พระสุริยันจันทราราหูสิบทิศ เนื้อผงมหาว่าน วัดนาสน จ.นครศรีธรรมราช ปี 2547 (ขุนพันธรักษ์ราชเดช เจ้าพิธี) กล่องเดิม

พระสุริยันจันทราราหูสิบทิศ เนื้อผงมหาว่าน วัดนาสน จ.นครศรีธรรมราช ปี 2547 (ขุนพันธรักษ์ราชเดช เจ้าพิธี) กล่องเดิม

(( พระเครื่องพุทธศิลป์ย้อนยุค ))

ปี 2547 วัดนาสน เนื้อผงว่าน จ.นครศรีธรรมราช

(ขุนพันธรักษ์ราชเดช เจ้าพิธี)

วัตถุมงคล ชุดนี้ ปาฏิหารย์และประสบการณ์มากมาย ยิ่งนัก ตั้งแต่ครั้งบวงสรวง และวาระ พุทธาภิเษก ทุกครั้ง..

4 วาระ 4 พิธี สุดเข้มขลัง ยิ่งนัก..

- กล่องเดิม

- วัตถุมงคลทุกองค์ประทับโค๊ตยันต์ เรียบร้อยก่อนเข้าพิธีทั้ง 4 วาระ

- รับประกันแท้

วัดนาสน เป็นวัดโบราณเก่าแก่สร้างมาแต่เมื่อใด

ไม่ปรากฏ เป็นวัดร้างมานานจึงไม่มีโบราณสถานใดๆ ปรากฏให้เห็น จะมีก็แต่เพียงซากอิฐโบราณกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป ในอดีตวัดนาสนเป็นแหล่งกำเนิดของพระกรุเลื่องชื่อศิลปศรีวิชัย สามแบบพิมพ์ คือพิมพ์วงเขน พิมพ์ซุ้มกระรอกกระแตและพิมพ์ยอดขุนพลใบพุทรา

นับเป็นพระกรุยอดนิยมหนึ่งในสุดยอด

พระกรุไตรภาคีของจังหวัดนครศรีธรรมราชที่มีชื่อเสียงและมีค่านิยมระดับหลักแสน คือ พระกรุวัดท่าเรือ พระกรุวัดนางตรา พระกรุวัดนาสน

พระอธิการประหยัก วุธปญฺโญ เจ้าอาวาสวัดสระเรียง เจ้าคณะตำบลคลัง ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญอันเป็นประวัติ

ศาสตร์ของวัดนาสน จึงได้มอบหมายให้ พระอาจารย์เยาว์ กัลยาโณ มารักษาการณ์เจ้าอาวาส เพื่อบูรณะพัฒนาวัดนาสน ขึ้นใหม่ แต่เนื่องจากวัดนาสนในปัจจุบัน ขาดเสนะสนะสำหรับให้พระภิกษุสามเณรใช้ในการประกอบศาสนกิจ พระอาจารย์ เยาว์จึงได้ดำริที่จะก่อสร้างศาลาการเปรียญขึ้น ซึ่งในการนี้จำเป็นที่จะต้องใช้ปัจจัยจำนวนมาก ดังนั้นพระอาจารย์เยาว์จึง

ได้ ขอความอนุเคราะห์มายัง พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ราชเดช ให้ช่วยเป็นประธานในการหาทุนก่อสร้าง

ด้วยเหตุนี้เองวัตถุมงคลรุ่น " พุทธศิลป์ย้อนยุควัดนาสน " จึงได้บังเกิดขึ้น โดยพล.ต.ต ขุนพันธรักษ์ราชเดช มีความยินดีในมหากุศลเจตนา ดังกล่าว จึงได้มอบหมายให้บุตรชาย คือ นายณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช และพ่อค้าประชาชนผู้มีจิตศรัทธา ร่วมกับพระ อาจารย์เยาว์ วัดนาสน ดำเนินการด้านวัตถุมงคล และพิธีกรรมเพื่อหาทุนทรัพย์มาก่อสร้างศาลาการเปรียญให้สำเร็จลุล่วง

ตามเจตนารมณ์โดยเร็ว

วัตถุมงคล รุ่น " พุทธศิลป์ย้อนยุค " ได้ดำเนินการจัดสร้างมาควบคู่กับวัตถุมงคล รุ่น " บูรณะหลักเมืองนครศรีฯ

2547 " หรือที่ เรียกขานกันว่าพระหลักเมืองรุ่น 2 ดังนั้นจึงได้ใช้มวลสารเดียวกัน ซึ่งประกอบด้วยมวลสารศักดิ์สิทธิ์มากมายของ พล.ต.ต ขุนพันธรักษ์ราชเดช ผงอิฐโบราณผงพระกรุ แตกหักของวัดนาสนรวมทั้งผงไม้ตะเคียนเก่าเสาหลักเมือง

นอกจากนี้ยังได้ผ่านพิธีมหามงคลอันเข้มขลังพร้อมกับวัตถุมงคลรุ่น " บูรณะหลักเมืองนครศรีฯ 2547 " มาแล้วรวม 3 วาระคือ

++ พิธีกรรมครั้งที่ 1 ++

พิธีมหาพุทธาภิเษก ณ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2547 ได้เกิดปรากฏการณ์พระ

อาทิตย์ทรงกลดเหนือพระบรมธาตุเจดีย์ จากนั้นละอองฝนได้โปรยปรายลงมาประหนึ่งดังเทพยดาประพรมนั้นพระพุทธ

มนต์

++ พิธีกรรมครั้งที่ 2 ++

พิธีปลุกเสกประจุพุทธาคมอัญเชิญจ้าวสมุทรกลางทะเลลึก ซึ่งเป็นพิธีสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับพระผงสุริยัน

จันทราตามแบบอย่างพระหลักเมืองรุ่นแรก เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2547 พ่อท่านหรั่ง สำนักสงฆ์ห้วยเตงได้เกิดนิมิตร เห็นจ้าวสมุทรรูปร่างใหญ่ มาร่วมประสิทธิประสาทขณะนั่งปลุกเสก และฉับพลันก็บังเกิดปรากฏการณ์ พระอาทิตย์ทรงกลด

++ พิธีกรรมครั้งที่ 3 ++

พิธีบวงสราง ณ หอพระสูงและพุทธภิเษก ณ ศาลหลักเมือง เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2547 ได้เกิดปรากฏการณ์ พระอาทิตย์ทรงกลดเหนือศาลหลักเมือง แสงแดด ที่แผดจ้าก็พลันร่มรื่นเพราะกลุ่มเมฆ ทันทีที่พ่อท่านวรรณ วัดเสาธงทอง

พระเกจิอาจารย์ชื่อดังผู้ทรงศีลบริสุทธิ์สาธยายมนต์ขลังอัญเชิญพระยาศรีวิชัยท้าวจตุคาม ท้าวรามเทพ และเจ้าแม่อินท-ภาณี ซึ่งสถิตย์อยู่เสาหลักเมืองพระคณาจารย์ทุกรูปทั้งสายเขาอ้อยืนยันตรงกันว่าในพิธีมหามงคลนี้มีเทพยดามาร่วมอนุ-โมทนาอำนวยอวยชัยกันมากมาย

++ พิธีกรรมครั้งที่ 4 ++

จะประกอบพิธีพุทธาภิเษกสมโภช ณ วัดนาสน ในวันที่ 24 กันยายน 2547 เป็นพิธีกรรมครั้งสุดท้าย

เสมือนดังเทพยดาเจ้าป่าเจ้าเขาร่วมอนุโมทนาในมหากุศลครั้งนี้ เพราะทันทีที่วัดนาสนได้เปิดสั่งจองเผยแพร่วัตถุมงคล รุ่น " พุทธศิลป์ย้อนยุค " จึงดลบันดาลให้มีการขุดพบพระกรุเก่าทั้งสามพิมพ์เป็นที่กล่าวขานโจษจันกันทั้งจังหวัดนครศรีธรรมราชยังผลให้วัตถุมงคลรุ่น " พุทธศิลป์ย้อนยุค " เป็นที่สนใจและศรัทธาสั่งจองกันอย่างกว้างขวางในทันที

*****พระวงเขนย้อนยุค คำว่าวงเขนสมัยโบราณ หมายถึงพระจันทร์ ดังนั้นพระวงเขนจึงมีรูปทรงกลมขนาดค่อนข้างใหญ่ เหมาะสำหรับไว้บูชาประจำบ้าน ส่วนที่นำมาบูชาติดตัวก็มีเช่นกัน อาทิ พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ราชเดช ซึ่งในอดีตมักจะสวมพระวงเขนไว้ในคอขณะประกอบพิธีกรรมและพระวงเขนรุ่น " พุทธศิลป์ย้อนยุค " ก็ได้ถอดแบบพิมพ์มาจากองค์ของ พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ราชเดช โดยไม่ได้แต่งเติมดัดแปลงแต่ประการใด พระวงเขนเป็นรูปองค์พระพุทธเจ้าอยู่กึ่งกลางด้านซ้ายเป็นองค์พระพรหมกำลังกางสัปทน (ร่ม) ด้านขวาเป็นองค์พระอินทร์เป่าสังข์ อยู่ในซุ้มเรือนแก้วมีความหมายดังว่า

พระพุทธเจ้ากำลังโปรดเหล่าเทพยดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เนื่องจากพระวงเขนมีขนาดใหญ่ขณะปั๊มพระต้องใช้แรงกดมากทำให้บล็อคแตกใช้การไม่ได้ พระวงเขน รุ่นพุทธศิลป์ย้อนยุค จึงมีจำนวนจำกัด ******