ไฮไลท์
🔹(( พระผงฉลองพุทธชยันตี ๒๖๐๐ ปี))🔹
แห่งการตรัสรู้ พ.ศ.2555 พระพุทธชินราช
หลังหลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญฺญมากโร
วัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
♦ เนื้อผงพุทธคุณ ผงว่าน
♦ พระเก่าสวย มวลสารดี พิธีใหญ่
ลวงพ่อประสิทธิ์ บุญญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
ลูกศิษย์สายกรรมฐานท่านอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ท่านเป็นหนึ่งในพระปฎิบัติดีปฎิบัติชอบอีกรูปในปัจจุบัน
หลวงตามหาบัวเคยกล่าวรับรองว่าท่านพ้นทุกข์แล้ว
ว่ากันว่าท่านกระดูกหักแล้วไปเอกซ์เลย์ปรากฎว่ามองไม่เห็นรอยหักเพราะกระดูกใสเป็นแก้วแล้ว โดยเฉพาะคณะแพทย์ พยาบาล นับถือท่านมาก
หลวงพ่อประสิทธิ์ ท่านดูแลและอุปถัมถ์วัดในจ.เชียงใหม่ 30-40 วัดได้ บารมีท่านมีมากๆ ครับ
“ท่านสิทธิ์จิตเป็นวสี มีความชำนาญในการเข้าออกสมาธิ จิตท่านสิทธิ์เร็วกว่าฟ้าแลบ..”
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม บอกไว้
===================================
พระพุทธชินราช พระพุทธรูปที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทย
พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะที่สวยงาม เด่นสง่าที่สุดของประเทศไทย เป็นพระพุทธรูปศิลปะ
สุโขทัยผสมผสานกับศิลปะเชียงแสนอย่างลงตัว นับได้ว่าเป็นประติมากรรมชั้นสูงสุดแห่ง " พุทธศิลป์ "
เป็นพระพุทธรูปสำริดโบราณ ปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย หน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว สูง 7ศอก สร้างจากโลหะเนื้อสัมฤทธิ์
ลงน้ำรัก ปิดทองประดิษฐานในพระวิหาร วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก
ในการสร้างพระพุทธชินราช จากหลักฐานของหนังสือพงศาวดารของทางเหนือได้เขียนกล่าวยืนยันเอาไว้ว่าในปี
พุทธศักราช 1500 หรือ จุลศักราช 319 เมื่อพระเจ้าศรีธรรมไตรปิฏก หรือ พระธรรมราชาลิไท ได้สร้างวัดพระศรีรัตนมหา
ธาตุวรมหาวิหารเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว พระองค์ทรงพระประสงค์จะทรงสร้างพระพุทธรูปขึ้นเป็นจำนวน 3 องค์และ
พระองค์ก็ได้ช่างฝีมือดีที่เป็นพราหมณ์มา 5 คน มาเป็นแม่งาน พร้อมทั้งได้ทรงหาช่างฝีมือเอกจากเมืองศรีสัชนาลัย สวรรค
โลก เมืองเชียงแสน และเมืองหริภุญชัย มาร่วมช่วยกันหล่อพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ คือ พระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์
พระศรีศาสดา
ความศักดิ์สิทธิ์อภินิหารของพระพุทธชินราช หรือ หลวงพ่อพระพุทธชินราช หรือ หลวงพ่อใหญ่ ที่ชาวพิษณุโลก
เรียกกันจนติดปาก มีอยู่มากมายเหลือคณานับ อย่างเช่น ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทุก
ครั้งที่พระองค์จะเสด็จออกทำศึกสงคราม พระองค์จะเสด็จเข้าไปในวิหารทรงกราบไหว้อธิษฐานขอพรจากความศักดิ์สิทธิ์
ของพระพุทธชินราช ขอให้ทรงมีชัยชำนะศึกต่ออริราชศัตรูของแผ่นดิน
และก็เป็นดั่งคำอธิษฐานขอพรจากความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธชิราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระนเรศวร
มหาราชทรงมีชัยชำนะศึกทุกครั้ง เมื่อเสด็จกลับสู่เมืองพิษณุโลก พระองค์ก็ทรงนำเครื่องทรงที่มีชัยชำนะศึกถวายเป็นเครื่อง
สักการะ แด่พระพุทธชินราชเสมอมา ส่วนพุทธศาสนิกชนตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรืออยู่ไกล ก็ยังพากัน
ไปกราบไหว้บูชาพระพุทธชินราชด้วยความศรัทธา บางคนมีความทุกข์ร้อนในใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องของครอบครัว การงาน
หรือค้าขาย ต่างก็ได้บนบานศาลกล่าวอธิษฐานขอพรที่ปรารถนา แล้วก็เหมือนความอัศจรรย์ที่ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ คำบนบานศาล
กล่าวอธิษฐานขอพรต่างก็ประสบความสำเร็จไปตามๆ กันและก็มีประสบการณ์ให้เห็นอยู่ทุกวัน กับการแก้บนในวิหารพระ
พุทธชินราช
มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า ในการหล่อพระพุทธรูปทั้งสามองค์ ปรากฏว่าหล่อสำเร็จได้เพียงสององค์เท่านั้น คือ พระพุทธชินสีห์และพระศาสดา ส่วนพระพุทธชินราช ต้องทำหุ่นและแบบหล่อใหม่ถึงสามครั้ง แต่ก็ยังหล่อไม่สำเร็จ เพราะทองแล่นไม่ทั่วแบบ เมื่อแกะแบบหล่อออก องค์พระจึงไม่สมบูรณ์และมีตำหนิ
ครั้งนั้น มีปะขาวผู้หนึ่งเข้ามาช่วยปั้นหุ่น ทำการแข็งแรง แต่ไม่พูดด้วยปาก ใช้แต่ใบ้ ใครถามชื่อและตำบลบ้านก็ไม่บอก ไม่มีผู้ใดรู้จัก ทำงานทั้งกลางวันและกลางคืนไม่มีเวลาหยุด ครั้นรูปหุ่นสำเร็จงามดี เข้าดินพิมพ์แห้งแล้ว กำหนดมหามงคลฤกษ์เททอง อาราธนาชุมนุมพระภิกษุสงฆ์ชีพราหมณ์ ทำการมงคลพิธีเหมือนครั้งก่อน แล้วเททอง ทองก็แล่นเต็มบริบูรณ์ ปะขาวที่มาช่วยหล่อพระ ก็เดินหายจากที่นั้นไป เชื่อกันว่า เทวดาได้แปลงกายเป็นปะขาวเพื่อมาช่วยหล่อพระพุทธชินราช ส่วนสถานที่ที่ปะขาวผู้นั้นเดินหายจากไป ก็มีชื่อปรากฏในปัจจุบันว่า บ้านตาปะขาวหาย
(( พระบารมีของพระพุทธชินราช ))
ในแต่ละวัน มีผู้คนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมากราบนมัสการขอพรจากพระพุทธชินราช ด้วยจิตที่เคารพเลื่อมใสและเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในบารมีของพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืององค์นี้ว่า จะช่วยปัดเป่าทุกข์ภัยอันตรายต่าง ๆ ป้องกันคุณไสย์มนต์ดำ สิ่งชั่วร้าย เปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี ปกป้องคุ้มครอง และนำความสุขความเจริญ ความสำเร็จสมหวังร่ำรวย ให้บังเกิดแก่ผู้สักการะบูชา
บางท่านมีทุกข์ร้อนเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ กิจการค้าขาย ตำแหน่งหน้าที่การงาน การสอบคัดเลือก ฯลฯ ก็มากราบนมัสการขอบารมีพระพุทธชินราชท่านเป็นที่พึ่ง แม้บางท่านไม่สามารถจะเดินทางมานมัสการถึงที่วัดได้ด้วยตนเอง เพียงจุดธูปเทียนสำรวมจิตอธิษฐาน เคารพด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก็สำเร็จสมดังปรารถนาได้เช่นกัน
พระคาถาบูชาพระพุทธชินราช
อิเมหิ นานาสักกาเรหิ อะภิปูชิเตหิ
ทีฆายุโก โหมิ อะโรโค สุขิโต
สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง ปิยัง มะมะปะ
สิทธิลาโภ ชะโย โหตุ สัพพะทา
พุทธะชินะราชา อะภิปาเลตุ มัง นะโมพุทธายะ
ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า
🔹(( พระผงฉลองพุทธชยันตี ๒๖๐๐ ปี))🔹
 แห่งการตรัสรู้ พ.ศ.2555 พระพุทธชินราช 
 หลังหลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญฺญมากโร 
 วัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ 
 
♦ เนื้อผงพุทธคุณ ผงว่าน 
♦ พระเก่าสวย มวลสารดี พิธีใหญ่
 
หลวงพ่อประสิทธิ์ บุญญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ 
 
ลูกศิษย์สายกรรมฐานท่านอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ท่านเป็นหนึ่งในพระปฎิบัติดีปฎิบัติชอบอีกรูปในปัจจุบัน หลวงตามหาบัวเคยกล่าวรับรองว่าท่านพ้นทุกข์แล้ว
ว่ากันว่าท่านกระดูกหักแล้วไปเอกซ์เลย์ปรากฎว่ามองไม่เห็นรอยหักเพราะกระดูกใสเป็นแก้วแล้ว โดยเฉพาะคณะแพทย์ พยาบาล นับถือท่านมาก
หลวงพ่อประสิทธิ์ ท่านดูแลและอุปถัมถ์วัดในจ.เชียงใหม่ 30-40 วัดได้ บารมีท่านมีมากๆ ครับ
 
“ท่านสิทธิ์จิตเป็นวสี มีความชำนาญในการเข้าออกสมาธิ จิตท่านสิทธิ์เร็วกว่าฟ้าแลบ..”
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม บอกไว้
 
=================================
 
หลวงพ่อประสิทธิ์ บุญญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
 
พระอริยเจ้าพ่อแม่ครูอาจารย์สายกัมมัฏฐานหลวงปู่มั่น ทายาทธรรมแห่งองค์หลวงปู่อ่อน  ญาณสิริ
 
หลวงปู่กระดูกใสเป็นแก้วตั้งแต่สมัยยังครองขันธ์
(ข่าวเมื่อวันที่ ๘ มีนาคม ปี พ.ศ.๒๕๔๕) แพทย์และหมอ ฮือฮา….เพราะเอกซเรย์พระคุณเจ้ารูปหนึ่งปรากฎว่ากระดูกแขนเป็นแก้วสีใสหมดทั้งตัว 
 
ผอ.โรงพยาบาลได้สอบถามที่มาที่ไป ปรากฎว่า เป็นหลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญฺญมากโร แห่งวัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ท่านเป็นพระป่ากรรมฐานศิษย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต 
คุณหมอทั้งหลายใน ร.พ.มหาราชนครเชียงใหม่ (สวนดอก) ต่างยกย่องกล่าวขานถึงหลวงพ่อประสิทธิ์ว่าน่าอัศจรรย์แท้ เพราะเขาถ่าย x-ray 
ท่านออกมาปรากฎว่ากระดูกข้างในเป็นแก้วทั้งหมด หมอทั้งหลายในโรงพยาบาลสวนดอก เลยเคารพท่านมาก
หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร องค์นี้หลวงตาพระมหาบัวยกย่องในความดีและคุณธรรมของท่าน
 
อายุครบ ๒๐ ปี พ.ศ.๒๕๐๔ จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดโพธิสมภรณ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี ในวันที่ ๑ มิถุนายน 
โดยมีพระธรรมเจดีย์ (หลวงปู่จูม พันธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูอุดรคณานุศาสน์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ 
 
หลวงปู่ประสิทธิ์ ปุญฺญมากโร ได้บวชและอยู่ศึกษาอบรมธรรมะกับ หลวงปู่อ่ออน ญาณสิริ วัดนิโครธาราม ตำบลหมากหญ้า อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี 
 
ภายหลังหลวงปู่อ่อน มรณภาพลง ท่านได้ไปปฏิบัติอยู่กับหลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ บ้านโคกมน ตำบลผาน้อย อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย 
 
จากนั้นได้เดินธุดงค์ขึ้นสู่ภาคเหนือ มาอยู่ปฏิบัติธรรมร่วมกับ หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ แล้วเดินธุดงค์ แสวงหาความวิเวก 
 
จนกระทั่งมาพบสถานที่ป่าสงบเงียบ หลังที่ทำการชลประทานแม่แตง จึงได้ขออนุญาตจัดตั้งเป็นสำนักสงฆ์ และยกฐานะเป็นวัดตามลำดับ 
 
วัดป่าหมู่ใหม่ เป็นวัดป่าสายธรรมยุตที่สงบเงียบ หลวงปู่ประสิทธิ์ ได้อนุรักษ์สภาพพื้นที่ป่าเดิม พร้อมกับปลูกป่าเสริมเพิ่มต้นไม้ตลอดเวลา ทำให้วัดมีต้นไม้ใหญ่สมบูรณ์ร่มรื่น 
 
การที่วัดป่าหมู่ใหม่มีความเป็นอยู่อย่างพอเพียง แต่ละกฏิไม่มีการสะสมสิ่งของ ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าใดๆ เป็นวัดปฏิบัติธรรม จึงเป็นวัดป่าศักดิ์สิทธิ์ และมีเสน่ห์สำหรับผู้เข้าไปสัมผัส ทั้งนี้เพื่อ มรรค ผล นิพพาน อย่างแท้จริงนั่นเอง
 
องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ หลวงปู่ประสิทธิ์ ปุญฺญมากโร แห่งวัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ได้ละสังขารเข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพานเมื่อเวลา ๑๔.๒๓ น. ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๙ สิริอายุ ๗๕ ปี ๔ เดือน ๒๖ วัน พรรษา ๕๕ (พรรษานั้นเป็นพรรษาที่ ๕๖)

 
 
===================================
 
 พระพุทธชินราช พระพุทธรูปที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทย
 
พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะที่สวยงาม เด่นสง่าที่สุดของประเทศไทย เป็นพระพุทธรูปศิลปะ
สุโขทัยผสมผสานกับศิลปะเชียงแสนอย่างลงตัว นับได้ว่าเป็นประติมากรรมชั้นสูงสุดแห่ง " พุทธศิลป์ "
 
เป็นพระพุทธรูปสำริดโบราณ ปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย หน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว สูง 7ศอก สร้างจากโลหะเนื้อสัมฤทธิ์
ลงน้ำรัก ปิดทองประดิษฐานในพระวิหาร วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก
 
ในการสร้างพระพุทธชินราช จากหลักฐานของหนังสือพงศาวดารของทางเหนือได้เขียนกล่าวยืนยันเอาไว้ว่าในปี
พุทธศักราช 1500 หรือ จุลศักราช 319 เมื่อพระเจ้าศรีธรรมไตรปิฏก หรือ พระธรรมราชาลิไท ได้สร้างวัดพระศรีรัตนมหา
ธาตุวรมหาวิหารเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว พระองค์ทรงพระประสงค์จะทรงสร้างพระพุทธรูปขึ้นเป็นจำนวน 3 องค์และ
พระองค์ก็ได้ช่างฝีมือดีที่เป็นพราหมณ์มา 5 คน มาเป็นแม่งาน พร้อมทั้งได้ทรงหาช่างฝีมือเอกจากเมืองศรีสัชนาลัย สวรรค
โลก เมืองเชียงแสน และเมืองหริภุญชัย มาร่วมช่วยกันหล่อพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ คือ พระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์
พระศรีศาสดา
ความศักดิ์สิทธิ์อภินิหารของพระพุทธชินราช หรือ หลวงพ่อพระพุทธชินราช หรือ หลวงพ่อใหญ่ ที่ชาวพิษณุโลก
เรียกกันจนติดปาก มีอยู่มากมายเหลือคณานับ อย่างเช่น ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทุก
ครั้งที่พระองค์จะเสด็จออกทำศึกสงคราม พระองค์จะเสด็จเข้าไปในวิหารทรงกราบไหว้อธิษฐานขอพรจากความศักดิ์สิทธิ์
ของพระพุทธชินราช ขอให้ทรงมีชัยชำนะศึกต่ออริราชศัตรูของแผ่นดิน
 
และก็เป็นดั่งคำอธิษฐานขอพรจากความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธชิราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระนเรศวร
มหาราชทรงมีชัยชำนะศึกทุกครั้ง เมื่อเสด็จกลับสู่เมืองพิษณุโลก พระองค์ก็ทรงนำเครื่องทรงที่มีชัยชำนะศึกถวายเป็นเครื่อง
สักการะ แด่พระพุทธชินราชเสมอมา ส่วนพุทธศาสนิกชนตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรืออยู่ไกล ก็ยังพากัน
ไปกราบไหว้บูชาพระพุทธชินราชด้วยความศรัทธา บางคนมีความทุกข์ร้อนในใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องของครอบครัว การงาน
หรือค้าขาย ต่างก็ได้บนบานศาลกล่าวอธิษฐานขอพรที่ปรารถนา แล้วก็เหมือนความอัศจรรย์ที่ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ คำบนบานศาล
กล่าวอธิษฐานขอพรต่างก็ประสบความสำเร็จไปตามๆ กันและก็มีประสบการณ์ให้เห็นอยู่ทุกวัน กับการแก้บนในวิหารพระ
พุทธชินราช
 
 
 
มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า ในการหล่อพระพุทธรูปทั้งสามองค์ ปรากฏว่าหล่อสำเร็จได้เพียงสององค์เท่านั้น คือ พระพุทธชินสีห์และพระศาสดา ส่วนพระพุทธชินราช ต้องทำหุ่นและแบบหล่อใหม่ถึงสามครั้ง แต่ก็ยังหล่อไม่สำเร็จ เพราะทองแล่นไม่ทั่วแบบ เมื่อแกะแบบหล่อออก องค์พระจึงไม่สมบูรณ์และมีตำหนิ
 
ครั้งนั้น มีปะขาวผู้หนึ่งเข้ามาช่วยปั้นหุ่น ทำการแข็งแรง แต่ไม่พูดด้วยปาก ใช้แต่ใบ้ ใครถามชื่อและตำบลบ้านก็ไม่บอก ไม่มีผู้ใดรู้จัก ทำงานทั้งกลางวันและกลางคืนไม่มีเวลาหยุด ครั้นรูปหุ่นสำเร็จงามดี เข้าดินพิมพ์แห้งแล้ว กำหนดมหามงคลฤกษ์เททอง อาราธนาชุมนุมพระภิกษุสงฆ์ชีพราหมณ์ ทำการมงคลพิธีเหมือนครั้งก่อน แล้วเททอง ทองก็แล่นเต็มบริบูรณ์ ปะขาวที่มาช่วยหล่อพระ ก็เดินหายจากที่นั้นไป เชื่อกันว่า เทวดาได้แปลงกายเป็นปะขาวเพื่อมาช่วยหล่อพระพุทธชินราช ส่วนสถานที่ที่ปะขาวผู้นั้นเดินหายจากไป ก็มีชื่อปรากฏในปัจจุบันว่า บ้านตาปะขาวหาย
 
 
(( พระบารมีของพระพุทธชินราช ))
 
ในแต่ละวัน มีผู้คนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมากราบนมัสการขอพรจากพระพุทธชินราช ด้วยจิตที่เคารพเลื่อมใสและเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในบารมีของพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืององค์นี้ว่า จะช่วยปัดเป่าทุกข์ภัยอันตรายต่าง ๆ ป้องกันคุณไสย์มนต์ดำ สิ่งชั่วร้าย เปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี ปกป้องคุ้มครอง และนำความสุขความเจริญ ความสำเร็จสมหวังร่ำรวย ให้บังเกิดแก่ผู้สักการะบูชา
 
บางท่านมีทุกข์ร้อนเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ กิจการค้าขาย ตำแหน่งหน้าที่การงาน การสอบคัดเลือก ฯลฯ ก็มากราบนมัสการขอบารมีพระพุทธชินราชท่านเป็นที่พึ่ง แม้บางท่านไม่สามารถจะเดินทางมานมัสการถึงที่วัดได้ด้วยตนเอง เพียงจุดธูปเทียนสำรวมจิตอธิษฐาน เคารพด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก็สำเร็จสมดังปรารถนาได้เช่นกัน
 
 
พระคาถาบูชาพระพุทธชินราช
 
อิเมหิ นานาสักกาเรหิ อะภิปูชิเตหิ
 
ทีฆายุโก โหมิ อะโรโค สุขิโต
 
สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง ปิยัง มะมะปะ
 
สิทธิลาโภ ชะโย โหตุ สัพพะทา
 
พุทธะชินะราชา อะภิปาเลตุ มัง นะโมพุทธายะ
เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขาหน้าโรงพยาบาลมหาราช เชียงใหม่ ออมทรัพย์
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านธัญทิพย์ อมูเลท
ธัญทิพย์ อมูเลท
บริการให้เช่า พระเครื่อง และเครื่องรางของมงคล ทั่วไทย
เบอร์โทร : 0629966394
อีเมล : thanyatip4289@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม