาก ถึงเวลายังอาจจะทำเราได้ ของสำนักวัดส้นต้นหมื้อไม่ต้องเซ่นก็ได้ครับ เน้นทำบุญอุทิศให้ก็พอ

 

========================

 

วิธีนำพรายเข้าบ้าน   ให้จุดธูปขออนุญาตพระพุทธในบ้าน  ๓  ดอก  จุดธูปบอกเจ้าที่เจ้าทาง  สิ่งศักดิ์สิทธิ์  กลางแจ้ง  ๑๖  ดอก 

ถ้าไม่สะดวกกลางแจ้งให้บอกที่ระเบียงบ้าน เพื่อขออนุญาติ นำเข้าบ้าน  แล้วจัดสำรับขนม   ผลไม้  น้ำดื่ม  น้ำหวาน  ถวาย

นำไปเลี่ยมใส่กรอบพกติดตัว หรือใส่กระเป๋าเสื้อ กระเป๋าถือ หรือบูชาไว้ใส่พานไว้ในบ้าน  หน้าร้านค้า   หมั่นภาวนาทุกเช้าค่ำให้ขึ้นใจด้วยคาถา

 

เวลาเก็บรักษาสายพราย ให้จัดวางตำแหน่ง ที่เหมาะสมคือห้ามนำไปไว้ใกล้กับพระเด็ดขาด ให้วางไว้ที่ธรรมดาที่ไม่มี พระหรือวัตถุมงคลอื่นใดจะจัดวางรวมไว้กับประเภทพรายเหมือนกันได้  

 

 

========================

 

 

ตำนาน เทพสี่หูห้าตา หรือพระอินทร์แปลงสี่หูห้า

 

ตามตำนานที่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา แห่งวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จังหวัดลำพูน ว่า เทพสี่หูห้าตา คือ พระอินทร์ที่แปลงกายลงมาเพื่อจะทดสอบจิตใจของมนุษย์ว่ามี พรหมวิหาร 4 หรือไม่นั้น

 

เทพอินทร์แปลงจึงจำแลงกายเป็นแมงสี่หูห้าตา และออกอุบายไล่เหยียบย่ำพืชผลของชาวนาในหน้าเก็บเกี่ยว ทำให้ชาวนาเกิดความโกรธแค้นจึงลงมือทำร้ายแมงสี่หูห้าตา จนกระทั่งมีชาวนาคนหนึ่งนึกสงสารเจ้าแมงสี่หูห้าตาตัวนี้จึงนำมันกลับมาเลี้ยงดูและให้อาหารให้กิน แต่แม้จะให้ะอะไรไปแมงสี่หูห้าตาก็ไม่ยอมกินอาหารเหล่านั้นเลย จนกระทั่งตกกลางคืนอากาศหนาวเหน็บ ชาวนาผู้ใจดีได้ก่อกองไฟเพื่อไล่ความหนาวเหน็บให้แมงสี่หูห้าตา ด้วยความกังวลกลัวมันจะหนาวตาย  เจ้าแมงสี่หูห้าตาได้เห็นความเมตตา ความอดทน ความอาทรของชาวนาผู้นี้และอยากจะตอบแทนความใจดีของเขา จึงจับกินถ่านไฟร้อนเข้าไปและถ่ายมูลออกมาเป็นทองคำจำนวนมาก เพื่อตอบแทนความมีน้ำใจงามของชาวนาผู้ยากไร้ ทำให้ชาวนาผู้ยากไร้กลายเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืน จึงเป็นที่มาว่า แมงสี่หูห้าตานั้น เป็นเทพแห่งโชคลาภและความอุดมสมบูรณ์ โดยมีลักษณ์คล้ายลิง มีรูปร่างอ้วนเตี้ย หน้าตาประหลาด มีสี่หูห้าตา กินถ่านและถ่ายมูลออกเป็นทอง

 

 ตำนานอันเก่าแก่ที่กล่าวมานี้ ทำให้มีชาวไทยและชาวต่างประเทศรู้จักองค์สี่หูห้าตาเป็นอย่างดี จึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธา ซึ่งเป็นที่นิยมมากทำให้ความเชื่อเรื่องเทพสี่หูห้าตาถูกแพร่หลายไปทั่วทุกสารทิศ ไม่ว่าจะเป็นแทบเอเชีย หรือแทบยุโรป ได้พากันเดินทางมาทำพิธีที่ประเทศไทยกันอย่างไม่ขาดสาย จากปากของคนที่เดินทางมาไหว้องค์สี่หูห้าตา ตอนแรกยังไม่เชื่อก็เลยลองขอพรดูไม่เสียหายและก็ได้ตามที่ขอ มาขออีกก็ได้อีก จึงได้ไปบอกต่อเพื่อนฝูง ต่อกันไปปากสู่ปากนำไปสู่ความศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ 

 

ความหมายขององค์อินทร์แปลงสี่หูห้าตาที่สร้างขึ้นมาเพื่อไว้เป็นเครื่องเตือนสติให้เป็นกุศโลบายที่เปรียบเทียบว่า ศีล 5 เท่ากับ 5 ตา ส่วน 4 หู ก็คือ พรหมวิหาร 4 ที่พระอินทร์ได้แปลงมาลองใจชาวนา เป็นปริศนาธรรมที่ว่า ทองคำที่กว่าจะได้มานั้ันเพราะผ่านการหล่อหลอมที่ต้องใช้ความอดทน และเปรียบเสมือน ชาวนาผู้ยากไร้ที่กว่ากลายเป็นเศรษฐีก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายด้วยจิตใจที่เข้มแข็งและมีเมตตากรุณา ซึ่งก็อยากให้ลูกศิษย์หรือผู้ที่เดินทางมากราบไหว้องค์สี่หูห้าตา ให้มีความอดทน ไม่ย้อท้อต่ออุปสรรคใดๆ เพราะการจะประสบความสำเร็จได้ต้องมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจมีแรงตั้งมั่น ยึดมั่นในการคิดดี ประพฤติดีอยู่สม่ำเสมอ มีความศรัทธาในตนเองและลงมือทำจนกว่าผลจะสำเร็จงอกงามสมดั่งความปรารถนา

 

 

 

============================================================

 

ประวัติโดยย่อ พระอาจารย์มหาวารินทร์ นรินโท วัดสันต้นหมื้อ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่

 

 

ท่านเกิดวันพฤหัสบดี ที่ 10 มกราคม 2517 บิดาชื่อ ศรีทน นิภา(เสียชีวิตแล้ว) มารดาชื่อ นางขันคำ นิภา ท่านมีเชื้อชาติและสัญชาติไทย เป็นคนเชียงใหม่แต่กำเนิด

 

 

-ท่านบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2531 ณ.วัดท่าตอน พระอารามหลวง โดยมี พระครูวิมลกิตติสาร (ปัจจุบัน ได้รับพระราชทานทินนามเป็น พระเทพมังคลาจารย์) เจ้าอาวาสวัดท่าตอน พระอารามหลวงเป็นพระอุปัชฌาย์

 

 

-อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2539 ณ.วัดท่าตอน พระอารามหลวง โดยมีพระครูวิมลกิตติสาร ปริยเมธี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูศรีสิทธิฌาณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ มีพระบุญเลิศ ธีรานนฺโท (ปัจจุบันได้รับพระราชทานทินที่พระวิมลญาณมุนี)วัดท่าตอน เป็นพระอนุสาวนาจารย์

 

 

-มีอาจารย์พ่อหนานประพันธ์ วงศาฟู เป็นอาจารย์ฝ่ายฆารวาส พ่อหนานประพันธ์ ท่านเป็นคนบ้านป่าบงงามต.บ้านด้าย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และเป็นอาจารย์ของครูบาเหนือชัย และเป็นศิษย์ผู้พี่ครูบาอิ่นแก้ว วัดสันลิดไม้เกจิหลายๆองค์ที่ไม่ได้เอ่ยนามพ่อหนานประพันธ์ท่านเก่งศาตร์ทุกแขนง นอกจากนี้ท่านยังได้เรียนวิชากับครูบาพิรุณ สิริจันโท วัดชัยมงคล จ.เชียงใหม่ อีกด้วย

 

 

 

-การศึกษา ปี 2531 จบประถมศึกษาปีที่6จากโรงเรียนบ้านป่าแดง ต.บ้านหลวง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ปี 2533 จบประโยคนักธรรมชั้นเอก จากสำนักเรียนวัดท่าตอน พระอารามหลวง ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ปี 2538 จบเปรียญธรรม 6 ประโยค จากสำนักเรียนวัดท่าตอน พระอารามหลวง ศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช

 

 

-การทำงาน(2533-2537) เป็นครูสอนโรงเรียนพุทธศานาวันอาทิตย์ วัดท่าตอน พระอารามหลวง (2535-2538) เป็นครูสอนนักธรรม วัดท่าตอน พระอารามหลวง(2538-2546)เป็นครูสอนภาษาบาลีโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดท่าตอน (2539-ปัจจุบัน)เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมวัดท่าตอน (2546-ปัจจุบัน)เป็นวิทยากรอบรมค่ายคุณธรรม-จริยธรรม ของวัดท่าตอน (2549-ปัจจุบัน)ปัจจุบันรับตำแหน่งเจ้าคณะตำบลสันต้นหมื้อและเจ้าอาวาสวัดสันต้นหมื้อ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่