ไฮไลท์
พระแก้วมรกต เนื้อผงเกสรดอกไม้ หลวงปู่แสน วัดบ้านหนองจิก จ.ศรีสะเกษ ปี 2561 (ฝังข้าวสารหิน ตะกรุดเงิน+ทองเหลือง)
หลวงปู่แสน อายุวัฒนมงคล 111 ปี วัดบ้านหนองจิก อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ บรรจุตะกรุดเงิน+ทอง เกษา ปี 2561
เนื้อผงเกสรดอกไม้ ว่าน 108 ผสมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ฝังข้าวสารหิน หินหยก หินย้อย จีวรของหลวงปู่แสน
จำนวนสร้าง 700 องค์
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ข้าวสารหิน เป็นของวิเศษ กายสิทธิ์ มีอานุภาพในเรื่องโชคลาภ เสน่ห์เมตตามหานิยม แคล้วคลาด
ปลอดภัยจากภัยนานาประการ ไม่มีสิ่งใดๆมาทำร้ายคุณวิเศษต่างๆได้
เรียกได้ว่าของ ทนศักดิ์ มีเทพารักษ์คอยรักษาอยู่ บางคนมีความเชื่อและนับถือด้วยว่าเป็นพระธาตุ เรียกว่า พระธาตุข้าวสารหิน
เป็นของอาถรรพ์ของขลังหายากที่เกิดจากธรรมชาติมีดีในตัวเอง
ตามตำนานเชื่อกันว่า เป็นข้าวสารที่พระพุทธองค์ฉันเสร็จแล้วทำการอธิษฐานเพื่อให้เป็นของมงคลในแผ่นดิน
พระคณาจารย์ในสมัยโบราณกล่าวไว้ว่า เกิดจากฤทธิ์อำนาจของพระแม่ธรณี บางเกจิอาจารย์กล่าวไว้ในคัมภีร์ต่างๆ ว่าเป็นข้าวอธิษฐานของฤาษี
สามารถนำมาอาราธนาแช่ทำน้ำพุทธมนต์ได้ อธิษฐานขอสิ่งใดก็สมความปรารถนาทุกประการ
บางตำนานเก่าแก่ยังกล่าวไว้อีกว่า ข้าวสารหินเป็นของวิเศษสุด มีฤทธิ์ตามธรรมชาติ ผู้วิเศษผู้มีฤทธิ์กำหนดเสกขึ้นมาทั้งสิ้น
และยังมีความเชื่อกันอีกว่า พระแม่ธรณีท่านอธิษฐานไว้ให้ข้าวสารหินเป็นของดี ไม่เน่าเปื่อย คงทนถาวร
ข้าวสารหินเป็นสิ่งที่มีพลังอำนาจจากจักรวาลซึมแทรกอยู่ เป็นที่รวมพลังของ ดิน น้ำ ลม ไฟ จึงเกิดเป็นพลังเร้นลับ
มีอำนาจบันดาลให้ผู้ที่มีไว้ครอบครองจะอยู่ดีกินดี รวมทั้งปกป้องผองภัยอันตรายต่างๆ ด้วย
==============================
หลวงปู่แสน ปสนฺโน ชื่อเดิม ปู่แสน คุ้มครอง เกิดขึ้น 15 ค่ำเดือน 10 ปีวอก ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน 2451 เป็นบุตรของพ่อเอี้ยง คุ้มครอง และ แม่ผัน คุ้มครอง มีพี่น้องต่างมารดาร่วม 6 คน หลวงปู่เป็นบุตรคนที่ 3 (ปัจจุบันเหลือหลวงปู่ผู้เดียว) พื้นเพเป็นคนบ้างโพง ตำบลไพรบึง อำเภอขุขันธ์ จังหวัดขุขันธ์ ในขณะนั้น (ปัจจุบันคือ ตำบลไพรบึง อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีษะเกษ)
เมื่อครั้นยังเด็กหลวงปู่ เป็นลูกศิษย์อยู่ที่วัดบ้านโพรง และพี่ชายซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านโพงในสมัยนั้นเลี้ยงดู จนได้บวชเณรที่วัดบ้านโพรง ระหว่างบวชเณรได้ไปศึกษาเรียนหนังสือกับหลวงพ่อมุมวัดปราสาทเยอใต้จนจบ ป.4 และได้เรียนตำราพระเวชจากหลวงพ่อมุมทั้งภาษาขอม ภาษาธรรมบาลี ระหว่างเป็นเณรก็ได้เที่ยวไปมาระหว่างบ้านปราสาทเยอใต้และบ้านโพง
จนกระทั่งอายุ 21 ปีได้เข้าอุปสมบทระหว่างเป็นพระก็ยังคงเรียนรู้วิชากับพระอาจารย์มุมอย่างต่อเนื่อง จนกระทั้งอายุ 24 ปี ได้ลาสิขาบทออกมาเพื่อมาช่วยงานทางบ้านที่มีฐานะยากจน หลังจากสึกได้บวชเป็นหมอธรรมขณะที่เป็นคาราวาส ระหว่างว่างเว้นจากการทำเกษตรกรรม หลวงปู่ได้ชักชวนเพื่อนๆหมอธรรมเดินทางไปเขมรเพื่อเรียนเพิ่มเติมที่จังหวัดพระตะบอง เสียมราฐ และเมืองศรีโสภณ สมัยจอมพล ป.พิบูลสงครามเป็นนายกฯ ได้เข้าพบพระผู้ใหญ่และอาจารย์จากทางเขมรแล้วได้ร่ำเรียนมาไม่น้อย หลวงปู่ท่านกลับเลือกเรียนวิชาที่เกี่ยวกับช่วยเหลือผู้คน รักษาคน
ต่อมาพอหมดภาระทางบ้านหลวงปู่ ได้กลับเข้าใต้ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้ง โดยไปจำพรราที่บ้านกุดเสล่า อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ก็ได้ธุดงค์ในเทือกเขาพนมดงรัก เป็นนิจ และเป็นพระที่อยู่อย่างสมาถะ ไม่มักมาก ไม่ยึดติด เป็นพระนักสร้าง ชาวบ้านกุดเสล่าจึงรักและศรัทธาท่านมาก ต่อมาหลวงตาวัน พระที่เป็นสหายรุ่นน้องจึงได้ไปกราบนิมนต์มาช่วยสร้างวัด โดยเจ้าคณะอำเภอกันทรลักษณ์อนุญาตให้หลวงปู่ไปอยู่ที่วัดเป็นวัดที่สมบูรณ์แล้ว หลวงปู่จึงมาจำพรรษาที่วัดอรุณสว่างวราราม(วัดบ้านกราม) แต่ด้วยมักสมาถะ ปีต่อมาจึงย้ายมาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์โนนไทย (วัดกูไทยสามัคคีในปัจจุบัน) อยู่จำพรรษา 3 พรรษา
ต่อมาได้จำพรรษาที่วัดบ้านหนองจิกเนื่องด้วยวัดจะร้างเพราะพระน้อย หลวงปู่จึงเข้ามาทำนุบำรุงวัดจนวัดมีพระเข้ามารับช่วงต่อ ท่านได้จำพรรษาที่วัดบ้านหนองจิกเป็นเวลา 4 พรรษา โยมญาติพี่น้องเก่าจึงได้เดินทางมานิมนต์ให้ไปจำพรรษาที่วัดบ้านโพง วัดครั้นสมัยบวชเณร เนื่องจากวัดจะร้างไม่มีพระจำพรรษา เนื่องจากหลวงปู่ท่านเป็นพระที่มีเมตตาแม้อายุจะย่างเข้า 93 ปีท่านได้ไปจำพรรษาที่วัดบ้านโพงโดยรักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดในช่วงนั้น ด้วยพระเดชของหลวงปู่วัดใดที่จะร้าง
เมื่อท่านไปจำพรรษาวัดใด วัดนั้นก็จะเต็มไปด้วยลูกวัด ในขณะที่จำพรรษาอยู่วัดบ้านโพงก็ได้ทำนุบำรุงวัดเชกเช่นวัดอื่น จนอายุ 97 ปี ลูกหลานเป็นห่วงสุขภาพหลวงปู่จึงได้พาชาวบ้านไปนิมนต์หลวงปู่จากวัดบ้านโพงกลับมาจำพรรษาที่วัดหนองจิก จนถึงทุกวันนี้ และหลวงปู่ได้มรณภาพลงอย่างสงบเมื่อเวลา 22.00 น.คืนวันที่ 25 กรกฏาคม 2562 สิริรวมอายุได้ 111 ปี
วัตถุมงคลของหลวงปู่แสน ท่านได้รับความนิยม อย่างรวดเร็ว ด้วยเนื่องจากวัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์แคล้วคลาดปลอดภัย ผู้นำไปใช้มีโชคลาภมากมาย จึงทำให้ท่านมีชื่อเสียงภายในเวลาอันรวดเร็ว และเป็นที่นิยม แสนนิยม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า
พระแก้วมรกต เนื้อผงเกสรดอกไม้ หลวงปู่แสน วัดบ้านหนองจิก จ.ศรีสะเกษ  ปี 2561 (ฝังข้าวสารหิน ตะกรุดเงิน+ทองเหลือง)
 
หลวงปู่แสน อายุวัฒนมงคล 111 ปี วัดบ้านหนองจิก อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ บรรจุตะกรุดเงิน+ทอง เกษา ปี 2561 
 
เนื้อผงเกสรดอกไม้ ว่าน 108 ผสมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ฝังข้าวสารหิน หินหยก หินย้อย  จีวรของหลวงปู่แสน
 
จำนวนสร้าง 700 องค์
 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
ข้าวสารหิน เป็นของวิเศษ กายสิทธิ์ มีอานุภาพในเรื่องโชคลาภ เสน่ห์เมตตามหานิยม แคล้วคลาด 
ปลอดภัยจากภัยนานาประการ ไม่มีสิ่งใดๆมาทำร้ายคุณวิเศษต่างๆได้ 
เรียกได้ว่าของ ทนศักดิ์ มีเทพารักษ์คอยรักษาอยู่ บางคนมีความเชื่อและนับถือด้วยว่าเป็นพระธาตุ เรียกว่า พระธาตุข้าวสารหิน  
เป็นของอาถรรพ์ของขลังหายากที่เกิดจากธรรมชาติมีดีในตัวเอง
 
ตามตำนานเชื่อกันว่า เป็นข้าวสารที่พระพุทธองค์ฉันเสร็จแล้วทำการอธิษฐานเพื่อให้เป็นของมงคลในแผ่นดิน 
พระคณาจารย์ในสมัยโบราณกล่าวไว้ว่า เกิดจากฤทธิ์อำนาจของพระแม่ธรณี บางเกจิอาจารย์กล่าวไว้ในคัมภีร์ต่างๆ ว่าเป็นข้าวอธิษฐานของฤาษี 
สามารถนำมาอาราธนาแช่ทำน้ำพุทธมนต์ได้ อธิษฐานขอสิ่งใดก็สมความปรารถนาทุกประการ
 
บางตำนานเก่าแก่ยังกล่าวไว้อีกว่า ข้าวสารหินเป็นของวิเศษสุด มีฤทธิ์ตามธรรมชาติ ผู้วิเศษผู้มีฤทธิ์กำหนดเสกขึ้นมาทั้งสิ้น 
และยังมีความเชื่อกันอีกว่า พระแม่ธรณีท่านอธิษฐานไว้ให้ข้าวสารหินเป็นของดี ไม่เน่าเปื่อย คงทนถาวร
 
ข้าวสารหินเป็นสิ่งที่มีพลังอำนาจจากจักรวาลซึมแทรกอยู่ เป็นที่รวมพลังของ ดิน น้ำ ลม ไฟ จึงเกิดเป็นพลังเร้นลับ 
มีอำนาจบันดาลให้ผู้ที่มีไว้ครอบครองจะอยู่ดีกินดี รวมทั้งปกป้องผองภัยอันตรายต่างๆ ด้วย
 
==============================
 
หลวงปู่แสน ปสนฺโน ชื่อเดิม ปู่แสน คุ้มครอง เกิดขึ้น 15 ค่ำเดือน 10 ปีวอก ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน 2451 เป็นบุตรของพ่อเอี้ยง คุ้มครอง และ แม่ผัน คุ้มครอง มีพี่น้องต่างมารดาร่วม 6 คน หลวงปู่เป็นบุตรคนที่ 3 (ปัจจุบันเหลือหลวงปู่ผู้เดียว) พื้นเพเป็นคนบ้างโพง ตำบลไพรบึง อำเภอขุขันธ์ จังหวัดขุขันธ์ ในขณะนั้น (ปัจจุบันคือ ตำบลไพรบึง อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีษะเกษ) 
 
เมื่อครั้นยังเด็กหลวงปู่ เป็นลูกศิษย์อยู่ที่วัดบ้านโพรง และพี่ชายซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านโพงในสมัยนั้นเลี้ยงดู จนได้บวชเณรที่วัดบ้านโพรง ระหว่างบวชเณรได้ไปศึกษาเรียนหนังสือกับหลวงพ่อมุมวัดปราสาทเยอใต้จนจบ ป.4 และได้เรียนตำราพระเวชจากหลวงพ่อมุมทั้งภาษาขอม ภาษาธรรมบาลี ระหว่างเป็นเณรก็ได้เที่ยวไปมาระหว่างบ้านปราสาทเยอใต้และบ้านโพง 
 
จนกระทั่งอายุ 21 ปีได้เข้าอุปสมบทระหว่างเป็นพระก็ยังคงเรียนรู้วิชากับพระอาจารย์มุมอย่างต่อเนื่อง จนกระทั้งอายุ 24 ปี ได้ลาสิขาบทออกมาเพื่อมาช่วยงานทางบ้านที่มีฐานะยากจน หลังจากสึกได้บวชเป็นหมอธรรมขณะที่เป็นคาราวาส ระหว่างว่างเว้นจากการทำเกษตรกรรม หลวงปู่ได้ชักชวนเพื่อนๆหมอธรรมเดินทางไปเขมรเพื่อเรียนเพิ่มเติมที่จังหวัดพระตะบอง เสียมราฐ และเมืองศรีโสภณ สมัยจอมพล ป.พิบูลสงครามเป็นนายกฯ ได้เข้าพบพระผู้ใหญ่และอาจารย์จากทางเขมรแล้วได้ร่ำเรียนมาไม่น้อย หลวงปู่ท่านกลับเลือกเรียนวิชาที่เกี่ยวกับช่วยเหลือผู้คน รักษาคน
 
ต่อมาพอหมดภาระทางบ้านหลวงปู่ ได้กลับเข้าใต้ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้ง โดยไปจำพรราที่บ้านกุดเสล่า อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ก็ได้ธุดงค์ในเทือกเขาพนมดงรัก เป็นนิจ และเป็นพระที่อยู่อย่างสมาถะ ไม่มักมาก ไม่ยึดติด เป็นพระนักสร้าง ชาวบ้านกุดเสล่าจึงรักและศรัทธาท่านมาก ต่อมาหลวงตาวัน พระที่เป็นสหายรุ่นน้องจึงได้ไปกราบนิมนต์มาช่วยสร้างวัด โดยเจ้าคณะอำเภอกันทรลักษณ์อนุญาตให้หลวงปู่ไปอยู่ที่วัดเป็นวัดที่สมบูรณ์แล้ว หลวงปู่จึงมาจำพรรษาที่วัดอรุณสว่างวราราม(วัดบ้านกราม) แต่ด้วยมักสมาถะ ปีต่อมาจึงย้ายมาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์โนนไทย (วัดกูไทยสามัคคีในปัจจุบัน) อยู่จำพรรษา 3 พรรษา 
 
ต่อมาได้จำพรรษาที่วัดบ้านหนองจิกเนื่องด้วยวัดจะร้างเพราะพระน้อย หลวงปู่จึงเข้ามาทำนุบำรุงวัดจนวัดมีพระเข้ามารับช่วงต่อ ท่านได้จำพรรษาที่วัดบ้านหนองจิกเป็นเวลา 4 พรรษา โยมญาติพี่น้องเก่าจึงได้เดินทางมานิมนต์ให้ไปจำพรรษาที่วัดบ้านโพง วัดครั้นสมัยบวชเณร เนื่องจากวัดจะร้างไม่มีพระจำพรรษา เนื่องจากหลวงปู่ท่านเป็นพระที่มีเมตตาแม้อายุจะย่างเข้า 93 ปีท่านได้ไปจำพรรษาที่วัดบ้านโพงโดยรักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดในช่วงนั้น ด้วยพระเดชของหลวงปู่วัดใดที่จะร้าง 
 
เมื่อท่านไปจำพรรษาวัดใด วัดนั้นก็จะเต็มไปด้วยลูกวัด ในขณะที่จำพรรษาอยู่วัดบ้านโพงก็ได้ทำนุบำรุงวัดเชกเช่นวัดอื่น จนอายุ 97 ปี ลูกหลานเป็นห่วงสุขภาพหลวงปู่จึงได้พาชาวบ้านไปนิมนต์หลวงปู่จากวัดบ้านโพงกลับมาจำพรรษาที่วัดหนองจิก จนถึงทุกวันนี้ และหลวงปู่ได้มรณภาพลงอย่างสงบเมื่อเวลา 22.00 น.คืนวันที่ 25 กรกฏาคม 2562 สิริรวมอายุได้ 111 ปี
 
วัตถุมงคลของหลวงปู่แสน ท่านได้รับความนิยม อย่างรวดเร็ว ด้วยเนื่องจากวัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์แคล้วคลาดปลอดภัย ผู้นำไปใช้มีโชคลาภมากมาย จึงทำให้ท่านมีชื่อเสียงภายในเวลาอันรวดเร็ว และเป็นที่นิยม แสนนิยม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขาหน้าโรงพยาบาลมหาราช เชียงใหม่ ออมทรัพย์
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านธัญทิพย์ อมูเลท
ธัญทิพย์ อมูเลท
บริการให้เช่า พระเครื่อง และเครื่องรางของมงคล ทั่วไทย
เบอร์โทร : 0629966394
อีเมล : thanyatip4289@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม