ไฮไลท์
รูปหล่อครูบาศรีวิชัย บรรจุกริ่ง
(( รุ่น บารมีศรีวิชัย )) ปี2551
วัดพระธาตุดอยสุเทพ เชียงใหม่
♦ เลขมงคล 55
♦ เนื้อเงิน (พร้อมเจิม)
♦ ก้นอุดเงิน ตีสองโค๊ตเจดีย์ที่ใต้ฐาน
♦ ด้านหลังยิงเลเซอร์ รูปพระธาตุดอยสุเทพ และข้อความ
ครูบาศรีวิชัย รุ่นบารมีศรีวิชัย๑ ปี2551
♦ ของใหม่ ไม่ผ่านการใช้
♦ พร้อมกล่องเดิม รับประกันแท้
........................................................................
.......................................................................
คาถาบูชา ครูบาเจ้าศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนา
อะยัง วุจจะติ สิริวิชะโย นามะ มหาเถโร อุตตะมะสีโล นะระเทเวหิ ปูชิโต โส ระโห ปัจจะยาทีนัง มะหะลาภา ภะวันตุ เม อะหัง วันทามิ สัพพะทา อะหัง วันทามิ สิระสา อะหัง วันทามิ สัพพะโส สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิฯ
.......................................................
ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย
จากข้อมูลในหนังสือ สารประวัติครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ของ สิงฆะ วรรณสัย ได้ระบุข้อมูลชีวิตชั้นต้นของ ครูบาเจ้าศรีวิชัย ไว้ว่า ท่านเกิดในปีขาล เดือน 9 เหนือ หรือเดือน 7 ของภาคกลาง ตรงกับวันขึ้น 11 ค่ำ จ.ศ. 1240 เวลาพลบค่ำ ซึ่งตรงกับวันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2421 ที่บ้านปาง ตำบลแม่ตืน ในปัจจุบันคือ ตำบลศรีวิชัย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน
ท่านเป็นบุตรของนายควาย และนางอุสา มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน บ้านเกิดของพวกเขาคือ บ้านสันป่ายางหลวง ทางด้านเหนือของตัวเมืองลำพูน ในวันที่นางอุสาเจ็บท้องจะคลอดลูก พระอาทิตย์ได้คล้อยต่ำลงไปเกือบจะ 6 โมงเย็น นายควายและญาติพี่น้องพร้อมด้วยหมอตำแย ได้ดูแลการคลอดของนางอุสาอย่างเต็มที่ และในขณะนั้นท้องฟ้าอากาศที่สว่างไสวกลับมืดครึ้ม เกิดพายุแรงพัดกระหน่ำสายฝนตกลงมาอย่างหนักและมีเสียงฟ้าร้อง
จนกระทั่งในที่สุด นางอุสาก็ได้คลอดทารกน้อยออกมาพร้อมกับเสียงร้องไห้และเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งเมื่อเสียงฝนและพายุก็หยุดสงบลง ทำให้ครอบครัวของนายควายได้ตั้งชื่อเด็กน้อยที่เกิดขึ้นมาว่า ‘เด็กชายอินท์เฟือน’ ตามภาษาล้านนาแปลว่ากระเทือนหรือกัมปนาท
เมื่อครั้งยังเป็นหนุ่มน้อยอายุ 17 ปี นายเฟือนได้เข้าสู่เส้นทางธรรม บวชเป็นเณรที่วัดบ้านปาง ร่ำเรียนวิชาต่าง ๆ กับครูบาขัตติยะ เมื่อสามเณรอินตาเฟือนมีอายุย่าง 21 ปี ก็ได้อุปสมบทเป็นพระที่วัดบ้านโฮ่งหลวง จังหวัดลำพูน ได้รับฉายานามว่า “สิริวิชโยภิกขุ” หรือ “พระศรีวิชัย”
พระศรีวิชัย เป็นที่ร่ำลือกันว่า ท่านเป็นผู้มีศรีลาจารวัตรที่งดงามและเคร่งครัด อาทิ ท่านงดการเสพหมาก เมี่ยง บุหรี่ นอกจากนี้ยังงดฉันเนื้อสัตว์ ตั้งแต่เมื่ออายุ 26 ปี และฉันอาหารเพียงมื้อเดียว ซึ่งมักจะเป็นผักต้มใส่กับเกลือและพริกไทย
ด้วยจริยวัตรอันเคร่งครัดของท่าน ทำให้เกิดแรงศรัทธาแก่เหล่าพุทธศาสนิกชน กระทั่งรวบรวมเหล่าพุทธศาสนิกชนทำการสร้างทางเดินขึ้นดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ ได้เป็นผลสำเร็จ โดยเริ่มสร้างเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2477 และสร้างเสร็จเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2478
นอกจากที่ท่านจะสร้างทางขึ้นดอยสุเทพแล้ว ท่านยังได้จัดการสังคายนาพระไตรปิฎกฉบับลานนาไทย รวมทั้งการสร้าง และบูรณวัดต่าง ๆ หลายวัด ท่านเป็นผู้ทรงศีล จนได้รับขนานนามว่า “พระครูบาศีลธรรมเจ้า”
พระศรีวิชัย ให้ความสนใจในวิชาอาคม และยึดถือเป็นของวิเศษ นำพาความเจริญสู่ชีวิตมาให้ และว่ากันว่า ด้วยความเลื่อมใสในวิชาอาคม พระศรีวิชัยมีความคิดที่จะลาสิกขา รวมทั้งท่านยังได้สักขาหมึกดำทั้ง 2 ข้างตามความนิยมของชายล้านนาสมัยนั้น
ในเวลานั้นครูบาขัตติยะมรณภาพลง พระศรีวิชัยจึงได้ทำบุญฌาปนกิจพระอาจารย์ หลังจากนั้นด้วยท่านเป็นพระที่มีพรรษามากที่สุดในขณะนั้น ท่านจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัด จากนั้นจึงทำการย้ายวัดจากที่ตั้งเดิมขึ้นไปอยู่บนเขา และให้ชื่อว่า “วัดศรีดอนชัยทรายมูลบุญเรือง”
ชื่อเสียงของครูบาเจ้าศรีวิชัยทำให้พระสังฆาธิการในจังหวัดลำพูนบางรูปนำโดยเจ้าคณะจังหวัดลำพูนตั้งอธิกรณ์กล่าวหาว่าท่าน 8 ข้อ อาทิ ทำตัวเป็น “ผีบุญ” อวดอิทธิฤทธิ์ ซ่องสุมกำลังผู้คน คิดขบถต่อบ้านเมือง และนำท่านไปจำไว้ที่ลำพูนและวัดศรีดอนไชย เชียงใหม่ จากนั้นจึงได้ส่งตัวท่านไปไต่สวนที่กรุงเทพฯ
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส จึงทรงตั้งคณะกรรมการพิจารณาเรื่องพระศรีวิชัย ประกอบด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นชินวรสิริวัฒน์ พระญาณวราภรณ์ (ม.ร.ว.ชื่น สุจิตฺโต) และพระธรรมไตรโลกาจารย์ (เจริญ ญาณวโร) ได้ถวายรายงานมีความเห็นว่า ข้อ 1-5 ซึ่งเกี่ยวกับการไม่ให้ความร่วมมือกับฝ่ายปกครอง พระศรีวิชัยรับสารภาพและได้รับโทษแล้ว ข้อที่เหลือซึ่งเกี่ยวกับการอ้างคุณวิเศษ พระศรีวิชัยไม่มีความผิด เพราะประชาชนเล่าลือไปเอง และเจ้าคณะลงโทษเกินไป ควรปล่อยพระศรีวิชัยกลับภูมิลำเนา สมเด็จกรมพระยาวชิรญาณโรรสทรงเห็นชอบ
ครูบาศรีวิชัย มรณภาพเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2481 ที่วัดบ้านปาง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน สิริอายุได้ 60 ปี ตั้งศพไว้ที่วัดบ้านปาง เป็นเวลา 1 ปี จึงได้เคลื่อนศพมาตั้งไว้ ณ วัดจามเทวี อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน จนกระทั่งวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2489 จึงได้รับพระราชทานเพลิงศพ โดยมีประชาชนมาร่วมในพิธีพระราชทานเพลิงศพจำนวนมาก และประชาชนเหล่านั้นได้เข้าแย่งชิงอัฏฐิธาตุของครูบาศรีวิชัย ตั้งแต่ไฟยังไม่มอดสนิท แม้แต่แผ่นดินตรงที่ถวายพระเพลิง ก็ยังมีผู้ขุดเอาไปสักการบูชา อัฏฐิธาตุของท่านที่เจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมได้ได้ถูกแบ่งออกเป็น 7 ส่วน แบ่งไปบรรจุตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วแผ่นดินล้านนา ดังนี้
ส่วนที่ 1 บรรจุที่ วัดจามเทวี จังหวัดลำพูน
ส่วนที่ 2 บรรจุที่ วัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่
ส่วนที่ 3 บรรจุที่ วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม จังหวัดลำปาง
ส่วนที่ 4 บรรจุที่ วัดศรีโคมคำ จังหวัดพะเยา
ส่วนที่ 5 บรรจุที่ วัดพระธาตุช่อแฮ จังหวัดแพร่
ส่วนที่ 6 บรรจุที่ วัดน้ำฮู จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ส่วนที่ 7 บรรจุที่ วัดบ้านปาง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2566 ณ วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวภายหลังการร่วมคณะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ร่วมรับฟังข้อเสนอการสนับสนุนแผนแม่บทโครงการเสนอชื่อครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นบุคคลสำคัญของโลก
รวมถึงติดตามการดำเนินงานในจังหวัดเชียงใหม่ ว่ากระทรวงศึกษาธิการ มีบทบาทหลักในการสนับสนุนการดำเนินงานขับเคลื่อนการเสนอชื่อ ครูบาเจ้าวิชัย ให้ได้รับการยกย่องเป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านการศึกษา ศาสนา วัฒนธรรม และสันติภาพในวาระครบรอบ 150 ปี ชาตกาล ครูบาเจ้าศรีวิชัย ในพ.ศ.2571 ต่อองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก
=================================
พระธาตุดอยสุเทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง จ.เชียงใหม่ “พระธาตุประจำปีเกิด ปีมะแม”
พระธาตุดอยสุเทพนี้เป็นปูชนียสถานคู่เมืองเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางมาที่จังหวัดนี้จะต้องขึ้นไปนมัสการพระบรมธาตุกันทุกคน ถ้าหากใครไม่ได้ขึ้นไปนมัสการแล้ว ถือเสมือนว่ายังมาไม่ถึงเชียงใหม่ มีงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุในวันเพ็ญวิสาขบูชาทุกปี
พระธาตุประจำปีเกิดปีมะแม เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่มีความสำคัญทางศาสนาและประวัติศาสตร์ของนครเชียงใหม่ ตั้งอยู่บนดอยสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1927 มีบันไดนาคทอดยาวขึ้นไปสู่วัด 306 ขั้นภายใน วัดเป็นที่ประดิษฐานขององค์เจดีย์ ทรงมอญ ที่ใต้ฐานพระเจดีย์มีพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธ เจ้าบรรจุอยู่ วัดพระธาตุดอยสุเทพมีชื่อ เต็มว่า “วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพวรวิหาร” ซึ่งจัดได้ว่าเป็นปูชนียสถานที่ แสดงออกถึงศิลปกรรมล้านนาไทยที่สำคัญ คู่เมืองเชียงใหม่
“ปีมะแม” ส่วนทางล้านนา ล้านช้าง เรียก “ปีเม็ด” เป็นปีแบบหนไทย สำหรับความเชื่อของคนล้านนา มีความเชื่อเรื่อง ชุธาตุ โดยดวงวิญญาณของคนที่จะมาเกิดใหม่จะมารวมที่พระธาตุแห่งใดแห่งหนึ่งตามที่ ตั๋วเปิ้ง (สัตว์ประจำนักษัตร) พาไปพักเพื่อรอไปปฏิสนธิ
ความเชื่อเหล่านี้ทำให้คนล้านนามีความผูกพันกับพระธาตุ และหาโอกาสไปไหว้พระธาตุสักครั้งหนึ่งในชีวิตเพื่อเป็นสิริมงคล สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นกุศโลบายอันแยบยลที่ทำให้ชาวบ้านได้มีเหตุต้องเข้าวัด เพื่อส่งเสริมอนุรักษ์และนำเข้าสู่การเรียนรู้เพื่อปฏิบัติธรรม
ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า
รูปหล่อครูบาศรีวิชัย บรรจุกริ่ง
(( รุ่น บารมีศรีวิชัย )) ปี2551
วัดพระธาตุดอยสุเทพ เชียงใหม่
 
♦ เลขมงคล 55
♦ เนื้อเงิน (พร้อมเจิม)
♦ ก้นอุดเงิน ตีสองโค๊ตเจดีย์ที่ใต้ฐาน 
♦ ด้านหลังยิงเลเซอร์ รูปพระธาตุดอยสุเทพ และข้อความ
ครูบาศรีวิชัย รุ่นบารมีศรีวิชัย๑  ปี2551 
♦ ของใหม่ ไม่ผ่านการใช้ 
♦ พร้อมกล่องเดิม รับประกันแท้ 
 
........................................................................
.......................................................................
 
คาถาบูชา ครูบาเจ้าศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนา
 
อะยัง วุจจะติ สิริวิชะโย นามะ มหาเถโร อุตตะมะสีโล นะระเทเวหิ ปูชิโต โส ระโห ปัจจะยาทีนัง มะหะลาภา ภะวันตุ เม อะหัง วันทามิ สัพพะทา อะหัง วันทามิ สิระสา อะหัง วันทามิ สัพพะโส สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิฯ
 
.......................................................
 
ครูบาศรีวิชัย  นักบุญแห่งล้านนาไทย
 
จากข้อมูลในหนังสือ สารประวัติครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ของ สิงฆะ วรรณสัย ได้ระบุข้อมูลชีวิตชั้นต้นของ ครูบาเจ้าศรีวิชัย ไว้ว่า ท่านเกิดในปีขาล เดือน 9 เหนือ หรือเดือน 7 ของภาคกลาง ตรงกับวันขึ้น 11 ค่ำ จ.ศ. 1240 เวลาพลบค่ำ ซึ่งตรงกับวันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2421 ที่บ้านปาง ตำบลแม่ตืน ในปัจจุบันคือ ตำบลศรีวิชัย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน
 
ท่านเป็นบุตรของนายควาย และนางอุสา มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน บ้านเกิดของพวกเขาคือ บ้านสันป่ายางหลวง ทางด้านเหนือของตัวเมืองลำพูน ในวันที่นางอุสาเจ็บท้องจะคลอดลูก พระอาทิตย์ได้คล้อยต่ำลงไปเกือบจะ 6 โมงเย็น นายควายและญาติพี่น้องพร้อมด้วยหมอตำแย ได้ดูแลการคลอดของนางอุสาอย่างเต็มที่ และในขณะนั้นท้องฟ้าอากาศที่สว่างไสวกลับมืดครึ้ม เกิดพายุแรงพัดกระหน่ำสายฝนตกลงมาอย่างหนักและมีเสียงฟ้าร้อง
 
จนกระทั่งในที่สุด นางอุสาก็ได้คลอดทารกน้อยออกมาพร้อมกับเสียงร้องไห้และเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งเมื่อเสียงฝนและพายุก็หยุดสงบลง ทำให้ครอบครัวของนายควายได้ตั้งชื่อเด็กน้อยที่เกิดขึ้นมาว่า ‘เด็กชายอินท์เฟือน’ ตามภาษาล้านนาแปลว่ากระเทือนหรือกัมปนาท
 
เมื่อครั้งยังเป็นหนุ่มน้อยอายุ 17 ปี นายเฟือนได้เข้าสู่เส้นทางธรรม บวชเป็นเณรที่วัดบ้านปาง ร่ำเรียนวิชาต่าง ๆ กับครูบาขัตติยะ เมื่อสามเณรอินตาเฟือนมีอายุย่าง 21 ปี ก็ได้อุปสมบทเป็นพระที่วัดบ้านโฮ่งหลวง จังหวัดลำพูน ได้รับฉายานามว่า “สิริวิชโยภิกขุ” หรือ “พระศรีวิชัย”
 
พระศรีวิชัย เป็นที่ร่ำลือกันว่า ท่านเป็นผู้มีศรีลาจารวัตรที่งดงามและเคร่งครัด อาทิ ท่านงดการเสพหมาก เมี่ยง บุหรี่ นอกจากนี้ยังงดฉันเนื้อสัตว์ ตั้งแต่เมื่ออายุ 26 ปี และฉันอาหารเพียงมื้อเดียว ซึ่งมักจะเป็นผักต้มใส่กับเกลือและพริกไทย
 
ด้วยจริยวัตรอันเคร่งครัดของท่าน ทำให้เกิดแรงศรัทธาแก่เหล่าพุทธศาสนิกชน กระทั่งรวบรวมเหล่าพุทธศาสนิกชนทำการสร้างทางเดินขึ้นดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ ได้เป็นผลสำเร็จ โดยเริ่มสร้างเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2477 และสร้างเสร็จเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2478
 
นอกจากที่ท่านจะสร้างทางขึ้นดอยสุเทพแล้ว ท่านยังได้จัดการสังคายนาพระไตรปิฎกฉบับลานนาไทย รวมทั้งการสร้าง และบูรณวัดต่าง ๆ หลายวัด ท่านเป็นผู้ทรงศีล จนได้รับขนานนามว่า “พระครูบาศีลธรรมเจ้า”
 
พระศรีวิชัย ให้ความสนใจในวิชาอาคม และยึดถือเป็นของวิเศษ นำพาความเจริญสู่ชีวิตมาให้ และว่ากันว่า ด้วยความเลื่อมใสในวิชาอาคม พระศรีวิชัยมีความคิดที่จะลาสิกขา รวมทั้งท่านยังได้สักขาหมึกดำทั้ง 2 ข้างตามความนิยมของชายล้านนาสมัยนั้น
 
ในเวลานั้นครูบาขัตติยะมรณภาพลง พระศรีวิชัยจึงได้ทำบุญฌาปนกิจพระอาจารย์ หลังจากนั้นด้วยท่านเป็นพระที่มีพรรษามากที่สุดในขณะนั้น ท่านจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัด จากนั้นจึงทำการย้ายวัดจากที่ตั้งเดิมขึ้นไปอยู่บนเขา และให้ชื่อว่า “วัดศรีดอนชัยทรายมูลบุญเรือง”
 
ชื่อเสียงของครูบาเจ้าศรีวิชัยทำให้พระสังฆาธิการในจังหวัดลำพูนบางรูปนำโดยเจ้าคณะจังหวัดลำพูนตั้งอธิกรณ์กล่าวหาว่าท่าน 8 ข้อ อาทิ ทำตัวเป็น “ผีบุญ” อวดอิทธิฤทธิ์ ซ่องสุมกำลังผู้คน คิดขบถต่อบ้านเมือง และนำท่านไปจำไว้ที่ลำพูนและวัดศรีดอนไชย เชียงใหม่ จากนั้นจึงได้ส่งตัวท่านไปไต่สวนที่กรุงเทพฯ
 
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส จึงทรงตั้งคณะกรรมการพิจารณาเรื่องพระศรีวิชัย ประกอบด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นชินวรสิริวัฒน์ พระญาณวราภรณ์ (ม.ร.ว.ชื่น สุจิตฺโต) และพระธรรมไตรโลกาจารย์ (เจริญ ญาณวโร) ได้ถวายรายงานมีความเห็นว่า ข้อ 1-5 ซึ่งเกี่ยวกับการไม่ให้ความร่วมมือกับฝ่ายปกครอง พระศรีวิชัยรับสารภาพและได้รับโทษแล้ว ข้อที่เหลือซึ่งเกี่ยวกับการอ้างคุณวิเศษ พระศรีวิชัยไม่มีความผิด เพราะประชาชนเล่าลือไปเอง และเจ้าคณะลงโทษเกินไป ควรปล่อยพระศรีวิชัยกลับภูมิลำเนา สมเด็จกรมพระยาวชิรญาณโรรสทรงเห็นชอบ
 
ครูบาศรีวิชัย มรณภาพเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2481 ที่วัดบ้านปาง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน สิริอายุได้ 60 ปี ตั้งศพไว้ที่วัดบ้านปาง เป็นเวลา 1 ปี จึงได้เคลื่อนศพมาตั้งไว้ ณ วัดจามเทวี อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน จนกระทั่งวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2489 จึงได้รับพระราชทานเพลิงศพ โดยมีประชาชนมาร่วมในพิธีพระราชทานเพลิงศพจำนวนมาก และประชาชนเหล่านั้นได้เข้าแย่งชิงอัฏฐิธาตุของครูบาศรีวิชัย ตั้งแต่ไฟยังไม่มอดสนิท แม้แต่แผ่นดินตรงที่ถวายพระเพลิง ก็ยังมีผู้ขุดเอาไปสักการบูชา อัฏฐิธาตุของท่านที่เจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมได้ได้ถูกแบ่งออกเป็น 7 ส่วน แบ่งไปบรรจุตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วแผ่นดินล้านนา ดังนี้
 
ส่วนที่ 1 บรรจุที่ วัดจามเทวี จังหวัดลำพูน
ส่วนที่ 2 บรรจุที่ วัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่
ส่วนที่ 3 บรรจุที่ วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม จังหวัดลำปาง
ส่วนที่ 4 บรรจุที่ วัดศรีโคมคำ จังหวัดพะเยา
ส่วนที่ 5 บรรจุที่ วัดพระธาตุช่อแฮ จังหวัดแพร่
ส่วนที่ 6 บรรจุที่ วัดน้ำฮู จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ส่วนที่ 7 บรรจุที่ วัดบ้านปาง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน
 
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2566 ณ วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวภายหลังการร่วมคณะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ร่วมรับฟังข้อเสนอการสนับสนุนแผนแม่บทโครงการเสนอชื่อครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นบุคคลสำคัญของโลก
 
รวมถึงติดตามการดำเนินงานในจังหวัดเชียงใหม่ ว่ากระทรวงศึกษาธิการ มีบทบาทหลักในการสนับสนุนการดำเนินงานขับเคลื่อนการเสนอชื่อ ครูบาเจ้าวิชัย ให้ได้รับการยกย่องเป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านการศึกษา ศาสนา วัฒนธรรม และสันติภาพในวาระครบรอบ 150 ปี ชาตกาล ครูบาเจ้าศรีวิชัย ในพ.ศ.2571 ต่อองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก

=================================
 
================================
 
ทำไมต้องไหว้พระธาตุประจำปีเกิด
 
การไหว้พระธาตุเป็นความเชื่อที่สืบทอดมาจากชาวล้านนา เชื่อว่าการไหว้พระธาตุ เป็นบุญอันยิ่งใหญ่ 
ช่วยเสริมบารมีให้แก่ผู้ที่ไปไหว้ ช่วยเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต 
 
มีความเชื่อว่าดวงวิญญาณก่อนจะเกิดและปฏิสนธิในครรภ์มารดา จะมีสัตว์ประจำนักษัตรนำดวงวิญญาณมาพักไว้ที่พระธาตุเจดีย์
ก่อนจะแยกย้ายไปสู่ครรภ์มารดาหลังปฏิสนธิ นอกจากการเกิดแล้ว ตอนตายก็เชื่อว่าดวงวิญญาณก็จะกลับไปสถิตอยู่ที่พระธาตุเจดีย์ตามเดิม 
 
ความเชื่อเหล่านี้ทำให้คนล้านนามีความผูกพันกับพระธาตุ และหาโอกาสไปไหว้พระธาตุสักครั้งหนึ่งในชีวิตเพื่อเป็นสิริมงคล 
สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นกุศโลบายอันแยบยลที่ทำให้ชาวบ้านได้มีเหตุต้องเข้าวัด เพื่อส่งเสริมอนุรักษ์และนำเข้าสู่การเรียนรู้เพื่อปฏิบัติธรรม
 
==================================
 
พระธาตุดอยสุเทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง จ.เชียงใหม่ “พระธาตุประจำปีเกิด ปีมะแม”
 
 
พระธาตุดอยสุเทพนี้เป็นปูชนียสถานคู่เมืองเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางมาที่จังหวัดนี้จะต้องขึ้นไปนมัสการพระบรมธาตุกันทุกคน ถ้าหากใครไม่ได้ขึ้นไปนมัสการแล้ว ถือเสมือนว่ายังมาไม่ถึงเชียงใหม่ มีงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุในวันเพ็ญวิสาขบูชาทุกปี 
 
 
พระธาตุประจำปีเกิดปีมะแม เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่มีความสำคัญทางศาสนาและประวัติศาสตร์ของนครเชียงใหม่ ตั้งอยู่บนดอยสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1927 มีบันไดนาคทอดยาวขึ้นไปสู่วัด 306 ขั้นภายใน วัดเป็นที่ประดิษฐานขององค์เจดีย์ ทรงมอญ ที่ใต้ฐานพระเจดีย์มีพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธ เจ้าบรรจุอยู่ วัดพระธาตุดอยสุเทพมีชื่อ เต็มว่า “วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพวรวิหาร” ซึ่งจัดได้ว่าเป็นปูชนียสถานที่ แสดงออกถึงศิลปกรรมล้านนาไทยที่สำคัญ คู่เมืองเชียงใหม่ 
 
 
“ปีมะแม” ส่วนทางล้านนา ล้านช้าง เรียก “ปีเม็ด” เป็นปีแบบหนไทย สำหรับความเชื่อของคนล้านนา มีความเชื่อเรื่อง ชุธาตุ โดยดวงวิญญาณของคนที่จะมาเกิดใหม่จะมารวมที่พระธาตุแห่งใดแห่งหนึ่งตามที่ ตั๋วเปิ้ง (สัตว์ประจำนักษัตร) พาไปพักเพื่อรอไปปฏิสนธิ
 
==================================
 
คาถาบูชาพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่
 
ตั้งนะโม 3 จบ
สุวรรณณะ เจติยัง, เกลาวะระ, มัตถะลุงคัง, วะรัญญะธาตุง, สุเทวะนามะกัง
นะระเทเวหิ สัพพะปูชิตัง, อะหัง วันทามิสัพพะทา, ปัญญะวา, อัสมิงเยอะ, วันทามิ, 
อิวะ ธาระยัง, ปิฏะกัตตะเย, สาสะนะ, นิยานิเกติ, โมกขะ, ปะธะมะวะรังม อาปายะ, 
นิวาระณัง, อะระหัง, สัคเคโสปาณัง, ปะฐะมัง, คาหาเปตวา, ปัตตะจีวะรัง, ยัง ยัง ชาตัง, สังฆะมัชเฌ
 
- อานิสงส์ที่ได้รับ : จะมีแต่ความสำเร็จสมหวังดังปรารถนา แคล้วคลาด ผ่านอุปสรรคนานาไปได้
 
เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขาหน้าโรงพยาบาลมหาราช เชียงใหม่ ออมทรัพย์
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านธัญทิพย์ อมูเลท
ธัญทิพย์ อมูเลท
บริการให้เช่า พระเครื่อง และเครื่องรางของมงคล ทั่วไทย
เบอร์โทร : 0629966394
อีเมล : thanyatip4289@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม