จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | ไม่จำกัด ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | พระกริ่ง พระชัยวัฒน์ พระสมเด็จ พระพุทธ |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ไฮไลท์ |
🔹เหรียญพระเจ้าฝนแสนห่า🔹
วัดพระธาตุดอยจอมแจ้ง จ.เชียงใหม่ ปี2518
“พระเจ้าฝนแสนห่า”
พระพุทธรูปทองคำอายุกว่า 500 ปี
พระเจ้าฝนแสนห่า” พระพุทธรูปแห่งความอุดมสมบูรณ์ ฝนฟ้าน้ำท่าตกต้องตามฤดูกาล
หนึ่งในพระพุทธรูปสำคัญของเมืองเชียงใหม่ที่เรามักรู้จักกันเป็นอย่างดี และพบเห็นพิธีอัญเชิญแห่รอบเมืองในวันสำคัญของเชียงใหม่ ถ้าเราไม่นับได้พระพุทธสิหิงค์และพระแก้วเสตังคมณีแล้ว ในจำนวนนี้มีชื่อของ “พระเจ้าฝนแสนห่า”
ประวัติ วัดพระธาตุดอยจอมแจ้ง ขาดการดูแลมาหลายยุคหลายสมัยและได้ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ล่วงมาสมัย “ครูบาเจ้าศรีวิชัย” นักบุญแห่งลานนา ที่ได้มาบูรณะและสร้าง วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ประมาณปี พ.ศ. 2470 ครูบาเจ้าศรีวิชัย นิมิตว่ามีเทวดามาบอกว่า มีวัดสำคัญทางทิศเหนือกำลังรอครูบาไปบูรณะ และครูบาเจ้าศรีวิชัยได้เห็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จตกบนดอยแห่งนี้ เมื่อถามชาวบ้านดูว่ามีใครทราบว่ามีวัดพระธาตุดอยจอมแจ้งหรือไม่ ชาวบ้านที่ไปช่วยกันก่อสร้างและทำบุญบอกว่ามี จึงพร้อมด้วยหลวงอนุสารสุนทร พร้อมด้วยชาวพุทธ พระภิกษุ สามเณร มีพระศรีวิชัยวัดแม่ขะจาน คอยอำนวยความสะดวกและเตรียมสถานที่พักครูบาศรีวิชัย ได้บูรณะพระเจดีย์ใหม่สูง 9 วา เปลี่ยนจากเจดีย์แบบพม่ามาเป็นแบบครูบาศรีวิชัย เนื่องด้วยองค์เดิมชำรุดมาก อิฐไม่สามารถใช้ได้ ฐานก็ไม่แข็งแรง เมื่อขุดตกแต่งจึงได้พบพระบรมสารีริกธาตุ บรรจุไว้ในผอบทองคำและผอบเงินอย่างละ 3 ชั้น มีพระธาตุไหปลาร้าด้านขวา พระธาตุพระอุระ (กระดูกอก) และมีพระพุทธรูปทองคำอายุกว่า 500 ปี ชื่อ “พระเจ้าฝนแสนห่า” สำเภาเงิน สำเภาทอง เพชรนิลจินดา และของมีค่าต่างๆเป็นจำนวนมาก ครูบาศรีวิชัยให้ช่างบรรจุเอาไว้ในไห และเก็บไว้ในองค์พระธาตุตามเดิม ใช้เวลาบูรณะพระธาตุเจดีย์ทั้งสิ้น 30 วัน และได้บูรณะใหม่อีกครั้งโดยหุ้มโมเสทจากอิตาลี และยกฉัตรสมโภช เมื่อปีพ.ศ. 2535
พระธาตุดอยจอมแจ้ง วัดพระธาตุดอยจอมแจ้ง พระบรมธาตุเจดีย์บรรจุพระธาตุไหปราร้ากระดูกเบื้องขวา พระธาตุพระอุระ (กระดูกอก) และพระธาตุน้ำล้างพระพักตร์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิิ์ "พระเจ้าฝนแสนห่า" โดยพระธาตุดอยจอมแจ้ง ตั้งขึ้นเมื่อใดไม่มีหลักฐานแน่ชัด ตามตำนานกล่าวไว้ว่า พระพุทธเจ้าพร้อมพระสาวกเสด็จมาโปรดเวไนยสัตว์ เสด็จลงมาตามลำน้ำแม่ระมิงค์จนถึงถ้ำหลวงเชียงดาว และเสด็จถึงบริเวณนี้เมื่อสว่างที่เขาแห่งหนึ่งในเขตอำเภอแม่แตง สถานที่นั้นจึงได้ชื่อว่า “จอมแจ้ง”
⭐ ต่อมา ครูบาเจ้าศรีวิชัย ได้พบพระธาตุไหปลาร้าด้านขวาในเจดีย์ทองคำ ถูกห่อหุ้มด้วยผอบทองและเงินอย่างละ ๓ ชั้น อยู่ในไหดิน มีของมีค่าต่างๆ มากมาย ได้สร้างองค์พระธาตุใหม่ครอบสูง ๙ วา นอกจากนี้ยังมีพระธาตุพระอุระ (กระดูกอก) และมีพระพุทธรูปทองคำอายุกว่า ๕๐๐ ปี ชื่อ “พระเจ้าฝนแสนห่า” อีกด้วย
เมื่อวันที่ ๑-๓๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๗๐ ครูบาเจ้าศรีวิชัย ได้บูรณะองค์พระธาตุ โดยหุ้มองค์เดิมเอาไว้ โดยมีพระศรีวิชัย วัดแม่ขะจาน เป็นองค์ดำเนินการแทน และพ.ศ.๒๕๒๙ ทางวัดได้บูรณะพระบรมธาตุเจดีย์ใหม่อีกครั้ง โดยเปลี่ยนรูปแบบเดิมไปทั้งหมดจนเสร็จสมบูรณ์ ต่อมาพ.ศ.๒๕๓๖ ได้ยกยอดฉัตรสมโภช
จากลักษณะนั้น พระพุทธรูปปางนี้ อยู่ในพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายหงายวางที่พระชานุ พระหัตถ์ขวายกขึ้นเสมอพระอุระ จีบนิ้วพระหัตถ์เป็นอาการแสดงธรรมฯ ซึ่งเรียดว่าปางโปรดสัตว์ โดยประวัตินั้น พระเจ้าอาฬวี กษัตริย์แห่งอาฬวีนครทรงนิยมไพรถือการล่าสัตว์ป่าเป็นกิจวัตร วันหนึ่งกำลังไล่กวาง เกิดโชคร้ายพลัดหลงกับกองทหารเข้าไปในเขตหวงห้ามของอาฬวกยักษ์ ซึ่งได้รับประทานพรจากพระอิศวรให้จับคนและสัตว์ที่พลัดหลงเข้ามาในแดนของตนกินได้ พระเจ้าอาฬวีจึงขอผ่อนว่า ถ้าปล่อยให้พระองค์กลับพระนคร ก็จะส่งคนมาให้เป็นอาหารวันละ 1 คน เมื่อกลับถึงพระนครพระองค์ก็ทำตามสัญญา ทีแรกก็ส่งนักโทษไป ต่อมาก็เด็ก จนชาวเมืองพากันหนีไปอยู่เมืองอื่น ในที่สุดก็ต้องจับ พระโอรสของพระเจ้าอาฬวีส่งไป พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบด้วยพระญาณ จึงเสด็จไปทรมารยักษ์ให้สิ้นความดุร้าย ฯ
สำหรับพระพุทธรูปปางไสยาสน์นั้น ในสมัยที่พระพุทธองค์ประทับอยู่ ณ วัดเชตวันมหาวิหาร ในนครสาวัตถี อสุรินทราหูซึ่งเป็นอสูรอุปราชของท้าวเวปจิตติอสุรบดินทร์ผู้ครองอสูรพิภพ ได้สดับพระเกียรติคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากเหล่าเทวดาทั้งหลาย จึงมีความประสงค์จะฟังพระธรรมเทศนาจากพระพุทธองค์ แต่คิดว่าพระพุทธองค์เป็นมนุษย์มีพระวรกายเล็ก ตนเองมีร่างกายใหญ่หากไปเฝ้าก็จะต้องก้มลงมองด้วยความลำบาก เมื่ออสุรินทราหู ไปเข้าเฝ้าสำคัญตัวว่ามีร่างกายใหญ่โตใหญ่กว่าพระพุทธเจ้า จึงไม่ยอมแสดงความอ่อนน้อม พระพุทธองค์ทรงประสงค์จะลดทิฐิของอสุรินทราหูอสูร จึงทรงเนรมิตกายให้ใหญ่โตกว่าอสุรินทราหูอสูร ทรงนอนในลักษณะเสด็จสีหไสยาสน์ พระเศียรหนุนภูเขาต่างพระเขนย พระบาททั้งสองข้างที่วางซ้อนกันอยู่ สูงใหญ่กว่าอสุรินทราหู อสุรินทราหูต้องแหงนคอเพื่อชมพุทธลักษณะ พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงปาฏิหาริย์พาอสุรินทราหูขึ้นไปยังพรหมโลก บรรดาพรหมทั้งหลายมีร่างกายเล็กกว่าพระพุทธองค์และต่างมองอสุรินทราหูเหมือนประหนึ่งมนุษย์ดูมดปลวกตัวเล็กๆ อสุรินทราหูเกิดความกลัวต้องหลบอยู่ข้างหลังพระพุทธองค์ นับแต่นั้นมาก็ลดทิฐิมานะ อ่อนน้อมต่อพระพุทธองค์ และเมื่อได้สดับฟังพระธรรมเทศนาจึงเกิดความเลื่อมใส ขอถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะที่พึ่งสูงสุดแห่งชีวิต
ต่อมาเป็นอุโบสถ วัดพระธาตุดอยจอมแจ้ง สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๙ สิ้นงบประมาณ ๒,๕๑๐,๐๐๐ บาท ปัจจุบันมีพระอาจารย์ ธรรมนิตย์ สุจิตโต เป็นเจ้าอาวาส
สุดท้าย รูปหล่อเจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี วัดระฆังฯ ประดิษฐานภายใน ศาลาหกเหลี่ยม วัดพระธาตุดอยจอมแจ้ง คณะศิษย์ยานุศิษย์สร้างถวาย ณ พระธาตุจอมแจ้ง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
|
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
🔹เหรียญพระเจ้าฝนแสนห่า🔹
วัดพระธาตุดอยจอมแจ้ง จ.เชียงใหม่ ปี2518
“พระเจ้าฝนแสนห่า”
พระพุทธรูปทองคำอายุกว่า 500 ปี
พระเจ้าฝนแสนห่า” พระพุทธรูปแห่งความอุดมสมบูรณ์ ฝนฟ้าน้ำท่าตกต้องตามฤดูกาล
หนึ่งในพระพุทธรูปสำคัญของเมืองเชียงใหม่ที่เรามักรู้จักกันเป็นอย่างดี และพบเห็นพิธีอัญเชิญแห่รอบเมืองในวันสำคัญของเชียงใหม่ ถ้าเราไม่นับได้พระพุทธสิหิงค์และพระแก้วเสตังคมณีแล้ว ในจำนวนนี้มีชื่อของ “พระเจ้าฝนแสนห่า”
ประวัติ วัดพระธาตุดอยจอมแจ้ง ขาดการดูแลมาหลายยุคหลายสมัยและได้ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ล่วงมาสมัย “ครูบาเจ้าศรีวิชัย” นักบุญแห่งลานนา ที่ได้มาบูรณะและสร้าง วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ประมาณปี พ.ศ. 2470 ครูบาเจ้าศรีวิชัย นิมิตว่ามีเทวดามาบอกว่า มีวัดสำคัญทางทิศเหนือกำลังรอครูบาไปบูรณะ และครูบาเจ้าศรีวิชัยได้เห็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จตกบนดอยแห่งนี้ เมื่อถามชาวบ้านดูว่ามีใครทราบว่ามีวัดพระธาตุดอยจอมแจ้งหรือไม่ ชาวบ้านที่ไปช่วยกันก่อสร้างและทำบุญบอกว่ามี จึงพร้อมด้วยหลวงอนุสารสุนทร พร้อมด้วยชาวพุทธ พระภิกษุ สามเณร มีพระศรีวิชัยวัดแม่ขะจาน คอยอำนวยความสะดวกและเตรียมสถานที่พักครูบาศรีวิชัย ได้บูรณะพระเจดีย์ใหม่สูง 9 วา เปลี่ยนจากเจดีย์แบบพม่ามาเป็นแบบครูบาศรีวิชัย เนื่องด้วยองค์เดิมชำรุดมาก อิฐไม่สามารถใช้ได้ ฐานก็ไม่แข็งแรง เมื่อขุดตกแต่งจึงได้พบพระบรมสารีริกธาตุ บรรจุไว้ในผอบทองคำและผอบเงินอย่างละ 3 ชั้น มีพระธาตุไหปลาร้าด้านขวา พระธาตุพระอุระ (กระดูกอก) และมีพระพุทธรูปทองคำอายุกว่า 500 ปี ชื่อ “พระเจ้าฝนแสนห่า” สำเภาเงิน สำเภาทอง เพชรนิลจินดา และของมีค่าต่างๆเป็นจำนวนมาก ครูบาศรีวิชัยให้ช่างบรรจุเอาไว้ในไห และเก็บไว้ในองค์พระธาตุตามเดิม ใช้เวลาบูรณะพระธาตุเจดีย์ทั้งสิ้น 30 วัน และได้บูรณะใหม่อีกครั้งโดยหุ้มโมเสทจากอิตาลี และยกฉัตรสมโภช เมื่อปีพ.ศ. 2535
พระธาตุดอยจอมแจ้ง วัดพระธาตุดอยจอมแจ้ง พระบรมธาตุเจดีย์บรรจุพระธาตุไหปราร้ากระดูกเบื้องขวา พระธาตุพระอุระ (กระดูกอก) และพระธาตุน้ำล้างพระพักตร์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิิ์ "พระเจ้าฝนแสนห่า" โดยพระธาตุดอยจอมแจ้ง ตั้งขึ้นเมื่อใดไม่มีหลักฐานแน่ชัด ตามตำนานกล่าวไว้ว่า พระพุทธเจ้าพร้อมพระสาวกเสด็จมาโปรดเวไนยสัตว์ เสด็จลงมาตามลำน้ำแม่ระมิงค์จนถึงถ้ำหลวงเชียงดาว และเสด็จถึงบริเวณนี้เมื่อสว่างที่เขาแห่งหนึ่งในเขตอำเภอแม่แตง สถานที่นั้นจึงได้ชื่อว่า “จอมแจ้ง”
⭐ ต่อมา ครูบาเจ้าศรีวิชัย ได้พบพระธาตุไหปลาร้าด้านขวาในเจดีย์ทองคำ ถูกห่อหุ้มด้วยผอบทองและเงินอย่างละ ๓ ชั้น อยู่ในไหดิน มีของมีค่าต่างๆ มากมาย ได้สร้างองค์พระธาตุใหม่ครอบสูง ๙ วา นอกจากนี้ยังมีพระธาตุพระอุระ (กระดูกอก) และมีพระพุทธรูปทองคำอายุกว่า ๕๐๐ ปี ชื่อ “พระเจ้าฝนแสนห่า” อีกด้วย
เมื่อวันที่ ๑-๓๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๗๐ ครูบาเจ้าศรีวิชัย ได้บูรณะองค์พระธาตุ โดยหุ้มองค์เดิมเอาไว้ โดยมีพระศรีวิชัย วัดแม่ขะจาน เป็นองค์ดำเนินการแทน และพ.ศ.๒๕๒๙ ทางวัดได้บูรณะพระบรมธาตุเจดีย์ใหม่อีกครั้ง โดยเปลี่ยนรูปแบบเดิมไปทั้งหมดจนเสร็จสมบูรณ์ ต่อมาพ.ศ.๒๕๓๖ ได้ยกยอดฉัตรสมโภช
จากลักษณะนั้น พระพุทธรูปปางนี้ อยู่ในพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายหงายวางที่พระชานุ พระหัตถ์ขวายกขึ้นเสมอพระอุระ จีบนิ้วพระหัตถ์เป็นอาการแสดงธรรมฯ ซึ่งเรียดว่าปางโปรดสัตว์ โดยประวัตินั้น พระเจ้าอาฬวี กษัตริย์แห่งอาฬวีนครทรงนิยมไพรถือการล่าสัตว์ป่าเป็นกิจวัตร วันหนึ่งกำลังไล่กวาง เกิดโชคร้ายพลัดหลงกับกองทหารเข้าไปในเขตหวงห้ามของอาฬวกยักษ์ ซึ่งได้รับประทานพรจากพระอิศวรให้จับคนและสัตว์ที่พลัดหลงเข้ามาในแดนของตนกินได้ พระเจ้าอาฬวีจึงขอผ่อนว่า ถ้าปล่อยให้พระองค์กลับพระนคร ก็จะส่งคนมาให้เป็นอาหารวันละ 1 คน เมื่อกลับถึงพระนครพระองค์ก็ทำตามสัญญา ทีแรกก็ส่งนักโทษไป ต่อมาก็เด็ก จนชาวเมืองพากันหนีไปอยู่เมืองอื่น ในที่สุดก็ต้องจับ พระโอรสของพระเจ้าอาฬวีส่งไป พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบด้วยพระญาณ จึงเสด็จไปทรมารยักษ์ให้สิ้นความดุร้าย ฯ
สำหรับพระพุทธรูปปางไสยาสน์นั้น ในสมัยที่พระพุทธองค์ประทับอยู่ ณ วัดเชตวันมหาวิหาร ในนครสาวัตถี อสุรินทราหูซึ่งเป็นอสูรอุปราชของท้าวเวปจิตติอสุรบดินทร์ผู้ครองอสูรพิภพ ได้สดับพระเกียรติคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากเหล่าเทวดาทั้งหลาย จึงมีความประสงค์จะฟังพระธรรมเทศนาจากพระพุทธองค์ แต่คิดว่าพระพุทธองค์เป็นมนุษย์มีพระวรกายเล็ก ตนเองมีร่างกายใหญ่หากไปเฝ้าก็จะต้องก้มลงมองด้วยความลำบาก เมื่ออสุรินทราหู ไปเข้าเฝ้าสำคัญตัวว่ามีร่างกายใหญ่โตใหญ่กว่าพระพุทธเจ้า จึงไม่ยอมแสดงความอ่อนน้อม พระพุทธองค์ทรงประสงค์จะลดทิฐิของอสุรินทราหูอสูร จึงทรงเนรมิตกายให้ใหญ่โตกว่าอสุรินทราหูอสูร ทรงนอนในลักษณะเสด็จสีหไสยาสน์ พระเศียรหนุนภูเขาต่างพระเขนย พระบาททั้งสองข้างที่วางซ้อนกันอยู่ สูงใหญ่กว่าอสุรินทราหู อสุรินทราหูต้องแหงนคอเพื่อชมพุทธลักษณะ พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงปาฏิหาริย์พาอสุรินทราหูขึ้นไปยังพรหมโลก บรรดาพรหมทั้งหลายมีร่างกายเล็กกว่าพระพุทธองค์และต่างมองอสุรินทราหูเหมือนประหนึ่งมนุษย์ดูมดปลวกตัวเล็กๆ อสุรินทราหูเกิดความกลัวต้องหลบอยู่ข้างหลังพระพุทธองค์ นับแต่นั้นมาก็ลดทิฐิมานะ อ่อนน้อมต่อพระพุทธองค์ และเมื่อได้สดับฟังพระธรรมเทศนาจึงเกิดความเลื่อมใส ขอถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะที่พึ่งสูงสุดแห่งชีวิต
ต่อมาเป็นอุโบสถ วัดพระธาตุดอยจอมแจ้ง สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๙ สิ้นงบประมาณ ๒,๕๑๐,๐๐๐ บาท ปัจจุบันมีพระอาจารย์ ธรรมนิตย์ สุจิตโต เป็นเจ้าอาวาส
สุดท้าย รูปหล่อเจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี วัดระฆังฯ ประดิษฐานภายใน ศาลาหกเหลี่ยม วัดพระธาตุดอยจอมแจ้ง คณะศิษย์ยานุศิษย์สร้างถวาย ณ พระธาตุจอมแจ้ง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |