จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | ไม่จำกัด ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | พระขุนแผน ขุนช้าง พญาเขาคำ |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ไฮไลท์ |
พระขุนแผนมงคลจักรวาลพุทธาคมเขาอ้อ วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง ปี 2545
วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง สำนักตักศิลาไสยเวทย์และเวชศาสตร์อันเลื่องลือที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งประเทศไทย
เนื้อมหาว่านขาว โรยเกศา ฝังตะกรุดเงิน3ดอกฝังหัวนะโม1หัว (องค์นี้ไม่มีกล่อง)
องค์นี้มีตำหนิ บิ่นตรงขอบ นิดหน่อย ตามรูปก่อนเลี่ยม เนื่องจากแกะกรอบพลาสติกเพื่อเลี่ยมใหม่
พระขุนแผนมงคลจักรวาลพุทธาคมเขาอ้อ ในปี 2545 ได้รับความนิยมอย่างสูงในท้องที่พัทลุงและทั่วๆ ไป. วัตถุมงคลรุ่นนี้มีความสำคัญเนื่องจากมีวัตถุประสงค์ในการเผยแพร่เชิดชูชื่อเสียงของสำนักวัดเขาอ้อ ซึ่งเคยโด่งดังเลืองลือมานานนับพันปี มหามงคลวัตถุรุ่นนี้ยังคงความพิถีพิถันเพรียบพร้อมสมบูรณ์ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่มีความประณีตสวยงามประทับตาประทับใจ และเนื้อหาชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่มีกฤตยาคมพูนเพิ่มทวีคูณเพราะนำชนวนมวลสารที่เหลืออยู่มากมายจากรุ่น ขุนพันธ์พุทธาคมเขาอ้อ มาจัดสร้าง นับเป็นวัตถุมงคลที่โดดเด่นและกล่าวขานกันอย่างกว้างขวางมากที่สุดในรอบปี พ.ศ.2545
ในปี 2544 พระครูอดุลธรรมกิตติ์ หรือ ที่ปัจจุบันรู้จักกันดีในนามพ่อท่านกลั่น เจ้าอาวาสสำนักวัดเขาอ้อ ได้ร่วมกับ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ศิษย์ฆราวาสยุคเก่าวัย 104 ปี เจ้าของฉายา มือปราบหนังเหนียวฆราวาสจอมขมังเวท จัดสร้างมหามงคลวัตถุ รุ่น ขุนพันธ์พุทธาคมเขาอ้อ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเผยแพร่เชิดชูชื่อเสียงเกียรติคุณของสำนักวัดเขาอ้อซึ่งเคยโด่งดังเลืองลือมานานนับพันปี และเพื่อหาปัจจัยมาบูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะภายในวันเขาอ้ออย่างต่อเนื่อง มหามงคลวัตถุ รุ่น ขุนพันธ์พุทธาคมเขาอ้อ ได้สร้างความนิยมศรัทธาต่อมหาชนอย่างท้วมท้นจนก่อเกิดคุณประโยชน์มากมายนานัปการต่อสำนักวัดเขาอ้อทั้งในทางตรงและทางอ้อม
ในปี 2545 นี้ก็นับเป็นอีกวาระหนึ่งที่พ่อท่านกลั่น และ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดชได้ร่วมกันจัดสร้างมหามงคลวัตถุ รุ่น มงคลจักรวาลพุทธาคมเขาอ้อ ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างเช่นดังครั้งก่อน และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในวาระที่พ่อท่านกลุ่นมีสิริอายุครบ 88 ปี มหามงคลวัตถุรุ่น มงคลจักรวาลพุทธาคมเขาอ้อ ที่จัดสร้างในครั้งนี้ยังยึดถือความพิถีพิถันเพรียบพร้อมสมบูรณ์ในทุกๆ ด้านเช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นในด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงซึ่งทุกแบบพิมพ์มีความประณีตสวยงามประทับตาประทับใจ ในด้านเนื้อหาชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่มีกฤตยาคมพูนเพิ่มทวีคูณเพราะนำชนวนมวลสารที่เหลืออยู่มากมายจากรุ่น ขุนพันธ์พุทธาคมเขาอ้อ มาจัดสร้าง และในด้านพิธีกรรมประจุพุทธาคมอันเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์จะอุบัติขึ้นรวมสามวาระมหามงคลด้วยกันคือ
พีธีกรรมครั้งที่ 1 ได้ประกอบพิธีเททองแบบโบราณตามตำรับสำนักวัดเขาอ้อ สำเร็จเรียบร้อยไปแล้ว เมื่อวันอาทิยต์ที่ 23 ธันวาคม 2544 ณ สำนักวัดเขาอ้อ โดยมีพ่อท่านกลั่น พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช, อาจารย์ ฉันท์ทิพย์ พันธรักษ์ราชเดช, อาจารย์ ประจวบ คงเหลือ และพระเกจิอาจารย์ชื่อดังสายเขาอ้ออีก 8 รูป ร่วมกันประกอบพิธี ซึ่งในวันพิธีมหามงคลครั้งนี้ ได้เกิดปรากฎการณ์มหัสจรรย์เหนือธรรมชาติบังเกิดขึ้นเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของผู้ที่มาร่วมในพิธีเททองทุกท่าน กล่าวคือก่อนพิธีเททองฝนก็ตกลงมาอย่างหนักราวกับฟ้ารั่วตั้งแต่ช่วงเช้า จวบจนถึงฤกษ์พิธีเททองฝนก็ได้หยุดตกอย่างฉับพลัน จากพิธีเททองแล้วเสร็จก็ถึงพิธีเปิดฤกษ์กดพิมพ์พระผงกลมมงคลจักรวาลสุริยัน - จันทรา และพระขุนแผนนอโม แล้วก็มาถึงพิธีสีผึ้งมงคลจักรวาล จนกระทั่งทุกพิธีกรรมได้ประกอบขึ้นสำเร็จลุล่วงแล้วเพียงครู่เดียว ห่าฝนก็ได้กระหน่ำลงมาอย่างหนักหน่วงยาวนานอีกครั้ง นับว่าได้ฤกษ์พิธีในวันนั้นที่ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นผู้กำหนด คือ ฤกษ์อันเป็นมหามงคลอย่างเอกอุ
พีธีกรรมครั้งที่ 2 ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ พระวิหารหลวงวัดพระธาตุวรวิหาร จ.นครศรีธรรมราช โดย พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้กำหนดฤกษ์พิธีไว้ในวันพฤหัสบดีที่ . พฤษภาคม 2545 เวลา 09.19 น. โดยมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วภาคใต้นั่งปรกบริกรรมภาวนา และ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ประธานฝ่ายจัดสร้างวัตถุมงคลเป็นบัณฑิตเจ้าพิธีร่วมกับ อาจารย์ฉันท์ทิพย์ พันธรักษ์ราชเดช และ อาจารย์ ประจวบ คงเหลือ
พีธีกรรมครั้งที่ 3 ประกอบพิธีเบิกถ้ำปลุกเสกภายในถ้ำฉัตรทัณฑ์ สำนักวัดเขาอ้อ โดย พล.ต.ต.ขันพันธรักษ์ราชเดช ได้กำหนดฤกษ์พิธีไว้ในวันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม 2545 เวลา 09.19 น. โดยมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังสายเขาอ้อนั่งปรกปลุกเสก และ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช, อาจารย์ฉันท์ทิพย์ พันธรักษ์ราชเดช, อาจารย์ ประจวบ คงเหลือ ร่วมกันเป็นบัณฑิตเจ้าพิธีกรรม
|
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
พระขุนแผนมงคลจักรวาลพุทธาคมเขาอ้อ วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง ปี 2545
วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง สำนักตักศิลาไสยเวทย์และเวชศาสตร์อันเลื่องลือที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งประเทศไทย เนื้อมหาว่านขาว โรยเกศา ฝังตะกรุดเงิน3ดอกฝังหัวนะโม1หัว (องค์นี้ไม่มีกล่อง)
องค์นี้มีตำหนิ บิ่นตรงขอบ นิดหน่อย ตามรูปก่อนเลี่ยม เนื่องจากแกะกรอบพลาสติกเพื่อเลี่ยมใหม่
พระขุนแผนมงคลจักรวาลพุทธาคมเขาอ้อ ในปี 2545 ได้รับความนิยมอย่างสูงในท้องที่พัทลุงและทั่วๆ ไป. วัตถุมงคลรุ่นนี้มีความสำคัญเนื่องจากมีวัตถุประสงค์ในการเผยแพร่เชิดชูชื่อเสียงของสำนักวัดเขาอ้อ ซึ่งเคยโด่งดังเลืองลือมานานนับพันปี มหามงคลวัตถุรุ่นนี้ยังคงความพิถีพิถันเพรียบพร้อมสมบูรณ์ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่มีความประณีตสวยงามประทับตาประทับใจ และเนื้อหาชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่มีกฤตยาคมพูนเพิ่มทวีคูณเพราะนำชนวนมวลสารที่เหลืออยู่มากมายจากรุ่น ขุนพันธ์พุทธาคมเขาอ้อ มาจัดสร้าง นับเป็นวัตถุมงคลที่โดดเด่นและกล่าวขานกันอย่างกว้างขวางมากที่สุดในรอบปี พ.ศ.2545
ในปี 2544 พระครูอดุลธรรมกิตติ์ หรือ ที่ปัจจุบันรู้จักกันดีในนามพ่อท่านกลั่น เจ้าอาวาสสำนักวัดเขาอ้อ ได้ร่วมกับ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ศิษย์ฆราวาสยุคเก่าวัย 104 ปี เจ้าของฉายา มือปราบหนังเหนียวฆราวาสจอมขมังเวท จัดสร้างมหามงคลวัตถุ รุ่น ขุนพันธ์พุทธาคมเขาอ้อ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเผยแพร่เชิดชูชื่อเสียงเกียรติคุณของสำนักวัดเขาอ้อซึ่งเคยโด่งดังเลืองลือมานานนับพันปี และเพื่อหาปัจจัยมาบูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะภายในวันเขาอ้ออย่างต่อเนื่อง มหามงคลวัตถุ รุ่น ขุนพันธ์พุทธาคมเขาอ้อ ได้สร้างความนิยมศรัทธาต่อมหาชนอย่างท้วมท้นจนก่อเกิดคุณประโยชน์มากมายนานัปการต่อสำนักวัดเขาอ้อทั้งในทางตรงและทางอ้อม
ในปี 2545 นี้ก็นับเป็นอีกวาระหนึ่งที่พ่อท่านกลั่น และ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดชได้ร่วมกันจัดสร้างมหามงคลวัตถุ รุ่น มงคลจักรวาลพุทธาคมเขาอ้อ ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างเช่นดังครั้งก่อน และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในวาระที่พ่อท่านกลุ่นมีสิริอายุครบ 88 ปี มหามงคลวัตถุรุ่น มงคลจักรวาลพุทธาคมเขาอ้อ ที่จัดสร้างในครั้งนี้ยังยึดถือความพิถีพิถันเพรียบพร้อมสมบูรณ์ในทุกๆ ด้านเช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นในด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงซึ่งทุกแบบพิมพ์มีความประณีตสวยงามประทับตาประทับใจ ในด้านเนื้อหาชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่มีกฤตยาคมพูนเพิ่มทวีคูณเพราะนำชนวนมวลสารที่เหลืออยู่มากมายจากรุ่น ขุนพันธ์พุทธาคมเขาอ้อ มาจัดสร้าง และในด้านพิธีกรรมประจุพุทธาคมอันเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์จะอุบัติขึ้นรวมสามวาระมหามงคลด้วยกันคือ
พีธีกรรมครั้งที่ 1 ได้ประกอบพิธีเททองแบบโบราณตามตำรับสำนักวัดเขาอ้อ สำเร็จเรียบร้อยไปแล้ว เมื่อวันอาทิยต์ที่ 23 ธันวาคม 2544 ณ สำนักวัดเขาอ้อ โดยมีพ่อท่านกลั่น พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช, อาจารย์ ฉันท์ทิพย์ พันธรักษ์ราชเดช, อาจารย์ ประจวบ คงเหลือ และพระเกจิอาจารย์ชื่อดังสายเขาอ้ออีก 8 รูป ร่วมกันประกอบพิธี ซึ่งในวันพิธีมหามงคลครั้งนี้ ได้เกิดปรากฎการณ์มหัสจรรย์เหนือธรรมชาติบังเกิดขึ้นเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของผู้ที่มาร่วมในพิธีเททองทุกท่าน กล่าวคือก่อนพิธีเททองฝนก็ตกลงมาอย่างหนักราวกับฟ้ารั่วตั้งแต่ช่วงเช้า จวบจนถึงฤกษ์พิธีเททองฝนก็ได้หยุดตกอย่างฉับพลัน จากพิธีเททองแล้วเสร็จก็ถึงพิธีเปิดฤกษ์กดพิมพ์พระผงกลมมงคลจักรวาลสุริยัน - จันทรา และพระขุนแผนนอโม แล้วก็มาถึงพิธีสีผึ้งมงคลจักรวาล จนกระทั่งทุกพิธีกรรมได้ประกอบขึ้นสำเร็จลุล่วงแล้วเพียงครู่เดียว ห่าฝนก็ได้กระหน่ำลงมาอย่างหนักหน่วงยาวนานอีกครั้ง นับว่าได้ฤกษ์พิธีในวันนั้นที่ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นผู้กำหนด คือ ฤกษ์อันเป็นมหามงคลอย่างเอกอุ
พีธีกรรมครั้งที่ 2 ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ พระวิหารหลวงวัดพระธาตุวรวิหาร จ.นครศรีธรรมราช โดย พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้กำหนดฤกษ์พิธีไว้ในวันพฤหัสบดีที่ . พฤษภาคม 2545 เวลา 09.19 น. โดยมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วภาคใต้นั่งปรกบริกรรมภาวนา และ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ประธานฝ่ายจัดสร้างวัตถุมงคลเป็นบัณฑิตเจ้าพิธีร่วมกับ อาจารย์ฉันท์ทิพย์ พันธรักษ์ราชเดช และ อาจารย์ ประจวบ คงเหลือ
พีธีกรรมครั้งที่ 3 ประกอบพิธีเบิกถ้ำปลุกเสกภายในถ้ำฉัตรทัณฑ์ สำนักวัดเขาอ้อ โดย พล.ต.ต.ขันพันธรักษ์ราชเดช ได้กำหนดฤกษ์พิธีไว้ในวันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม 2545 เวลา 09.19 น. โดยมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังสายเขาอ้อนั่งปรกปลุกเสก และ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช, อาจารย์ฉันท์ทิพย์ พันธรักษ์ราชเดช, อาจารย์ ประจวบ คงเหลือ ร่วมกันเป็นบัณฑิตเจ้าพิธีกรรม =====================================
วัดเขาอ้อ พัทลุง สำนักตักศิลาไสยเวทย์และเวชศาสตร์อันเลื่องลือ
ถ้าพูดถึงไสยเวทย์ วิชาอาคม คงกระพันแห่งแดนใต้ ต้องยกให้ที่นี่เลย วัดเขาอ้อ สำนักตักศิลาไสยเวทย์และเวชภัณฑ์ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในภาคใต้
อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนาที่เต็มไปด้วยความเข้มขลัง ลี้ลับ และน่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง
วัดเขาอ้อหรือสำนักเขาอ้อ ตั้งอยู่ที่ตำบลมะกอกเหนือ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุงเป็นวัดเก่าแก่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ในด้านวิชาอาคมมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่เดิมวัดเขาอ้อเคยเป็นสำนักพราหมณ์มาก่อน โดยมีพระเกจิอาจารย์หลายท่านเป็นผู้สืบทอดวิชาไสยเวทย์ ซึ่งเป็นศาสตร์ลับแห่งความแข็งแกร่ง และสมุนไพรการแพทย์แผนโบราณ โดยเชื่อว่าใครได้เข้าร่วมทำพิธีกรรมที่วัดเขาอ้อ ทำให้หนังเหนียว อยู่ยงคงกระพันชาตรี ฟันแทงไม่เข้า แม้แต่ขุนพันธรักษ์ราชเดช ท่านก็เคยเป็นลูกศิษย์ที่วัดเขาอ้อ
พิธีกรรมสำคัญของวัดเขาอ้อ ที่ได้รับการกล่าวขานถึงตำนานความศักดิ์สิทธิ์ เช่น พิธีกรรมรับศิษย์ พิธีกรรมทำน้ำพุทธมนต์ การสะเดาะเคราะห์ พิธีกรรมแช่ว่านยา พิธีกรรมกินว่านยา พิธีกรรมกินข้าวเหนียวดำ พิธีกรรมกินน้ำมันงา และการสร้างพระเครื่องต่างๆ สถานที่นี้จึงเปรียบเสมือนสรรพเวทย์สรรพยาแห่งปักษ์ใต้ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังศรัทธาจากผู้คนทั่วทุกสารทิศ ต่างหลั่งไหลกันมาที่วัดแห่งนี้เป็นจำนวนมาก
วัดเขาอ้อ ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาอ้อ ซึ่งเป็นภูเขาที่มีลักษณะเหมือนช้างนอน มีความสำคัญทางโบราณคดี และประวัติศาสตร์กว่า 1,000 ปี ภายในวัดเขาอ้อ เต็มไปด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์เกจิอาจารย์ พระพุทธรูปเก่าแก่ที่อยู่ในถ้ำฉัททันต์บรรพต องค์ฤๅษี เทพเจ้าต่างๆ รวมถึงการให้เช่าบูชาพระ และความสวยงามของสถาปัตยกรรมวิหาร อุโบสถ
ถ้ำฉัททันต์บรรพต วัดเขาอ้อ เป็นถ้ำโบราณดึกดำบรรพ์หลายล้านปี เมื่อเข้ามาภายในถ้ำรู้สึกร่มเย็น สวยงามอลังการ รับรู้ได้ถึงความเข้มขลังและความศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากถ้ำฉัททันต์บรรพตใช้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมทางความเชื่อด้านไสยเวทย์ การปลุกเสกวัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง และบำเพ็ญศีลภาวนา ซึ่งความมหัศจรรย์ของถ้ำฉัททันต์บรรพต ก็คือหินปูนที่มีรูปร่างคล้ายกับหัวช้าง และภูเขาอ้อที่มีลักษณะเหมือนช้างนอน จึงเป็นที่มาของชื่อถ้ำฉัททันต์บรรพต ซึ่งคำว่า "ฉัททันต์" หมายถึง ชื่อช้างตระกูลหนึ่งในป่าหิมพานต์ ส่วนคำว่า "บรรพต" หมายถึง ภูเขา นั่นเอง
ว่ากันว่าถ้ามาถึงเขาอ้อ ไม่ได้ขึ้นเขาอ้อ ก็เหมือนมาไม่ถึงซึ่งบันไดทางขึ้นมีทั้งหมด 109 ขั้น ระหว่างทางเดินขึ้นไปจะพบกับรางแช่ว่านยา สิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย เช่น พระบรมธาตุเจดีย์น้อย พระพุทธบาทจำลอง หลวงพ่อโต ถ้ำน้อยจำศีลให้ลาภ นอกจากนี้ยังได้สูดอากาศบริสุทธิ์ พร้อมกับชมวิวความสวยงามของทัศนียภาพ
วัดเขาอ้อ ยังมีสถานที่สำคัญบนเขาอ้ออีกหลายแห่ง เช่น ถ้ำไทร ถ้ำท้องพระโรง ซึ่งการมาเที่ยววัดเขาอ้อทุกคนจะได้สัมผัสถึงความขลัง ความน่าพิศวง และธรรมชาติบนเขาอ้อ
วัดเขาอ้อ พัทลุงสำหรับใครที่สนใจมาเที่ยวพัทลุง วัดเขาอ้อ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ตลอดจนเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชน ดังนั้นอย่าลืมแวะมาเที่ยว ทำบุญขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดเขาอ้อกันได้นะครับ
ข้อมูล : วัดเขาอ้อ พัทลุง
=====================================
วัดเขาอ้อ” จ. พัทลุง แหล่งวิทยาคมไสยศาสตร์ ศิษย์ใช้วิชาไสยชนะพม่า เมื่อ 200 กว่าปีก่อน...
วัดเขาอ้อ จังหวัดพัทลุง เป็นแหล่งวิทยาคมทางไสยศาสตร์ที่มีความสำคัญกับชาวพัทลุงและคนไทยมาช้านาน ตำนานเล่าว่าในอดีตพื้นที่แห่งนี้เป็นที่บำเพ็ญพรตของพราหมณ์มาหลายรุ่น เป็นแหล่งถ่ายทอดวิชาให้คณาศิษย์ในเรื่องการปกครองตามตำราธรรมศาสตร์ พิธีกรรมการจัดทัพ รวมถึง ไสยเวท และการแพทย์
วัดเขาอ้อ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1651 หรือหากให้นับก็กว่า 900 ปี เป็นวัดที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในสมัยอยุธยา ก่อนจะถูกทิ้งร้าง จนเมื่อพระมหาอินทราชเดินทางจากเมืองปัตตานีมาจำวัดที่นี่ ก็ได้เป็นเจ้าอาวาส และทำการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่
แต่เมื่อพระมหาอินทราชออกจากวัดไป วัดก็เสื่อมโทรมอีกครั้ง จนท่านปะขาวขุนแก้วเสนาและขุนศรีสมบัติ รวมถึงชาวบ้าน ได้ไปนิมนต์พระมหาคง จากวัดพนางตุง มาเป็นเจ้าอาวาส ที่นี่จึงกลับมาเจริญรุ่งเรือง มีเจ้าอาวาสปกครองเรื่อยมา และเจ้าอาวาสแต่ละรูปล้วนมีความสามารถในเรื่องไสยศาสตร์
การศึกษาไสยศาสตร์ที่วัดเขาอ้อ จังหวัดพัทลุง เป็นที่เลื่องชื่อมาเนิ่นนาน
มีบันทึกไว้ว่าเมื่อ พ.ศ. 2328 พระอาจารย์และศิษย์ที่วัดแห่งนี้ช่วยกันใช้ความรู้ไสยเวท ช่วยให้สยามรอดพ้นจากการถูกกองทัพพม่าโจมตี โดยพระมหาช่วย จากวัดป่าเลไลย์ ชาวบ้านน้ำเลือด ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของวัดเขาอ้อแห่งนี้ ได้ลงตะกรุด ผ้าประเจียด ให้กับไพร่พล แล้วไปคอยรับศึกทัพพม่า
นอกจากนี้ยังได้ทำการผูกหุ่นพยนต์เข้าช่วยเป็นทหารสูงใหญ่จำนวนมาก เมื่อทัพพม่ามาถึงก็เห็นว่ากองกำลังฝ่ายสยามมีเยอะกว่า แม้แท้จริงแล้วจะมีน้อยกว่า เนื่องจากอำนาจของมนตร์และคาถาที่พระมหาช่วยนั่งบริกรรมอยู่เบื้องหลัง จึงทำให้พม่าถอยทัพไป..
ต่อมา พระมหาช่วยจึงได้ลาสิกขา และได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “พระยาทุกขราษฎร์” ผู้ช่วยราชการเมืองพัทลุง ด้วยคุณงามความดีของท่าน จึงมีการสร้างอนุสาวรีย์ให้ท่านที่สามแยก ท่ามิหรำ อ. เมือง จ. พัทลุง
เป็นอีกหนึ่งเรื่องเล่าที่แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญ ความแกร่งกล้า และความสำคัญของวัดหรือสำนักเขาอ้อ ที่มีมาเนิ่นนาน...ขอบคุณข้อมูลจากsilpa-mag.com
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |