จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | 1 ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | ตะกรุด ผ้ายันต์ แผ่นยันต์ เสื้อยันต์ |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ไฮไลท์ |
ตะกรุตโทนหนุมานเชิญธง (พระโหนหมานเชิญธง) อาจารย์เหลี้ยม นาโยง สำนักไชยมงคล จ.ตรัง ปี 2567
ศิษพุทธาคมเขาอ้อ สรรพวิชาเขาอ้อ ไสยเวทวิทยาคมที่ขึ้นชื่อว่าเป็นตรรกะศิลาแห่งแดนใต้ ...
ตะกรุตจารมือ ถักเชือก ๖ เสาหุ้มดอกตะกรุต คลุกผงตามตำรา ลงรัก ปิดทอง
ใส่หลอดฝาสแตนเลส กันน้ำ พร้อมใช้งาน ขนาดรวมหลอดประมาณ 8 นิ้ว (ถ้าจะแกะออกจากหลอด ต้องใช้ไฟลนฝาตะกรุดก่อน)
อิทธิคุณจะเน้นไปทางด้านคงกระพันชาตรี ทรหด แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันอันตรายต่างๆ และอิทธิฤทธิ์กำลัง โดยเฉพาะทางด้านป้องกันศาสตราวุธต่างๆ เช่น...ปืนผาหน้าไม้ หอก มีด ดาบ ไม้ กระบอง ก้อนหิน อื่นๆ
|
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
ตะกรุตโทนหนุมานเชิญธง (พระโหนหมานเชิญธง) อาจารย์เหลี้ยม นาโยง สำนักไชยมงคล จ.ตรัง ปี 2567
ศิษพุทธาคมเขาอ้อ สรรพวิชาเขาอ้อ ไสยเวทวิทยาคมที่ขึ้นชื่อว่าเป็นตรรกะศิลาแห่งแดนใต้ ... ตะกรุตจารมือ ถักเชือก ๖ เสาหุ้มดอกตะกรุต คลุกผงตามตำรา ลงรัก ปิดทอง
ใส่หลอดฝาสแตนเลส กันน้ำ พร้อมใช้งาน ขนาดรวมหลอดประมาณ 8 นิ้ว (ถ้าจะแกะออกจากหลอด ต้องใช้ไฟลนฝาตะกรุดก่อน)
อิทธิคุณจะเน้นไปทางด้านคงกระพันชาตรี ทรหด แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันอันตรายต่างๆ และอิทธิฤทธิ์กำลัง โดยเฉพาะทางด้านป้องกันศาสตราวุธต่างๆ เช่น...ปืนผาหน้าไม้ หอก มีด ดาบ ไม้ กระบอง ก้อนหิน อื่นๆ
*****************************************************
***ในยุคสมัยก่อน เมื่อ ๒๐ กว่าปีที่แล้ว
ถ้าหากมีลูกศิษย์มาขอให้สักหนุมานให้
โดยมากแล้วกระผมจะสักหนุมานเชิญธงตัวนี้ให้แก่เขาไป เพราะหนุมานตัวนี้มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างมาก
เพราะผมได้เรียนมาจากครู ๓ ท่านด้วยกัน
และตลอดมาในช่วง ๒๐ ปีนี้ ผมก็สักหนุมานตัวนี้ให้ไปน้อยมากเพียงไม่กี่คน
และครั้งนี้กระผมได้จารหนุมานเชิญธงตัวนี้ลงในแผ่นทองแดง กว้าง ๑๔ นิ้ว x สูง ๑๖ นิ้ว
และได้ล้อมด้วยดวงยันต์ต่างๆหลายดวงด้วยกัน ล้วนแต่เป็นยันต์โบราณทั้งสิ้น
พร้อมด้วยลงอักขระคาถาหนุมานและคาถาพระเจ้าห้ามอาวุธกำกับอีกครั้ง
และหัวใจหนุมานที่สืบทอดกันมาในสายของครูอาจารย์มาสู่ศิษย์ ซึ่งเป็นวิชาที่ลับเฉพาะ
และกระผมได้เขียนเป็นอักขระเลข สระเลข ซ่อนกลเอาไว้ด้วย
และจะสร้างให้แก่ผู้ที่เคารพ มีความศรัทธาในสาย
ในตัวของกระผมเท่านั้น...
((( ตอนที่ ๒. )))
ตะกรุตโทน...พระโหนหมานเชิญธง (หนุมานเชิญธง)
ถ้าหากแหลงถึงยันต์หนุมานเชิญธง กระผมได้เรียนมาจาก ๓ อาจารย์ด้วยกัน
๑ ใน ๓ นั้นก็มีอาจารย์ลอบ หยูจีน บ้านไสสอม ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง
ซึ่งอาจารย์ลอบท่านเป็นอาจารย์สักยันต์ที่มีชื่อเสียง ตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ ๒
ท่านได้รับกระผมเป็นศิษย์ และท่านได้ถ่ายทอดสรรพวิชาต่างๆของท่านให้แก่กระผมพอควร
และตลอดถึงวิชาการสักยันต์ต่างๆ รวมทั้งยันต์หนุมานเชิญธงตัวนี้ด้วย
ก่อนท่านจะเสียชีวิตประมาณ ๑๐ กว่าปี ถ้าใครจะไปสักกับท่าน ท่านจะให้กระผมไปสักให้
โดยท่านจะนั่งข้างๆเป็นประธานตลอด และท่านจะสอนกันตรงนั้น เมื่อสักเสร็จท่านจะปลุกเสกเอง
และด้วยเหตุนี้กระผมจึงได้มีโอกาสได้เรียนวิชาสักยันต์จากท่านมากขึ้น รวมทั้งยันต์หนุมานเชิญธงด้วย...
รอยสักหนุมานเชิญธงของท่านจะเป็นที่ขึ้นชื่อลือนาม จะมีประสบการณ์มากช่วงในยุคสมัยคอมมิวนิสต์
เกี่ยวกับอาวุธปืน ระเบิด แคล้วคลาดปลอดภัยจากสิ่งเหล่านี้ และป้องกันภัยอันตราย
แต่ยันต์หนุมานเชิญธงของท่านใครสักติดตัวไปแล้วจะทำให้ใจร้อน (อยู่ที่สติและการควบคุมตัว)
อาจารย์ลอบท่านบอกว่าถ้ากินเหล้าเข้าไปแล้วจะทำให้ขาดสติ จะทำให้ควบคุมตัวเองไม่ได้
จนต้องช่วยกันมัดตัวแล้วนำตัวมาให้ท่านทำน้ำมนต์รดหัวให้ จึงจะมีสติรู้สึกตัวเองและกลับมาควบคุมตัวเองได้เป็นปกติ
แต่ในเรื่องต่อสู้ รบรา มีเรื่องมีราวกันจะสู้ไม่คิดตัวตาย สู้ไม่ถอย จะทำให้หึกเหิม ไม่เกรงกลัวต่ออันตรายหรือศัตรูคู่อริ
ภายหลังมาอาจารย์ลอบท่านจึงหยุดสักยันต์หนุมานให้แก่ลูกศิษย์ ถ้าใครต้องการท่านจะทำเป็นผ้ายันต์ให้ไปแทน
ส่วนยันต์หนุมานเชิญธงที่ท่านสักก็เป็นยันต์หนุมานเชิญธงทั่วๆไปที่สำนักต่างๆใช้สักกันนี้แหละ
แต่ยันต์หนุมานที่ท่านเอามาใช้สัก เหตุที่มีความเข้มขลังมาก ก็เพราะด้วยคาถาหนุมานที่ท่านใช้ปลุกเสกเป็นสำคัญ
อาจารย์ลอบบอกแก่กระผมว่าท่านได้เรียนวิชาหัวใจหนุมานและคาถาการปลุกโดยเฉพาะมาจาก ๒ อาจารย์
คือ...พ่อท่านปาน วัดเขาอ้อ , พ่อท่านหมุน วัดเขาแดงตะวันออก และไปเรียนเพิ่มเติมจากอาจารย์น้อย บ้านนา จ.พัทลุง
ซึ่งอาจารย์น้อย บ้านนาท่านนี้ก็เป็นอาจารย์สักยันต์สายฆราวาสที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากอีกท่านของพัทลุง
และอาจารย์ลอบท่านก็ได้เล่าเรียนวิชาต่างๆมาจากอาจารย์น้อยพอสมควร จนอาจารย์น้อยท่านมอบด้ามสักงาช้างให้ และด้ามสักนี้ต่อมาอาจารย์ลอบได้มอบประสิทธิ์ประสาทให้แก่กระผม (อาจารย์เหลี้ยม นาโยง) เป็นผู้สืบทอดต่อไป...
นี้คืออีก ๑ สายวิชาหนุมานเชิญธงที่ได้สืบทอดมาถึงกระผมในยุคปัจจุบันนี้...
((( ตอนที่ ๓. )))
ตะกรุต...พระโหนหมานเชิญธง (หนุมานเชิญธง)
พ่อท่านพร้อม กตปุญฺโญ ธรรมสถานเขาปู่เจ้า
ต.ช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง
เป็นอีก ๑ ครูอาจารย์ที่กระผมได้รับยันต์หนุมานเชิญธงมาจากท่าน โดยประมาณ พ.๒๕๕๐ - ๕๑ ทางวัดได้จัดสร้างรูปเนื้อว่านของพ่อท่านพร้อม ในรูปแบบยืนถือไม้เท้า ด้านหลังเป็นยันต์หนุมานเชิญธง ท่านเป็นผู้กำกับเอง เพราะท่านเกิดปีวอก
และเนื้อว่านที่นำไปปั้มในครั้งนี้ ทางกระผมก็ได้เป็นผู้ถวายไปเยอะมากพอสมควร
และก่อนที่จะแกะบล็อค พ่อท่านพร้อมท่านได้มอบยันต์หนุมานเชิญธงให้แก่กระผม
และบอกว่าให้เอาไปคัดลอกลงในกระดาษ เพื่อส่งมอบให้แก่โรงงาน ให้ทางโรงงานได้แกะบล็อคเหล็ก
และกระผมก็ได้วาดเสร็จ และนำไปถวายท่านเรียบร้อย และท่านพูดว่า..." เห็นสู้ชอบสักยันต์ เอาไปตะเราให้ "
และตอนทำพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลรุ่นนี้ พ่อท่านพร้อมท่านได้ให้กระผมเป็นผู้ประกอบพิธีกรรมบวงสรวง
และได้จัดลานพิธีกรรมบนเนินเขาปู่เจ้า ซึ่งด้านบนเป็นลานกว้างมากพอสมควร...
ต่อมาเมื่อกระผมสักยันต์หนุมานเชิญธงให้แก่ใคร ก็จะอธิษฐานถึงพ่อท่านพร้อม ธรรมสถานเขาปู่เจ้า ด้วยตลอด
เพราะถือว่าท่านเป็นครูผู้ประสิทธิ์ประสาทยันต์หนุมานเชิญธงให้อีก ๑ ท่าน...
((( ตอนที่ ๔. )))
ตะกรุต...พระโหนหมานเชิญธง (หนุมานเชิญธง)
ในทางไสยศาสตร์ทางภาคใต้จะเรียกชื่อ " หนุมาน " ว่า...โหนหมาน หนหมาน โหนลิหมาน ฯลฯ
สุดแล้วแต่การสืบสายมา และสุดแล้วแต่สำนวนการเขียนบันทึกเอาไว้ในตำราของแต่ละสาย แต่การหมายถึง...หนุมาน
จะมีความเชื่อเป็นอย่างมากที่เกี่ยวกับหนุมาน อีกทั้งผู้ที่เล่าเรียนและยึดถือในทางด้านคงกระพันชาตรี
หลายๆสำนัก หลายๆครูอาจารย์โดยมากก็จะมีทั้งโองการ คาถา หัวใจ ดวงยันต์ที่เป็นรูปหนุมาน
อิทธิคุณจะเน้นไปทางด้านคงกระพันชาตรี ทรหด แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันอันตรายต่างๆ และอิทธิฤทธิ์กำลัง โดยเฉพาะทางด้านป้องกันศาสตราวุธต่างๆ เช่น...ปืนผาหน้าไม้ หอก มีด ดาบ ไม้ กระบอง ก้อนหิน อื่นๆ
ในตำราที่กระผมได้เล่าเรียนสืบต่อกันมา ทั้งที่ได้พบเจอในตำรา จะมีคาถาหรือโองการที่กล่าวถึงหนุมานมากพอควร
เช่น...โองการกรอบเพชร (เกราะเพชร) หนุมาน
โองการแต่งทัพออกศึกสงคราม โองการมหาตะเหมื่น
ตลอดไปถึงโองการชาตรีต่างๆ หัวใจหนุมาน ดวงตราหนุมาน คาถาหนุมาน และยันต์หนุมานมากมายหลายฉบับ
เช่น...หนุมานเชิญธง หนุมานคลุกฝุ่น หนุมานกำบังนิทรา หนุมานถีบเมฆ หนุมานหักศร อื่นๆ
พิธีกรรมที่มีความศักดิ์สิทธิ์มากของสำนักเขาอ้อ ที่เป็นที่ประจักษ์และขึ้นชื่อเป็นอย่างมากของสำนักเขาอ้อ
นั่นก็คือพิธีกรรมการแชว่านยา พิธีกรรมการหุงเหนียวยา - น้ำมันยา พิธีกรรมการกินว่านยา
นั่นต้องใช้ว่านยาที่มีชื่อเกี่ยวกับหนุมานหลายตัวมาก เช่น...ว่านกำลังหนุมาน ว่านหนุมานถอนหลัก เพชรหนุมาน ฯลฯ
และเกี่ยวกับโองการหนุมาน คาถาหนุมาน เพื่อหวังให้บังเกิดพละกำลังและฤทธิ์อำนาจเพิ่มขึ้น...
#สำนักไชยมงคล
(อาจารย์เหลี้ยม นาโยง) จ.ตรัง ผู้จัดสร้าง
*****************************************************
ประวัติอาจารย์เหลี้ยม นาโยง
" #อาจารย์เหลี้ยม นาโยง "
บ้านหนองเหรียง อ.นาโยง จ.ตรัง
ได้เรียนวิชาไสยศาสตร์ เรียนวิชาคาถาอาคมต่างๆ จากครูอาจารย์สายเขาอ้อหลายๆท่าน และ ได้บวชเรียนหนังสืออยู่ที่วัดประสิทธิชัย (ท่าจีน) จ.ตรัง
ได้เรียนวิชาในสายพ่อท่านวันจากหลวงพ่อสุทัตต์ เจ้าอาวาสในยุคนั้น
และได้เรียนการเขียนอักขระขอมจากอาจารย์โด่ง ปูขาว บ้านบางรัก
และเรียนคาถาอาคมจากพระอาจารย์มงคล วัดใหม่ท่าจีน
และจากนั้นก็ได้ย้ายไปอยู่ที่วัดเขาอ้อเป็นระยะเวลาหลายปี
และได้ไปต่อเรียนวิชาต่างๆจากอาจารย์ประจวบ คงเหลือ
และครูอาจารย์อีกหลายๆท่าน เช่น...หมอชัย บ้านปากคลองเก่า
หมอแซม บ้านดอนหลา
หมอผล บ้านปากคลองเก่า (เรียนยาสมุนไพร)
เมื่อสึกมาแล้วก็ยังได้ขวนขวายต่อเรียนวิชาต่างๆ
จากพระและอาจารย์ฆราวาสอีกหลายๆท่าน เช่น...
พ่อท่านแปลก วัดปากปรน
พ่อท่านเปี่ยม วัดลำปลอก
พ่อท่านล้อม วัดต้นปีก
พ่อท่านพลอย วัดหาดเลา
พ่อท่านเพียรชัย วัดช่องน้อย ฯลฯ
และได้เรียนจากฆราวาสเขาอ้ออีกหลายๆท่านด้วยกัน เช่น...
ตาส้อง ทองแจ้ง บ้านทุ่งส้าน
ตาแบน จันทร์แผ้ว บ้านควนยอดทอง
ตาลอบ หยูจีน บ้านควนสวรรค์
อาจารย์เชื้อ ทองคำแทน บ้านห้วยไทร
ตาเพิ่ม ชัยแก้ว บ้านไสบ่อลึก
ตาระพี บ้านสวน ฯลฯ
อาจารย์ฆราวาสที่สำคัญมากอีกท่าน คือหมอคล้อย จันทร์สร
เพราะท่านเป็นทั้งอาจารย์และเป็นทั้งเครือญาติและอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ห่างกันประมาณ ๓๐๐ เมตร
ตาคล้อยได้สอนสรรพวิชาอาคมต่างๆให้ตั้งแต่บวชเป็นสามเณร
และต่อเรียนจากตาคล้อยมาตลอดจนท่านเสียชีวิต
และยังได้เรียนวิชาจากครูอาจารย์ต่างๆอีกหลายๆท่าน...
((ประวัตินี้ได้เขียนขึ้นพอเป็นสังเขปเท่านั้น ))
*****************************************************
******อาจารย์อาจารย์เหลี้ยม นาโยงเล่าถึงการไปขอเรียนวิชากับครูบาอาจารย์ของท่านของท่าน
สมัยที่ผมไปเรียนกับครูอาจารย์ที่ท่านเป็นพระสงฆ์
บางหลวงพ่อที่ผมไปขอวิชาจากท่านนั้นๆ
กว่าจะได้เรียนท่านจะลองใจเราสารพัด
จะต้องซักจีวร บีบนวด ล้างบาตร หิ้วชั้น
ถากหญ้า กวาดขยะลานวัด ทำอื่นๆอีกมากมาย
ถ้าครูอาจารย์ท่านเป็นฆราวาสก็จะต้องขยันเทียวมาเทียวไป
ต้องไปอาสาสมัครรับใช้ครูอาจารย์ท่านในทุกอย่าง
ไม่ว่าท่านจะไปทำพิธีกรรมอะไรก็จะต้องไปด้วย ไปช่วยไปเป็นลูกมือท่าน
ไปอยู่ไปหาท่านอย่างสม่ำเสมอ จนท่านเห็นถึงความตั้งใจจริง
จะต้องทำตามที่ท่านสั่งกันแค่ตายหวางอีได้มาสักอย่างสักบท
บางอาจารย์ท่านให้คาถา ให้มนต์เรา แล้วท่านให้ท่องให้จำ
แล้วพาเราไปนั่งภาวนาคาถาอยู่ในป่าช้า
พอยามหัวรุ่งไม่รู้ว่าอาจารย์ท่านยกขึ้นไปเมื่อไหร่แล้ว
หารู้หม้ายว่าเรานั่งภาวนามนต์อยู่คนเดียวตั้งแต่ตีเท่าไหร่
ครูอาจารย์ท่านลุกขึ้นกลับไปนอนเสียเมื่อไหร่แล้วก็ไม่รู้
ครูอาจารย์บางท่านพาเราไปนั่งสมาธิหน้าเชิงตะกอน
ตอนที่ถ่านไฟเผาศพยังแดงๆอยู่เลยก็มีหลายครั้ง
แถมพอกลับมาถึงกุฏิท่านบอกว่าท่านลืมอาสนะ ลืมของไว้ในป่าช้าบ้าง
ท่านใช้ให้ไปเอาของให้ท่าน แต่ต้องไปเอาคนเดียว ใครจะไปเอาก็ได้
ผลสุดท้ายเมื่อเราอาสาไปเอา ของๆท่านๆก็ลืมเอาไว้จริงนั้นแหละ
แต่บนอาสนะหรือสิ่งของต่างๆจะตั้งทับกระดาษไว้แผ่นนึง
กระดาษแผ่นนั้นท่านก็เขียนคาถาเอาไว้ให้เราเอามาท่องมาเรียน
นี้คือภูมิธรรมและปัญญาต่างๆของครูอาจารย์ท่าน
สิ่งเหล่านี้คือการปรนนิบัติและการอยู่ด้วยกับครูอาจารย์
ท่านจะตรวจดูนิสัยใจคอ ดูใจและความอดทนของเรา
บางท่านทดสอบ ฝึกฝน ด้วยกลวิธีต่างๆมากมาย
อาจารย์บางท่านก็ ดุ ด่า ว่า เฆี่ยนตีสารพัด
เปรียบดั่งการตีเหล็ก เพื่อให้เป็นเหล็กเนื้อดีมีคุณภาพ
สิ่งเหล่านี้เป็นขั้นพื้นฐานต่างๆที่ศิษย์ควรจะเรียนรู้...
**********************************
นี้แหละ !!!
ก่อนที่จะเป็นอาจารย์เหลี้ยม นาโยง เยี่ยงทุกทุกวันนี้
หาใช่มีชื่อหรือดังมาได้เพราะใช้สื่อโซเชียล
หรือจ้างลงหนังสือ การลงนิตยาสารประชาสัมพันธ์ตัวเอง...
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |