ไฮไลท์
เหรียญสมเด็จพระสังฆราช รุ่น 600 ปี วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ ปี 2538 เนื้อทองแดง
พุทธคุณครบทุกด้าน ทั้งเมตตามหานิยม โชคลาภ และความเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน ด้านการค้าขายและทางด้านแคล้วคลาด คุ้มครองป้องกันภยันตรายทั้งปวง
เหรียญสมเด็จพระสังฆราช รุ่น 600 ปี วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ ปี 2538 เนื้อทอแดง หนา 3 มม
เหรียญสมเด็จพระสังฆราช รุ่น 600 ปี วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อทองแดง ด้านหน้าพระรูปสมเด็จฯ ด้านหลังตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ ญสส. เหรียญหนา น่าสะสมมาก ไม่ควรพลาด สำหรับสายตรงทางนี้
จำนวนสร้างประกอบด้วย
1. เนื้อทองคำ
2. เนื้อนวะ สร้างน้อยมากครับ เพียง 300 เหรียญ
3. เนื้อเงิน
4. ทองแดงกะไหล่ทอง
5.ทองแดง
ในคราวงานสมโภช 600 ปี เจดีย์หลวง ได้มีการจัดสร้างเหรียญที่ระลึกขึ้น เป็นเหรียญปั๊มรูปเหมือนสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ขึ้นมา ซึ่งออกแบบแกะลวดลายได้อย่างสวยงามมาก เป็นเหรียญที่มีความหนาถึง 3 มิลลิเมตร ที่ขอบเหรียญมีการตอกอักษรไว้ว่า "600 ปี วัดเจดีย์หลวง จ.เชียง ใหม่"
เป็น "เหรียญดี" น่าเก็บสะสมยิ่ง ทั้งอายุการสร้างที่ผ่านมา 10 กว่าปี ความงดงามของเหรียญ ทั้งพิธีการสร้างที่นับว่าอลังการเป็นอย่างที่สุด ได้ทำพิธีพุทธาภิเษกและสมโภช เมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ.2538 ณ วัดเจดีย์หลวง มีพระเกจิอาจารย์ 600 รูป ร่วมพิธี ครบเครื่องเรื่องปลุกเสก อย่างไม่ต้องตัดต่อภาพโฆษณากัน ความเป็นเหรียญดีที่ว่านี้ หมายถึง..เจตจำนงของการสร้างนั้นดี มวลสารครบถ้วน กระทั่งพิธีการเข้มขลัง เมื่อครบถ้วนกระบวนการเช่นนี้ ย่อมเป็นวัตถุมงคลที่ดี เช่นเหรียญปั๊มรูปเหมือนสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ
โดยมีสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงเป็นประธานในพิธี
พิธีมหาพุทธาภิเษกและสมโภช เมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ.2538 ณ วัดเจดีย์หลวง พระเกจิอาจารย์ 600 รูป (ทั่วประเทศ) ร่วมพิธีปลุกเสก อาทิเช่น:-
1.สมเด็จพระพุทธปาพจนบดี วัดราชบพิตร กทม.
2. สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ กทม.
3. พระธรรมปัญญาบดี วัดปากน้ำ กทม.
4.พระธรรมสิริสารเวที วัดบวรนิเวศ กทม.
5.พระธรรมวราลังการ (ลป.ศรีจันทร์ ) วัดศรีสุทธาวาส เลย
6.พระเทพสิทธิญาณรังสี (หลวงตาจันทร์) วัดป่าชัยรังสี สมุทรสาคร
7.พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ) วัดป่าสาลวัล นครราชสีมา
8.พระราชอุดมมงคล (หลวงพ่ออุตตมะ) วัดวังก์วิเวกการาม กาญจนบุรี
9. พระราชสังวรอุดม (หลวงปู่ศรี มหาวีโร) วัดประชาคมวนาราม ร้อยเอ็ด
10.พระวิมลธรรมญาณเถร (หลวงปู่ทองบัว) วัดโรงธรรมสามัคคี เชียงใหม่
11.พระวิสุทธิญาณเถร ( หลวงพ่อสมชาย) วัดเขาสุกิม จันทบุรี
12. พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ) วัดอรัญญบรรพต หนองคาย
13.พระญาณทีปปาจารย์ (หลวงปู่ท่อน) วัดศรีอภัยวัน เลย
14.พระญาณวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ) วัดบ้านไร่ นครราชสีมา
15.พระญาณวิศิษฐ์ (หลวงพ่อทอง) วัดอโศการาม สมุทรปราการ
16.พระสุนทรธรรมากร (หลวง ปู่คำพันธ์) วัดธาตุมหาชัย นครพนม
17.พระภาวนาพิศาล (พระอาจารย์ถาวร) วัดปทุมวนาราม กทม.
18.พระอุดมประชานาถ (หลวงพ่อเปิ่น) วัดบางพระ นครปฐม
19. พระเทพสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
20.พระปัญญาพิศาลเถร (พระอาจารย์ไพบูลย์) วัดอนาลโย พะเยา
21.พระครูวิจิตรกิตติคุณ (หลวงพ่อเปลื้อง) วัดบางแก้วผดุงธรรม พัทลุง
22.พระครูภาวนาทัศนวิสุทธิ (หลวงปู่แว่น) วัดถ้ำพระสบาย ลำปาง
23.พระครูกการุณธรรมนิวาส (หลวงปู่หลวง) วัดป่าสำราญนิวาส ลำปาง
24.พระครูสุภัทรศิลคุณ (ครูบาดวงดี) วัดท่าจำปี เชียงใหม่
25.พระครูพัฒนกิจจานุรักษ์ (ครูบาชัยวงศ์) วัดพระบาทหห้วยต้ม ลำพูน
26.พระครูชัยวงศ์วิวัฒน์ (ครูบาน้อย) วัดบ้านปง เชียงใหม่
27. พระครูนิมมานกการโสภณ (ครูบาสร้อย) วัดมงคลคีรีเขตสายเมือง ตาก
28.ครูบาสามีแสงหล้า วัดพระธาตุสายเมือง พม่า
29.ครูบาบุญชุ่ม วัดพระธาตุดอนเรือง พม่า
30.พระครูเกษมวรกิจ (หลวงพ่อวิชัย) วัดถ้ำผาจม เชียงราย
31.หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ประจวบ ฯ
32.พระครูสิงหวิชัย วัดฟ้าฮ่าม เชียงใหม่
33. พระครูวรวุฒิคุณ (ครูบาอิน) วัดฟ้าหลั่ง เชียงใหม่
34.พระครูพิศิษฐ์สังฆการ (ครูบาผัด) วัดศรีดอนมูล เชียงใหม่
35.พระสุพรหมยานเถร (ครูบาทอง) วัดพระธาตุศรีจอมทอง เชียงใหม่
36.พระราชสุทธิญาณมงคล (หลวงพ่อจรัญ) วัดอัมพวัน สิงห์บุรี
37.พระครูสุนทรธรรมกิจ (หลวงพ่อหยอด) วัดแก้วเจริญ สมุทรสงคราม
38. หลวงปู่บุญ วัดบ้านนา ระยอง
39. หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า ระยอง
40.พระราชมงคลญาณ วัดปากน้ำ กทม.
41.พระภาวนาวิสุทธาจารย์ วัดไตรมิตร กทม.
42.หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต วัดถ้ำกลองเพล อุดร ฯ
43.หลวงปู่มหาปราโมทย์ ปราโมชโช วัดป่านิโครธาราม อุดร
44.พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญวิเวกเชียงใหม่
45.พระครูปราโมทย์ธรรมธาดา (หลวงปู่หลอด ) วัดใหม่เสนานิคม กทม.
46.หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโม วัดป่าชุมพล อุดรธานี
47.หลวงปู่ทิม วัดพระขาว อยุธยา
48.หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย อยุธยา
49.หลวงพ่อวิริยังค์ วัดธรรมมงคล
และอีกมากมายหลายรูป รวมทั้งสิ้น 600 รูป
............................
ประวัติวัดเจดีย์หลวง มีชื่อเรียกหลายชื่อ ได้แก่ ราช กุฏาคาร,วัดโชติการาม มีพระเจดีย์องค์ใหญ่ที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าแสนเมืองมา กษัตริย์พระองค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์มังราย เพื่ออุทิศส่วนกุศลถวายแด่พญากือนา พระราชบิดา แต่ไม่ปรากฏปีที่สร้างแน่ชัด แต่สันนิษฐานกันว่าวัดแห่งนี้น่าจะสร้างในปี พ.ศ.1934 หากสร้างไม่ทันเสร็จก็สิ้นพระชนม์เสียก่อน พระมเหสีได้ควบคุมการก่อสร้างต่อมาจนแล้วเสร็จในรัชสมัยพญาสามฝั่งแกน เรียกกันว่า กู่หลวง แต่ครั้งนั้นสร้างไม่สูงใหญ่เท่าใดนัก
ในรัชสมัยพญาติโลกราช จึงโปรดเกล้าฯ ให้หมื่นด้ามพร้าคตเป็นนายช่างใหญ่ ดำเนินการซ่อมเสริมสร้างต่อสูงถึง 45 วา แล้วอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานที่มุขด้านตะวันออกขององค์เจดีย์ เป็นระยะเวลานานถึง 80 ปี คือ ระหว่างปี พ.ศ.2011-2091 หากแต่ในปี พ.ศ.2088 ในสมัยพระมหาเทวีจิรประภา ยอดเจดีย์หลวงได้หักลงมา เนื่องเพราะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่
ในปี พ.ศ.2533-2535 กรมศิลปากรได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์เจดีย์หลวงขึ้น นอกจากนี้ วัดเจดีย์หลวงยังเป็นที่ตั้งของเสาอินทขีล ซึ่งเดิมตั้งอยู่ที่วัดสะดือเมือง เมื่อสมัยพระเจ้ากาวิละฟื้นฟูเมืองเชียงใหม่ ได้ย้ายเสาอินทขีลมาไว้ที่วัดเจดีย์หลวง พร้อมกับสร้างวิหารครอบและปลูกต้นยางคู่ไว้ข้างวิหาร กับสร้างยักษ์ 2 ตนให้เฝ้ารักษาเสาอินทขีล
ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า
เหรียญสมเด็จพระสังฆราช รุ่น 600 ปี วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ ปี 2538 เนื้อทองแดง
 
พุทธคุณครบทุกด้าน ทั้งเมตตามหานิยม โชคลาภ และความเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน ด้านการค้าขายและทางด้านแคล้วคลาด คุ้มครองป้องกันภยันตรายทั้งปวง
 
เหรียญสมเด็จพระสังฆราช รุ่น 600 ปี วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ ปี 2538 เนื้อทอแดง หนา 3 มม 
 
เหรียญสมเด็จพระสังฆราช รุ่น 600 ปี วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อทองแดง ด้านหน้าพระรูปสมเด็จฯ ด้านหลังตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ ญสส. เหรียญหนา น่าสะสมมาก ไม่ควรพลาด สำหรับสายตรงทางนี้
 
จำนวนสร้างประกอบด้วย
 
1. เนื้อทองคำ
 
2. เนื้อนวะ สร้างน้อยมากครับ เพียง 300 เหรียญ
 
3. เนื้อเงิน
 
4. ทองแดงกะไหล่ทอง
 
5.ทองแดง
 
ในคราวงานสมโภช 600 ปี เจดีย์หลวง ได้มีการจัดสร้างเหรียญที่ระลึกขึ้น เป็นเหรียญปั๊มรูปเหมือนสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ขึ้นมา ซึ่งออกแบบแกะลวดลายได้อย่างสวยงามมาก เป็นเหรียญที่มีความหนาถึง 3 มิลลิเมตร ที่ขอบเหรียญมีการตอกอักษรไว้ว่า "600 ปี วัดเจดีย์หลวง จ.เชียง ใหม่"
 
เป็น "เหรียญดี" น่าเก็บสะสมยิ่ง ทั้งอายุการสร้างที่ผ่านมา 10 กว่าปี ความงดงามของเหรียญ ทั้งพิธีการสร้างที่นับว่าอลังการเป็นอย่างที่สุด ได้ทำพิธีพุทธาภิเษกและสมโภช เมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ.2538 ณ วัดเจดีย์หลวง มีพระเกจิอาจารย์ 600 รูป ร่วมพิธี ครบเครื่องเรื่องปลุกเสก อย่างไม่ต้องตัดต่อภาพโฆษณากัน ความเป็นเหรียญดีที่ว่านี้ หมายถึง..เจตจำนงของการสร้างนั้นดี มวลสารครบถ้วน กระทั่งพิธีการเข้มขลัง เมื่อครบถ้วนกระบวนการเช่นนี้ ย่อมเป็นวัตถุมงคลที่ดี เช่นเหรียญปั๊มรูปเหมือนสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ
 
โดยมีสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงเป็นประธานในพิธี
 
พิธีมหาพุทธาภิเษกและสมโภช เมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ.2538 ณ วัดเจดีย์หลวง พระเกจิอาจารย์ 600 รูป (ทั่วประเทศ) ร่วมพิธีปลุกเสก  อาทิเช่น:-
1.สมเด็จพระพุทธปาพจนบดี วัดราชบพิตร กทม.
2. สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ กทม.
3. พระธรรมปัญญาบดี วัดปากน้ำ กทม.
4.พระธรรมสิริสารเวที วัดบวรนิเวศ กทม.
5.พระธรรมวราลังการ (ลป.ศรีจันทร์ ) วัดศรีสุทธาวาส เลย
6.พระเทพสิทธิญาณรังสี (หลวงตาจันทร์) วัดป่าชัยรังสี สมุทรสาคร
7.พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ) วัดป่าสาลวัล นครราชสีมา
8.พระราชอุดมมงคล (หลวงพ่ออุตตมะ) วัดวังก์วิเวกการาม กาญจนบุรี
9. พระราชสังวรอุดม (หลวงปู่ศรี มหาวีโร) วัดประชาคมวนาราม ร้อยเอ็ด
10.พระวิมลธรรมญาณเถร (หลวงปู่ทองบัว) วัดโรงธรรมสามัคคี เชียงใหม่
11.พระวิสุทธิญาณเถร ( หลวงพ่อสมชาย) วัดเขาสุกิม จันทบุรี
12. พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ) วัดอรัญญบรรพต หนองคาย
13.พระญาณทีปปาจารย์ (หลวงปู่ท่อน) วัดศรีอภัยวัน เลย
14.พระญาณวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ) วัดบ้านไร่ นครราชสีมา
15.พระญาณวิศิษฐ์ (หลวงพ่อทอง) วัดอโศการาม สมุทรปราการ
16.พระสุนทรธรรมากร (หลวง ปู่คำพันธ์) วัดธาตุมหาชัย นครพนม
17.พระภาวนาพิศาล (พระอาจารย์ถาวร) วัดปทุมวนาราม กทม.
18.พระอุดมประชานาถ (หลวงพ่อเปิ่น) วัดบางพระ นครปฐม
19. พระเทพสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
20.พระปัญญาพิศาลเถร (พระอาจารย์ไพบูลย์) วัดอนาลโย พะเยา
21.พระครูวิจิตรกิตติคุณ (หลวงพ่อเปลื้อง) วัดบางแก้วผดุงธรรม พัทลุง
22.พระครูภาวนาทัศนวิสุทธิ (หลวงปู่แว่น) วัดถ้ำพระสบาย ลำปาง
23.พระครูกการุณธรรมนิวาส (หลวงปู่หลวง) วัดป่าสำราญนิวาส ลำปาง
24.พระครูสุภัทรศิลคุณ (ครูบาดวงดี) วัดท่าจำปี เชียงใหม่
25.พระครูพัฒนกิจจานุรักษ์ (ครูบาชัยวงศ์) วัดพระบาทหห้วยต้ม ลำพูน
26.พระครูชัยวงศ์วิวัฒน์ (ครูบาน้อย) วัดบ้านปง เชียงใหม่
27. พระครูนิมมานกการโสภณ (ครูบาสร้อย) วัดมงคลคีรีเขตสายเมือง ตาก
28.ครูบาสามีแสงหล้า วัดพระธาตุสายเมือง พม่า
29.ครูบาบุญชุ่ม วัดพระธาตุดอนเรือง พม่า
30.พระครูเกษมวรกิจ (หลวงพ่อวิชัย) วัดถ้ำผาจม เชียงราย
31.หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ประจวบ ฯ
32.พระครูสิงหวิชัย วัดฟ้าฮ่าม เชียงใหม่
33. พระครูวรวุฒิคุณ (ครูบาอิน) วัดฟ้าหลั่ง เชียงใหม่
34.พระครูพิศิษฐ์สังฆการ (ครูบาผัด) วัดศรีดอนมูล เชียงใหม่
35.พระสุพรหมยานเถร (ครูบาทอง) วัดพระธาตุศรีจอมทอง เชียงใหม่
36.พระราชสุทธิญาณมงคล (หลวงพ่อจรัญ) วัดอัมพวัน สิงห์บุรี
37.พระครูสุนทรธรรมกิจ (หลวงพ่อหยอด) วัดแก้วเจริญ สมุทรสงคราม
38. หลวงปู่บุญ วัดบ้านนา ระยอง
39. หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า ระยอง
40.พระราชมงคลญาณ วัดปากน้ำ กทม.
41.พระภาวนาวิสุทธาจารย์ วัดไตรมิตร กทม.
42.หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต วัดถ้ำกลองเพล อุดร ฯ
43.หลวงปู่มหาปราโมทย์ ปราโมชโช วัดป่านิโครธาราม อุดร
44.พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญวิเวกเชียงใหม่
45.พระครูปราโมทย์ธรรมธาดา (หลวงปู่หลอด ) วัดใหม่เสนานิคม กทม.
46.หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโม วัดป่าชุมพล อุดรธานี
47.หลวงปู่ทิม วัดพระขาว อยุธยา
48.หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย อยุธยา
49.หลวงพ่อวิริยังค์ วัดธรรมมงคล
และอีกมากมายหลายรูป รวมทั้งสิ้น 600 รูป
............................
ประวัติวัดเจดีย์หลวง มีชื่อเรียกหลายชื่อ ได้แก่ ราช กุฏาคาร,วัดโชติการาม มีพระเจดีย์องค์ใหญ่ที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าแสนเมืองมา กษัตริย์พระองค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์มังราย เพื่ออุทิศส่วนกุศลถวายแด่พญากือนา พระราชบิดา แต่ไม่ปรากฏปีที่สร้างแน่ชัด แต่สันนิษฐานกันว่าวัดแห่งนี้น่าจะสร้างในปี พ.ศ.1934 หากสร้างไม่ทันเสร็จก็สิ้นพระชนม์เสียก่อน พระมเหสีได้ควบคุมการก่อสร้างต่อมาจนแล้วเสร็จในรัชสมัยพญาสามฝั่งแกน เรียกกันว่า กู่หลวง แต่ครั้งนั้นสร้างไม่สูงใหญ่เท่าใดนัก
 
ในรัชสมัยพญาติโลกราช จึงโปรดเกล้าฯ ให้หมื่นด้ามพร้าคตเป็นนายช่างใหญ่ ดำเนินการซ่อมเสริมสร้างต่อสูงถึง 45 วา แล้วอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานที่มุขด้านตะวันออกขององค์เจดีย์ เป็นระยะเวลานานถึง 80 ปี คือ ระหว่างปี พ.ศ.2011-2091 หากแต่ในปี พ.ศ.2088 ในสมัยพระมหาเทวีจิรประภา ยอดเจดีย์หลวงได้หักลงมา เนื่องเพราะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่
 
ในปี พ.ศ.2533-2535 กรมศิลปากรได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์เจดีย์หลวงขึ้น นอกจากนี้ วัดเจดีย์หลวงยังเป็นที่ตั้งของเสาอินทขีล ซึ่งเดิมตั้งอยู่ที่วัดสะดือเมือง เมื่อสมัยพระเจ้ากาวิละฟื้นฟูเมืองเชียงใหม่ ได้ย้ายเสาอินทขีลมาไว้ที่วัดเจดีย์หลวง พร้อมกับสร้างวิหารครอบและปลูกต้นยางคู่ไว้ข้างวิหาร กับสร้างยักษ์ 2 ตนให้เฝ้ารักษาเสาอินทขีล

 
 
=======www.thanyatipamulet.com=======
 
 
สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) สมเด็จพระสังฆราช พระมหาเถระผู้ทรงคุณธรรม
 
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ทรงได้รับการยกย่องให้เป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์แรกของไทยที่มีพระชันษาถึง 100 ปี ทรงเป็นพระมหาเถระผู้ทรงคุณธรรม 
และทรงปฏิบัติพระศาสนกิจในด้านต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์แก่คณะสงฆ์ พระพุทธศาสนา และประเทศชาติมาอย่างต่อเนื่อง
ทรงมีพระกรณียกิจสำคัญมากมาย โดยเฉพาะการส่งเสริมการศึกษาพระพุทธศาสนาและเป็นประมุขแห่งศาสนจักรในระดับสากล. 
 
พระอริยสงฆ์ กล่าวถึง เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวรฯ
“หลวงตาอาจจะมีบารมีทางด้านคุ้มครองรักษาประเทศชาติไทยเราได้ แต่หากเป็นด้านค้ำจุนพระศาสนาแล้ว สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศ จะมีบารมีมากกว่าเสียอีกนะ"
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
 
“สังฆราชองค์นี้ ดีที่สุด”
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
 
“สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศนั้น ท่านได้บรรลุถึงคุณธรรมอันเที่ยงแท้ต่อมรรคผลนิพพานแล้วนะ"
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
 
"สมเด็จพระสังฆราชเป็นพระที่ควรบูชาอย่างยิ่ง"
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
 
“พี่ชายคนโตของข้าพเจ้า”
องค์ทะไล ลามะ
 
"คุณธรรม ของสมเด็จวัดบวรนั้น พออยู่พอกินแล้วล่ะ"
หลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ
 
"มาทำไมตั้งไกล ลำบากลำบนถึงที่นี่ อยู่กรุงเทพ ถ้าอยากกราบพระดีแล้ว ก็สมเด็จวัดบวรนั่นแหละ"
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
 
...........
¤ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช พระอรหันต์กลางใจเมือง ¤
--
ข้าพเจ้าเคยรับฟังศิษย์ผู้หนึ่งชื่อ คุณกก ถามหลวงปู่ว่า (ราวปี พ.ศ. ๒๕๓๐กว่า) ปัจจุบันมีพระอรหันต์อยู่ในเมืองหลวงหรือไม่  หลวงปู่ท่านตอบทันทีว่า 
--   
หลวงปู่เดินหน :
**ยังมีอยู่หากอยากไปกราบให้ไปที่ วัดบวร ฯ สมเด็จพระสังฆราชนั่นไง  ท่านเป็นพระอรหันต์สิ้นเชื้อเกิดแล้ว  เป็นที่รู้กันในหมู่นักวิปัสสนาจารย์และหลวงปู่รับรองว่า  ท่านเป็นพระอรหันต์ขั้นสูง  มีบารมีสูงส่งกราบไหว้ได้สนิทใจ  ในยุครัตนะโกสินทร์นี้มีพระสังฆราชสำคัญอยู่สองพระองค์  เป็นผู้ที่มีญาณวิถีแก่กล้าบารมีสูงเคร่งครัดในการเจริญกรรมฐาน  คือ  
สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช  (สุก ญาณสังวร)
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช  (เจริญ สุวฑฺฒโน)
สมเด็จพระสังฆราชทั้งสองพระองค์นี้เป็นทรงคุณทางจิตสูง  เป็นพระผู้มากบารมีธรรมสูงส่ง **
 
=======www.thanyatipamulet.com=======
 
🔹((พระประวัติ สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน))🔹
 
 สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
 
เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (สุวัฑฒนมหาเถระ) มีพระนามเดิมว่า เจริญ นามสกุล คชวัตร ทรงมีพระชาติภูมิ ณ จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๕๖ ทรงบรรพชาเป็นสามเณรเมื่อพระชนมายุ ๑๔ พรรษา ณ วัดเทวสังฆาราม กาญจนบุรี แล้วเข้ามาอยู่ศึกษาพระปริยัติธรรม ณ วัดบวรนิเวศวิหาร จนพระชนมายุครบอุปสมบท และทรงอุปสมบท ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๔๗๖ โดยสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวง วชิรญาณวงศ์ ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ประทับอยู่ศึกษา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ตลอดมาจนกระทั่งสอบได้เป็นเปรียญธรรม ๙ ประโยค เมื่อ พุทธศักราช ๒๔๘๔ เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ทรงดำรงสมณศักดิ์มาโดยลำดับดังนี้ ทรงเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ พระราชาคณะชั้นราช และพระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามที่ พระโศภณคณาภรณ์ ทรงเป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมวราภรณ์ ทรงเป็นพระราชาคณะชั้นเจ้าคณะรองที่ พระสาสนโสภณ ทรงเป็นสมเด็จพระราชาคณะที่ 
 
สมเด็จพระญาณสังวร และทรงได้รับพระราชทานสถาปนาเป็น สมเด็จพระสังฆราช ในราชทินนามที่ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๓๒ นับเป็นสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นผู้ใคร่ในการศึกษา ทรงมีพระอัธยาศัยใฝ่รู้ใฝ่เรียนมาตั้งแต่ทรงเป็นพระเปรียญ โดยเฉพาะในด้านภาษา ทรงศึกษาภาษาต่าง ๆ เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน จีน และ สันสกฤต จนสามารถใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างดี กระทั่งเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ พระอุปัชฌาย์ของพระองค์ทรงเห็นว่า จะเพลินในการศึกษามากไป วันหนึ่งทรงเตือนว่า ควรทำกรรมฐานเสียบ้าง เป็นเหตุให้พระองค์ทรงเริ่มทำกรรมฐานมาแต่บัดนั้น และทำตลอดมาอย่างต่อเนื่อง จึงทรงเป็นพระมหาเถระที่ทรงภูมิธรรมทั้งด้านปริยัติและด้านปฏิบัติ เนื่องจากทรงรอบรู้ภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี 
 
สมเด็จพระสังฆราชจึงทรงศึกษาหาความรู้สมัยใหม่ด้วยการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ ทั้งทางคดีโลกและคดีธรรม เป็นเหตุให้ทรงมีทัศนะกว้างขวาง ทันต่อเหตุการณ์บ้านเมือง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการสั่งสอนและเผยแผ่พระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก เป็นเหตุให้ทรงนิพนธ์หนังสือทางพระพุทธศาสนาได้อย่างสมสมัย เหมาะแก่บุคคลและสถานการณ์ในยุคปัจจุบัน และทรงสั่งสอนพระพุทธศาสนาทั้งแก่ชาวไทยและชาวต่างประเทศ ใน ด้านการศึกษา สมเด็จพระสังฆราช ได้ทรงมีพระดำริทางการศึกษาที่กว้างไกล ทรงมีส่วนร่วมในการก่อตั้งมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งแรกของไทย คือมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยมาแต่ต้น ทรงริเริ่มให้มีสำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อฝึกอบรมพระธรรมทูตไทยที่จะไปปฏิบัติศาสนกิจในต่างประเทศ ทรงเป็นพระมหาเถระไทยรูปแรกที่ได้ดำเนินงานพระธรรมทูตในต่างประเทศอย่าง เป็นรูปธรรม โดยเริ่มจากทรงเป็นประธานกรรมการอำนวยการสำนักฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศเป็นรูปแรก เสด็จไปเป็นประธานสงฆ์ในพิธีเปิดวัดไทยแห่งแรกในทวีปยุโรป คือวัดพุทธปทีป ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร 
 
ทรงนำพระพุทธศาสนาเถรวาทไปสู่ทวีปออสเตรเลียเป็นครั้งแรก โดยการสร้างวัดพุทธรังษีขึ้น ณ นครซิดนีย์ ทรงให้กำเนิดคณะสงฆ์เถรวาทขึ้นในประเทศอินโดนีเซีย ทรงช่วยฟื้นฟูพระพุทธศาสนาเถรวาทในประเทศเนปาล โดยเสด็จไปให้การบรรพชาแก่ศากยะกุลบุตรในประเทศเนปาลเป็นครั้งแรก ทำให้ประเพณีการบวชฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่งในเนปาลยุคปัจจุบัน ทรงเจริญศาสนไมตรีกับองค์ทะไล ลามะ กระทั่งเป็นที่ทรงคุ้นเคยและได้วิสาสะกันหลายครั้ง และทรงเป็นพระประมุขแห่งศาสนจักรพระองค์แรกที่ได้รับทูลเชิญให้เสด็จเยือน สาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการในประวัติศาสตร์จีน 
 
เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจทั้งภายในประเทศและต่างประเทศเป็นเอนกประการ ทรงเป็นนักวิชาการและนักวิเคราะห์ธรรมตามหลักการของพระพุทธศาสนา ที่เรียกว่า ธัมมวิจยะ หรือธัมมวิจัย เพื่อแสดงให้เห็นว่า พุทธธรรมนั้นสามารถประยุกต์ใช้กับกิจกรรมของชีวิตได้ทุกระดับ ตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับสูงสุด 
 
ทรงมีผลงานด้านพระนิพนธ์ทั้งที่เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษจำนวนกว่า ๑๐๐ เรื่อง ประกอบด้วยพระนิพนธ์แสดงคำสอนทางพระพุทธศาสนาทั้งระดับต้น ระดับกลาง และระดับสูง รวมถึงความเรียงเชิงศาสนคดีอีกจำนวนมาก ซึ่งล้วนมีคุณค่าควรแก่การศึกษา สถาบันการศึกษาของชาติหลายแห่งตระหนักถึงพระปรีชาสามารถและคุณค่าแห่งงานพระ นิพนธ์ ตลอดถึงพระกรณียกิจที่ทรงปฏิบัติ จึงได้ทูลถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์เป็นการเทิดพระเกียรติหลายสาขา นอกจากพระกรณียกิจตามหน้าที่ตำแหน่งแล้วสมเด็จพระสังฆราชยังได้ทรงปฏิบัติหน้าที่พิเศษ อันมีความสำคัญยิ่งอีกหลายวาระ กล่าวคือ ทรงเป็นพระอภิบาลในพระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน เมื่อครั้งเสด็จออกทรงพระผนวช เมื่อพุทธศักราช ๒๔๙๙ พร้อมทั้งทรงถวายความรู้ในพระธรรมวินัยตลอดระยะเวลาแห่งการทรงพระผนวช ทรงเป็นพระราชกรรมวาจาจารย์ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อครั้งเสด็จออกทรงผนวชเป็นพระภิกษุ เมื่อพุทธศักราช ๒๕๒๑ เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ทรงดำรงตำแหน่งหน้าที่สำคัญทางการคณะสงฆ์ในด้านต่าง ๆ มาเป็นลำดับ เป็นเหตุให้ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจเป็นประโยชน์ต่อพระศาสนา ประเทศชาติ และประชาชน เป็นเอนกประการ นับได้ว่าทรงเป็นพระมหาเถระที่ทรงเพียบพร้อมด้วยอัตตสมบัติและปรหิตปฏิบัติ และทรงเป็นครุฐานียบุคคลของชาติ ทั้งในด้านพุทธจักรและอาณาจักร
 
ขอบคุณข้อมูลจาก kroobannok.com/62439
 
------------www.thanyatipamulet.com========LINE - @797rckiw----------
 
เหรียญสมเด็จพระสังฆราช รุ่น 600 ปี วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ ปี 2538 เนื้อทองแดง (พระเกจิอาจารย์ 600 รูป ทั่วประเทศ ร่วมพิธีปลุกเสก)
เหรียญสมเด็จพระสังฆราช รุ่น 600 ปี วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ ปี 2538 เนื้อทองแดง (พระเกจิอาจารย์ 600 รูป ทั่วประเทศ ร่วมพิธีปลุกเสก)
เหรียญสมเด็จพระสังฆราช รุ่น 600 ปี วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ ปี 2538 เนื้อทองแดง (พระเกจิอาจารย์ 600 รูป ทั่วประเทศ ร่วมพิธีปลุกเสก)
เหรียญสมเด็จพระสังฆราช รุ่น 600 ปี วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ ปี 2538 เนื้อทองแดง (พระเกจิอาจารย์ 600 รูป ทั่วประเทศ ร่วมพิธีปลุกเสก)
เหรียญสมเด็จพระสังฆราช รุ่น 600 ปี วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ ปี 2538 เนื้อทองแดง (พระเกจิอาจารย์ 600 รูป ทั่วประเทศ ร่วมพิธีปลุกเสก)
เหรียญสมเด็จพระสังฆราช รุ่น 600 ปี วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ ปี 2538 เนื้อทองแดง (พระเกจิอาจารย์ 600 รูป ทั่วประเทศ ร่วมพิธีปลุกเสก)
เหรียญสมเด็จพระสังฆราช รุ่น 600 ปี วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ ปี 2538 เนื้อทองแดง (พระเกจิอาจารย์ 600 รูป ทั่วประเทศ ร่วมพิธีปลุกเสก)
เหรียญสมเด็จพระสังฆราช รุ่น 600 ปี วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ ปี 2538 เนื้อทองแดง (พระเกจิอาจารย์ 600 รูป ทั่วประเทศ ร่วมพิธีปลุกเสก)
เหรียญสมเด็จพระสังฆราช รุ่น 600 ปี วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ ปี 2538 เนื้อทองแดง (พระเกจิอาจารย์ 600 รูป ทั่วประเทศ ร่วมพิธีปลุกเสก)
เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขาหน้าโรงพยาบาลมหาราช เชียงใหม่ ออมทรัพย์
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านธัญทิพย์ อมูเลท
ธัญทิพย์ อมูเลท
บริการให้เช่า พระเครื่อง และเครื่องรางของมงคล ทั่วไทย
เบอร์โทร : 0629966394
อีเมล : thanyatip4289@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม