จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | 0 ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | ปรอทกรอ หัวนะโม ลูกอม แหวน |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ไฮไลท์ |
ปรอทกรอ เวสนรสิงห์ รุ่นแรก หลวงพ่อวิชิต วัดป่าเขาปลวก จ.บุรีรัมย์ (เนื้อแร่ดีบุก เลขมงคล 41)
ปรอทกรอ เวสนรสิงห์ ▪ ปรอทกรอ 2หน้า🔹รุ่นแรก {เนื้อแร่ดีบุก เลข41 } (รุ่นเดียว ไม่สร้างอีก)❇(หลวงพ่อวิชิต วิเสโส )
ปรอทกรอ เวสนรสิงห์ ▪ ((รุ่นแรก))
🍀เนื้อแร่ดีบุก 🍀 >>> เลขมงคล41
[หลวงตาวิชิต วิเสโส วัดป่าเขาปลวก จ.บุรีรัมย์
✳ จัดสร้าง 75 องค์ เท่านั้น ✳
(( หลวงตาวิชิต ))
ท่านอยู่เเบบเรียบง่าย ท่านชอบอยู่ในป่าในเขา ตามรอยครูบาอาจารย์ **
ท่านเดินธุดงในป่า 18 ปี ผ่านอะไรมาเยอะได้ร่ำเรียนวิชา กับครูบาอาจารย์หลายท่าน ธุดงไปทั้ง ลาว เขมร พม่า ชายแดนใต้ ท่านไปมาหมด เป็นครูบาอาจารย์อีกท่านที่ไม่ธรรมดา
⭐วัตถุมงคลจัดสร้างขึ้น เพื่อนำปัจจัยทั้งหมดสานต่องานสร้างโบสถ์
🔯 อธิษฐานจิตวาระสุดท้าย 🔯
หลวงพ่อวิชิตเมตตาอธิษฐานจิต
#ปรอทกรอเวสนรสิงห์ วาระสุดท้าย ในคืน 22 มิ.ย ภายในโบสถ์ หลวงพ่อได้กล่าวว่าคืน 22 นี้ เป็นวันดีเป็นมงคล เป็นวันของครูบาอาจารย์หลายๆท่าน (วันครู) เพิ่มเติมจากที่หลวงพ่อเมตตาอธิษฐานจิตครบ 9 วัน 9 คืน เต็มเปี่ยมด้วยคุณูปการทุกด้าน
#ปรอทกรอเวสนรสิงห์วัดป่าเขาปลวก
+++++++++++++++++++++
#วิธีการฝังปรอทกรอ_เวสนรสิงห์
ฝังหน้าบ้าน ((ฝังแล้ว จะป้องกันภัย ทางสามแพร่ง ))
ให้เราเตรียม
พาน 1 ใบ ธูป 9 ดอก เทียน 9 คู ดอกไม้ 9 คู่
ใส่ในพาน พร้อมปรอทกรอที่จะฝัง
แล้วให้เราจุดธูป 9 ดอก จุดเทียนแค่ 2 ดอก
แล้วตั้งนะโม 3 จบ (เออิ เออิ มะมะ มะอะอุ นะโมพุทธายะ)
ตามด้วยระลึกถึงครูบาอาจารย์ หลวงปู่สรวงเทวดาเดินดิน หลวงตาวิชิต
แล้วเราก็กล่าวนำสิ่งดีๆเข้ามาในบ้านในชีวิตของเรา
หลังจากนั้นนำปรอทกรอ ฝังหน้าบ้าน
ปรอทกรอหน้านึง จะต้องหันออกทางถนน อีกหน้านึง
ต้องหันเข้ามาอยู่ในบ้าน ❇เป็นการเสร็จพิธี❇
หลวงตาวิชิตท่านกล่าวไว้ ใครนำไปฝังบ้านเรือนจะมีความเจริญรุ่งเรือง ปัดเสนียดจัญไร ปัดเป่าสิ่งไม่ดี เตือนภัยป้องกันภัย จะมีแต่สิ่งดีๆเข้ามา
********************************************************************
🚩ประวัติหลวงพ่อวิชิตวิเสโส🚩
พื้นเพหลวงพ่อวิชิตท่านเป็นชาวสุรินทร์ท่านบวชเรียนตั้งแต่เป็นสามเณรเมื่ออายุครบเกณฑ์จึงบรรพชาอุปสมบท หลวงพ่อวิชิตได้บรรพชาอุปสมบทเมื่ออายุได้ 22 ปี จนถึงปัจจุบันรวมพรรษา 35 พรรษา ( 2560 ) ท่านมีศักดิ์เป็นหลานหลวงปู่หงษ์ ( พรหมปัญโญ ) สุสานทุ่งมน(วัดเพชรบุรี)หลวงปู่ฤทธิ์ วัดชลประทานราชดำริ และอีกรูปหนึ่งที่ปัจจุบันยังดำรงธาตุขันธ์อยู่ในจังหวัดสุรินทร์
หลวงพ่อวิชิตท่านมีความมุ่งมั่นเพื่อความหลุดพ้นจากสงสารวัฏ หมั่นฝึกฝนตนเองด้วยการเจริญภาวนาเจริญสมาธิ ถือธุดงควัตร เสาะแสวงหาครูบาอาจารย์ไปยังสถานที่ต่างๆด้วยความมุ่งมั่นในสิ่งที่ตั้งปณิธานไว้ ท่านมีโอกาสได้ร่ำเรียนวิชาต่างๆจากครูบาอาจารย์หลายท่านล้วนแต่เป็นอริยสงฆ์ ด้วยบุญพาวาสนาส่งท่านมีโอกาสได้พบหลวงปู่สาม อกิญจโน วัดป่าไตรวิเวก และอยู่รับใช้อุปัฏฐากหลวงปู่สาม หลวงวิชิต ได้วิชากรรมฐาน จากหลวงปู่สาม ในช่วงระยะเวลา 5 ปี จนถึงเวลาหลวงปู่สามท่านได้เอ่ยบอกหลวงพ่อวิชิตว่า …...ไปเถอะถึงเวลาแล้วมีครูบาอาจารย์รอท่านอยู่ต่อไปภายหน้าท่านจะได้ช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยากจากวิชาที่ท่านได้ร่ำเรียนมา
…… เมื่อหลวงปู่สามกล่าวเช่นนั้นหลวงพ่อวิชิตจึงกราบลาและธุดงค์ต่อไปด้วยเชื่อในคำที่หลวงปู่สามท่านกล่าวไว้ แต่ไม่ทราบได้ว่าต่อไปท่านจะพบเจอครูบาอาจารย์องค์ไหนต่อไป หลวงพ่อวิชิตได้ธุดงค์ต่อไปในแถบชายแดนติดกับเขมร จนกระทั่งได้พบพระรูปหนึ่งและนึกในใจว่าพระอะไรทำไมเป็นแบบนี้จึงมิได้ใส่ใจมุ่งมั่นธุดงค์ต่อไป แต่ที่น่าแปลกไปถึงตรงไหนก็จะได้พบพระรูปนี้เรื่อยไป จนท่านนึกแปลกใจจึงได้เริ่มที่จะสนทนาด้วย จากการสนทนาทำให้หลวงพ่อวิชิตทราบว่าพระแก่ๆที่ท่านนึกปรามาสไว้ไม่ใช่พระธรรมดาแน่ และ ได้ทราบว่าท่านคือหลวงปู่สรวง ( เทวดาเล่นดิน ) จากคำบอกเล่าที่หลวงพ่อวิชิตท่านได้เล่าให้ศิษย์ใกล้ชิดฟังว่า
…….หลวงปู่สรวงเป็นพระที่ไม่ใช่พระธรรดาอย่างที่เราๆท่านๆเคยพบเคยเห็นเคยกราบไหว้
……..หลังจากหลวงพ่อได้ทราบแล้วว่าพระแก่ๆที่หลวงพ่อไปทางไหนก็หนีไม่พ้นคือ หลวงปู่สรวงจึงได้สนทนาธรรมกัน ยิ่งทำให้หลวงพ่อวิชิตรู้สึกทึ่งในบุญบารมีของเทวดาเล่นดินองค์นี้ จะด้วยเหตุผลอันใดไม่ทราบได้ ทำให้หลวงพ่อวิชิตได้อยู่ดูแลอุปัฏฐากหลวงปู่สรวงนานหลายปีตั้งแต่ปี 2534 จนถึงปี 2539 รวมระยะเวลา 5 ปี หลวงปู่สรวงมีความแตกฉานในหลายๆด้าน ซึ่งหลวงปู่สรวงได้ถามหลวงพ่อวิชิตว่า อยากได้วิชาอะไรจากท่าน ทำให้หลวงพ่อวิชิตคิดใคร่ครวญและไตร่ตรองในคำถามที่หลวงปู่สรวง ท่านถาม โดยหลวงพ่อวิชิต ได้เลือกที่จะเรียนวิชายาสมุนไพรจากหลวงปู่สรวงด้วยเห็นว่าวิชายาสมุนไพรนี้หากมีความรอบรู้แตกฉานสามารถที่จะช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากในภายภาคหน้าได้ เมื่อสรุปได้ดังนั้นหลวงปู่สรวงได้ถ่ายทอดวิชายาสมุนไพรให้กับหลวงพ่อวิชิตจนหมดสิ้น โดยตลอดระยะเวลาที่อยู่กับหลวงปู่สรวงได้ธุดงค์อยู่ตามป่าตามเขาเรียนรู้พวกตัวยาสมุนไพร จนหลวงปู่สรวงท่านมั่นใจและพอใจในตัวหลวงพ่อวิชิตแล้ว โดยในระยะต่อมาหลวงปู่สรวง ได้บอกกับหลวงพ่อวิชิตว่า ท่านมาถูกทางแล้วที่เลือกที่จะเรียนรู้ในด้านนี้ ต่อไปภายหน้าวิชาเหล่านี้จะสามารถช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากเป็นการสร้างบุญสร้างกุศลสร้างบารมีให้กับตัวหลวงพ่อเอง ซึ่งสิ่งที่หลวงปู่สรวงได้พูดกับหลวงพ่อวิชิตตรงกับคำทำนายที่หลวงปู่สาม ( อกิญจโน ) ท่านได้ทำนายหลวงพ่อวิชิตไว้ และ ในช่วงระยะเวลาต่อมาหลังจากหลวงปู่สรวงท่านมั่นใจในตัวหลวงพ่อวิชิตเรียนรู้วิชายาสมุนไพรได้แตกฉานแล้ว หลวงปู่สรวงได้มอบ วิชาต่างๆให้หลวงพ่อวิชิต จนหมดสิ้น มีทั้งเมตตามหาเสน่ห์ มหาอุตม์ โภคทรัพย์ และ อีกหลายๆวิชา เมื่อร่ำเรียนสรรพวิชาต่างๆจนหมดสิ้นแล้ว หลวงปู่สรวงได้มอบของดีสุดล้ำค่า ด้วยหลวงปู่สรวงท่านรู้ว่าต่อไปภายหน้าสิ่งนี้จะมีประโยชน์ต่อหลวงพ่อวิชิต
สิ่งที่หลวงปู่สรวงได้มอบไว้ให้หลวงพ่อวิชิตเพื่อประโยชน์ในภายภาคหน้าต่อพระพุทธศาสนาสิ่งนั้นคือวัตถุมงคลจำนวน หนี่งคือ พระขุนแผนอุ้มไก่ ซึ่งหลวงพ่อวิชิตได้เก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีมาจนถึงปัจจุบันหลังจากได้ร่ำเรียนวิชาจากหลวงปู่สรวงจนเป็นที่พอใจของหลวงปู่สรวงแล้วก็ถึงเวลาที่หลวงพ่อวิชิตออกธุดงค์ต่อไปเพื่อแสวงหาในสิ่งที่หลวงพ่อวิชิตได้มุ่งมั่นและตั้งใจไว้ท่านได้ธุดงค์เรื่อยมาเหมือนมีสิ่งดลใจให้ท่านได้มาพบสถานที่ที่หนึ่งซึ่งในสถานที่นี้หลวงพ่อวิชิตท่านได้พบกับหลวงปู่ไสวสำหรับหลวงปู่ไสวนี้เปรียบเสมือนครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อวิชิตอีกรูปหนึ่งจากการพบปะกันหลวงปู่ไสวได้ให้คำแนะนำในสิ่งที่หลวงพ่อวิชิตแสวงหามาโดยตลอดซึ่งสถานที่ที่ได้พบกับหลวงปู่ไสวคือเขาปลวก หลวงปู่ไสวได้บอกกับหลวงพ่อว่า
สถานที่แห่งนี้เหมาะอย่างยิ่งที่จะเจริญภาวนาแสวงหาธรรมชั้นสูงสถานที่แห่งนี้มีบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายปกปักษ์รักษาดูแลอยู่และสิ่งที่หลวงพ่อวิชิตท่านได้ค้นพบด้วยตัวท่านเองเป็นจริงอย่างที่หลวงปู่ไสวเคยกล่าวไว้หลวงพ่อวิชิตได้อยู่สถานที่แห่งนี้มาจนถึงปัจจุบัน คือวัดป่าเขาปลวก
|
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
ปรอทกรอ เวสนรสิงห์ รุ่นแรก หลวงพ่อวิชิต วัดป่าเขาปลวก จ.บุรีรัมย์ (เนื้อแร่ดีบุก เลขมงคล 41)
ปรอทกรอ เวสนรสิงห์ ▪ ปรอทกรอ 2หน้า🔹รุ่นแรก {เนื้อแร่ดีบุก เลข41 } (รุ่นเดียว ไม่สร้างอีก)❇(หลวงพ่อวิชิต วิเสโส )
ปรอทกรอ เวสนรสิงห์ ▪ ((รุ่นแรก))
🍀เนื้อแร่ดีบุก 🍀 >>> เลขมงคล41
[หลวงตาวิชิต วิเสโส วัดป่าเขาปลวก จ.บุรีรัมย์
✳ จัดสร้าง 75 องค์ เท่านั้น ✳
(( หลวงตาวิชิต ))
ท่านอยู่เเบบเรียบง่าย ท่านชอบอยู่ในป่าในเขา ตามรอยครูบาอาจารย์ **
ท่านเดินธุดงในป่า 18 ปี ผ่านอะไรมาเยอะได้ร่ำเรียนวิชา กับครูบาอาจารย์หลายท่าน ธุดงไปทั้ง ลาว เขมร พม่า ชายแดนใต้ ท่านไปมาหมด เป็นครูบาอาจารย์อีกท่านที่ไม่ธรรมดา
⭐วัตถุมงคลจัดสร้างขึ้น เพื่อนำปัจจัยทั้งหมดสานต่องานสร้างโบสถ์
🔯 อธิษฐานจิตวาระสุดท้าย 🔯
หลวงพ่อวิชิตเมตตาอธิษฐานจิต
#ปรอทกรอเวสนรสิงห์ วาระสุดท้าย ในคืน 22 มิ.ย ภายในโบสถ์ หลวงพ่อได้กล่าวว่าคืน 22 นี้ เป็นวันดีเป็นมงคล เป็นวันของครูบาอาจารย์หลายๆท่าน (วันครู) เพิ่มเติมจากที่หลวงพ่อเมตตาอธิษฐานจิตครบ 9 วัน 9 คืน เต็มเปี่ยมด้วยคุณูปการทุกด้าน
#ปรอทกรอเวสนรสิงห์วัดป่าเขาปลวก
+++++++++++++++++++++
#วิธีการฝังปรอทกรอ_เวสนรสิงห์
ฝังหน้าบ้าน ((ฝังแล้ว จะป้องกันภัย ทางสามแพร่ง ))
ให้เราเตรียม
พาน 1 ใบ ธูป 9 ดอก เทียน 9 คู ดอกไม้ 9 คู่
ใส่ในพาน พร้อมปรอทกรอที่จะฝัง
แล้วให้เราจุดธูป 9 ดอก จุดเทียนแค่ 2 ดอก
แล้วตั้งนะโม 3 จบ (เออิ เออิ มะมะ มะอะอุ นะโมพุทธายะ)
ตามด้วยระลึกถึงครูบาอาจารย์ หลวงปู่สรวงเทวดาเดินดิน หลวงตาวิชิต
แล้วเราก็กล่าวนำสิ่งดีๆเข้ามาในบ้านในชีวิตของเรา
หลังจากนั้นนำปรอทกรอ ฝังหน้าบ้าน
ปรอทกรอหน้านึง จะต้องหันออกทางถนน อีกหน้านึง
ต้องหันเข้ามาอยู่ในบ้าน ❇เป็นการเสร็จพิธี❇
หลวงตาวิชิตท่านกล่าวไว้ ใครนำไปฝังบ้านเรือนจะมีความเจริญรุ่งเรือง ปัดเสนียดจัญไร ปัดเป่าสิ่งไม่ดี เตือนภัยป้องกันภัย จะมีแต่สิ่งดีๆเข้ามา
********************************************************************
🚩ประวัติหลวงพ่อวิชิตวิเสโส🚩
พื้นเพหลวงพ่อวิชิตท่านเป็นชาวสุรินทร์ท่านบวชเรียนตั้งแต่เป็นสามเณรเมื่ออายุครบเกณฑ์จึงบรรพชาอุปสมบท หลวงพ่อวิชิตได้บรรพชาอุปสมบทเมื่ออายุได้ 22 ปี จนถึงปัจจุบันรวมพรรษา 35 พรรษา ( 2560 ) ท่านมีศักดิ์เป็นหลานหลวงปู่หงษ์ ( พรหมปัญโญ ) สุสานทุ่งมน(วัดเพชรบุรี)หลวงปู่ฤทธิ์ วัดชลประทานราชดำริ และอีกรูปหนึ่งที่ปัจจุบันยังดำรงธาตุขันธ์อยู่ในจังหวัดสุรินทร์
หลวงพ่อวิชิตท่านมีความมุ่งมั่นเพื่อความหลุดพ้นจากสงสารวัฏ หมั่นฝึกฝนตนเองด้วยการเจริญภาวนาเจริญสมาธิ ถือธุดงควัตร เสาะแสวงหาครูบาอาจารย์ไปยังสถานที่ต่างๆด้วยความมุ่งมั่นในสิ่งที่ตั้งปณิธานไว้ ท่านมีโอกาสได้ร่ำเรียนวิชาต่างๆจากครูบาอาจารย์หลายท่านล้วนแต่เป็นอริยสงฆ์ ด้วยบุญพาวาสนาส่งท่านมีโอกาสได้พบหลวงปู่สาม อกิญจโน วัดป่าไตรวิเวก และอยู่รับใช้อุปัฏฐากหลวงปู่สาม หลวงวิชิต ได้วิชากรรมฐาน จากหลวงปู่สาม ในช่วงระยะเวลา 5 ปี จนถึงเวลาหลวงปู่สามท่านได้เอ่ยบอกหลวงพ่อวิชิตว่า …...ไปเถอะถึงเวลาแล้วมีครูบาอาจารย์รอท่านอยู่ต่อไปภายหน้าท่านจะได้ช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยากจากวิชาที่ท่านได้ร่ำเรียนมา
…… เมื่อหลวงปู่สามกล่าวเช่นนั้นหลวงพ่อวิชิตจึงกราบลาและธุดงค์ต่อไปด้วยเชื่อในคำที่หลวงปู่สามท่านกล่าวไว้ แต่ไม่ทราบได้ว่าต่อไปท่านจะพบเจอครูบาอาจารย์องค์ไหนต่อไป หลวงพ่อวิชิตได้ธุดงค์ต่อไปในแถบชายแดนติดกับเขมร จนกระทั่งได้พบพระรูปหนึ่งและนึกในใจว่าพระอะไรทำไมเป็นแบบนี้จึงมิได้ใส่ใจมุ่งมั่นธุดงค์ต่อไป แต่ที่น่าแปลกไปถึงตรงไหนก็จะได้พบพระรูปนี้เรื่อยไป จนท่านนึกแปลกใจจึงได้เริ่มที่จะสนทนาด้วย จากการสนทนาทำให้หลวงพ่อวิชิตทราบว่าพระแก่ๆที่ท่านนึกปรามาสไว้ไม่ใช่พระธรรมดาแน่ และ ได้ทราบว่าท่านคือหลวงปู่สรวง ( เทวดาเล่นดิน ) จากคำบอกเล่าที่หลวงพ่อวิชิตท่านได้เล่าให้ศิษย์ใกล้ชิดฟังว่า
…….หลวงปู่สรวงเป็นพระที่ไม่ใช่พระธรรดาอย่างที่เราๆท่านๆเคยพบเคยเห็นเคยกราบไหว้
……..หลังจากหลวงพ่อได้ทราบแล้วว่าพระแก่ๆที่หลวงพ่อไปทางไหนก็หนีไม่พ้นคือ หลวงปู่สรวงจึงได้สนทนาธรรมกัน ยิ่งทำให้หลวงพ่อวิชิตรู้สึกทึ่งในบุญบารมีของเทวดาเล่นดินองค์นี้ จะด้วยเหตุผลอันใดไม่ทราบได้ ทำให้หลวงพ่อวิชิตได้อยู่ดูแลอุปัฏฐากหลวงปู่สรวงนานหลายปีตั้งแต่ปี 2534 จนถึงปี 2539 รวมระยะเวลา 5 ปี หลวงปู่สรวงมีความแตกฉานในหลายๆด้าน ซึ่งหลวงปู่สรวงได้ถามหลวงพ่อวิชิตว่า อยากได้วิชาอะไรจากท่าน ทำให้หลวงพ่อวิชิตคิดใคร่ครวญและไตร่ตรองในคำถามที่หลวงปู่สรวง ท่านถาม โดยหลวงพ่อวิชิต ได้เลือกที่จะเรียนวิชายาสมุนไพรจากหลวงปู่สรวงด้วยเห็นว่าวิชายาสมุนไพรนี้หากมีความรอบรู้แตกฉานสามารถที่จะช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากในภายภาคหน้าได้ เมื่อสรุปได้ดังนั้นหลวงปู่สรวงได้ถ่ายทอดวิชายาสมุนไพรให้กับหลวงพ่อวิชิตจนหมดสิ้น โดยตลอดระยะเวลาที่อยู่กับหลวงปู่สรวงได้ธุดงค์อยู่ตามป่าตามเขาเรียนรู้พวกตัวยาสมุนไพร จนหลวงปู่สรวงท่านมั่นใจและพอใจในตัวหลวงพ่อวิชิตแล้ว โดยในระยะต่อมาหลวงปู่สรวง ได้บอกกับหลวงพ่อวิชิตว่า ท่านมาถูกทางแล้วที่เลือกที่จะเรียนรู้ในด้านนี้ ต่อไปภายหน้าวิชาเหล่านี้จะสามารถช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากเป็นการสร้างบุญสร้างกุศลสร้างบารมีให้กับตัวหลวงพ่อเอง ซึ่งสิ่งที่หลวงปู่สรวงได้พูดกับหลวงพ่อวิชิตตรงกับคำทำนายที่หลวงปู่สาม ( อกิญจโน ) ท่านได้ทำนายหลวงพ่อวิชิตไว้ และ ในช่วงระยะเวลาต่อมาหลังจากหลวงปู่สรวงท่านมั่นใจในตัวหลวงพ่อวิชิตเรียนรู้วิชายาสมุนไพรได้แตกฉานแล้ว หลวงปู่สรวงได้มอบ วิชาต่างๆให้หลวงพ่อวิชิต จนหมดสิ้น มีทั้งเมตตามหาเสน่ห์ มหาอุตม์ โภคทรัพย์ และ อีกหลายๆวิชา เมื่อร่ำเรียนสรรพวิชาต่างๆจนหมดสิ้นแล้ว หลวงปู่สรวงได้มอบของดีสุดล้ำค่า ด้วยหลวงปู่สรวงท่านรู้ว่าต่อไปภายหน้าสิ่งนี้จะมีประโยชน์ต่อหลวงพ่อวิชิต
สิ่งที่หลวงปู่สรวงได้มอบไว้ให้หลวงพ่อวิชิตเพื่อประโยชน์ในภายภาคหน้าต่อพระพุทธศาสนาสิ่งนั้นคือวัตถุมงคลจำนวน หนี่งคือ พระขุนแผนอุ้มไก่ ซึ่งหลวงพ่อวิชิตได้เก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีมาจนถึงปัจจุบันหลังจากได้ร่ำเรียนวิชาจากหลวงปู่สรวงจนเป็นที่พอใจของหลวงปู่สรวงแล้วก็ถึงเวลาที่หลวงพ่อวิชิตออกธุดงค์ต่อไปเพื่อแสวงหาในสิ่งที่หลวงพ่อวิชิตได้มุ่งมั่นและตั้งใจไว้ท่านได้ธุดงค์เรื่อยมาเหมือนมีสิ่งดลใจให้ท่านได้มาพบสถานที่ที่หนึ่งซึ่งในสถานที่นี้หลวงพ่อวิชิตท่านได้พบกับหลวงปู่ไสวสำหรับหลวงปู่ไสวนี้เปรียบเสมือนครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อวิชิตอีกรูปหนึ่งจากการพบปะกันหลวงปู่ไสวได้ให้คำแนะนำในสิ่งที่หลวงพ่อวิชิตแสวงหามาโดยตลอดซึ่งสถานที่ที่ได้พบกับหลวงปู่ไสวคือเขาปลวก หลวงปู่ไสวได้บอกกับหลวงพ่อว่า
สถานที่แห่งนี้เหมาะอย่างยิ่งที่จะเจริญภาวนาแสวงหาธรรมชั้นสูงสถานที่แห่งนี้มีบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายปกปักษ์รักษาดูแลอยู่และสิ่งที่หลวงพ่อวิชิตท่านได้ค้นพบด้วยตัวท่านเองเป็นจริงอย่างที่หลวงปู่ไสวเคยกล่าวไว้หลวงพ่อวิชิตได้อยู่สถานที่แห่งนี้มาจนถึงปัจจุบัน คือวัดป่าเขาปลวก ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |