| จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
| {{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
| คงเหลือ | 1 ชิ้น |
| จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
|
| คุยกับร้านค้า | |
| {{ size_chart_name }} |
|
| หมวดหมู่ | พระกริ่ง พระชัยวัฒน์ พระสมเด็จ พระพุทธ |
| สภาพ | สินค้าใหม่ |
| เพิ่มเติม | |
| สภาพ | สินค้ามือสอง |
| เกรด | |
| สถานะสินค้า | |
| ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
| เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
| ไฮไลท์ |
พระนาคปรก (พระผงฉลองพระใหญ่) หลวงปู่หลวง วัดสามัคคีบุญญาราม จ.ลำปาง ปี2550
|
| ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
| รายละเอียดสินค้า |
พระนาคปรก (พระผงฉลองพระใหญ่) หลวงปู่หลวง วัดสามัคคีบุญญาราม จ.ลำปาง ปี2550
(( หลวงปู่หลวง กตปุญโญ )) วัดสามัคคีบุญญาราม จ.ลำปาง
++ สายพระกรรมฐาน ++ ท่านเป็นพระกรรมฐานสาย (หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)
พุทธคุณของพระนาคปรกครอบคลุมด้าน คุ้มครองป้องกันภัย จากอันตรายและโรคภัย, เสริมดวงชะตา ให้มั่นคงและราบรื่น, เมตตามหานิยม ทำให้คนรักใคร่, โชคลาภ ช่วยให้การงานและธุรกิจเจริญรุ่งเรือง
คาถาบูชาพระนาคปรก นะโม 3 จบ ยะโตหัง ถะคินิ อะริยายะ ชาติยา ชาโต นาภิชานามิ สัญจิจจะ ปาณัง ชีวิตา โวโรเปตา เตนะ สัจเจนะ โสตถิ เต โหตุ โสตถิ คัพภัสสะ ฯ
============================================ หลวงปู่หลวง กตปุญโญ วัดป่าสำราญนิวาส จ.ลำปาง “พระครู การุณยธรรมนิวาส” หรือ “หลวงปู่หลวง กตปุญโญ” พระสายปฏิบัติหนึ่งในศิษย์ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ใหญ่สายพระป่า นามเดิมชื่อ หลวง สอนวงค์ษา เกิดเมื่อวันที่ 27 ก.พ.2464 ตรงกับปีระกา ที่บ้านบัว หมู่ที่ 5 ต.สว่าง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เนื่องจากเป็นพี่ชายคนโต จึงต้องรับภาระช่วยพ่อ-แม่ทำไร่นาและ ดูแลน้องๆ อีก 5 คน เมื่ออายุได้ 7-8 ขวบ ไปปรนนิบัติหลวงลุงซึ่งเป็นพระมหานิกายอยู่วัดใกล้บ้าน พร้อมกับเรียนหนังสือไปด้วย จึงมีจิตใจโน้มเอียงทางพุทธศาสนา จนได้อ่านหนังสือพระไตรสรณคมน์ของพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม จนมีความเลื่อมใสมากขึ้น พออายุ 22 ปี เข้าพิธีอุปสมบทในสังกัดพระมหานิกายเมื่อปีพ.ศ.2485 ที่พัทธสีมา วัดศรีรัตนาราม อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ได้รับฉายา “ขันติพโล” มีความหมั่นเพียร ขยันอดทน ทั้งปริยัติและปฏิบัติจนสอบได้นักธรรมชั้นโท ระยะนั้นหลวงปู่สิม พุทธจาโร กลับไปเยี่ยมบ้านเกิด พระหลวงได้ไปกราบและศึกษาข้อวัตรปฏิบัติปฏิปทา ตลอดจนได้อุปัฏฐากรับใช้หลวงปู่สิมอยู่หลายเดือน ครั้งหนึ่งพระหลวงไปนมัสการหลวงปู่แว่น ธนปาโล ที่ อ.เมือง จ.สกลนคร จึงมีโอกาสพบหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ฟังพระธรรมเทศนาคำสั่งสอนของหลวงปู่มั่นจนซาบซึ้ง จึงเดินทางแสวงหาครูบาอาจารย์ทาง ภาคเหนือ เข้าไปกราบนมัสการหลวงปู่สิม พุทธจาโร ที่วัดสันติธรรม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอญัตติใหม่ เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2493 ที่ วัดเชตวัน อ.เมือง จ.ลำปาง โดยมีพระครู ธรรมาภิวงศ์เป็นพระอุปัชฌายะ หลวงปู่แว่น ธนปาโล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาใหม่ว่า “กตปุญโญ” เดินทางธุดงค์ติดตามครูบาอาจารย์หลายรูป เช่น หลวงปู่ชอบ ฐานสโม, หลวงปู่สิม พุทธจาโร, หลวงปู่แว่น ธนปาโล ไปในหลายจังหวัดเขตภาคเหนือ เพื่อฝึกปฏิบัติอบรมกัมมัฏฐานภาวนา จนได้รับแต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดป่าสำราญนิวาสในปีพ.ศ.2506 ในปีเดียวกันเป็นเจ้าคณะตำบล อ.เกาะคา ต่อมาในปีพ.ศ.2509 ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูการุณยธรรมนิวาส และปีพ.ศ.2511 เป็นพระอุปัชฌาย์ ดูแลรักษาพัฒนาวัดป่าสำราญนิวาสทั้งด้านศาสนสถานและศาสนวัตถุ ตลอดทั้งด้านจิตใจของสาธุชน เทศนาสั่งสอนอบรมศรัทธาญาติโยมทั้งทางใกล้และทางไกลให้ประพฤติปฏิบัติตั้งมั่นอยู่ในทาน ศีล สมาธิ ภาวนากัมมัฏฐานโดยไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก เป็นพระเถระผู้ใหญ่ที่มีปฏิปทาอันงดงาม เปี่ยมล้นด้วยเมตตาธรรม เป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาของสาธุชน ขอบคุณข้อมูลจาก khaosod.co.th ============================================ " พระปางนาคปรก ขนาดใหญ่ที่สุดในไทย! " วัดคีรีสุบรรพต วัดสามัคคีบุญญาราม (วัดดอย) ถือเป็นอีกหนึ่งวัดที่น่าเที่ยวชม มีความสวยงามโดเด่นของ พระพุทธรูปปางนาคปรกองค์ใหญ่ที่สุดในไทย วัดตั้งอยู่บนเขาสูงดอยพระบาทรายล้อมด้วยธรรมชาติ และยังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ตัวเมืองลำปางได้อย่างสวยงาม "วัดคีรีสุบรรพต หรือวัดสามัคคีบุญญราม" อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองลำปาง สามารถขับรถไปถึงภายในเวลา15 -25นาที โดยใช้เส่นทางสาย ลำปาง-แม่ทะ จากแยกศรีชุมมุ้งหน้าไป มหาวิทยาลัยราชภัฎลำปาง ขับถึงทางรถไฟเลี้ยวซ้ายขับเลาะทางรถไฟไป ผ่านสองหมู่บ้าน บ.หนองห้า-บ.โทกหัวช้าง เข้าสู่หมู่บ้าน"หัวทุ้งสามัคคี" สำหรับประวัดของ พระพุทธรูปปางนาคปรก ปางมหานาคประมาณช่วงฤดูร้อนของปี พ.ศ. ๒๕๔๑ หลวงปู่หลวงได้มีโอกาสไปพักผ่อนภาวนาที่น้ำตกแจ้ซ้อน อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง โดยไปพักอยู่ที่สวนของลูกศิษย์คนหนึ่ง อากาศที่แจ้ซ้อนเย็นสบายมาก วันหนึ่งหลวงปู่บอกว่า “ได้นิมิตว่าเทวดามาบอกให้สร้างพระพุทธรูปปางนาคปรกองค์ใหญ่ โดยเอาเลข ๙ ขึ้นหน้า ให้สร้างไว้บนภูเขาใน จ.ลำปาง เมื่อสร้างเสร็จแล้วเมืองลำปางจะอุดมสมบูรณ์” ด้วยเหตุนี้หลวงปู่หลวง กตปุญโญ จึงมีดำริโครงการที่จะสร้าง “พระพุทธรูปปางนาคปรก” องค์ใหญ่ ขนาดหน้าตักกว้าง ๙.๙๙ เมตร สูง ๒๘ เมตร เพื่อปกป้องคุ้มครอง แล้วนำไปประดิษฐานไว้ ณ วัดคีรีสุบรรพต (วัดสามัคคีบุญญาราม) บ้านทุ่งสามัคคี ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง ปัจจุบัน สำนักสงฆ์คีรีสุบรรพต ได้รับการยกฐานะขึ้นให้เป็นวัดอย่างถูกต้องสมบูรณ์แล้ว ต่อมาวัดคีรีสุบรรพต ได้เปลี่ยนชื่อวัดใหม่โดยมีชื่อทางราชการว่า วัดสามัคคีบุญญาราม เมื่อออกพรรษาในปี พ.ศ. ๒๕๔๑ แล้ว จึงได้ปรับปรุงเตรียมพื้นที่และได้ทำการประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เพื่อทำการก่อสร้างพระพุทธรูปปางนาคปรกองค์ใหญ่ โดยหลวงปู่หลวงได้มอบหมายงานทุกอย่างให้กับ พระเทพวิสุทธิญาณ (ท่านพระอาจารย์ไพบูลย์ สุมงฺคโล) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระปัญญาพิศาลเถร แห่งวัดอนาลโยทิพยาราม ต.สันป่าม่วง อ.เมือง จ.พะเยา เป็นผู้ควบคุมดูแลทั้งในเรื่องการเขียนแบบแปลน การจัดหาช่างมาก่อสร้าง ซึ่งงานนี้เป็นงานที่สำคัญมาก โครงสร้างจะต้องแข็งแรงมั่นคงทำให้คำนวณแบบแปลนยาก กระทั่งเป็นเหตุทำให้งานก่อสร้างได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปลายปี พ.ศ. ๒๕๔๕ นี้เอง ซึ่งการก่อสร้างได้ดำเนินการไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง โดยใช้งบประมาณกว่า ๒๐ ล้านบาทโดยประมาณ ในที่สุดการดำเนินการก่อสร้างก็สำเร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อย และได้มีการจัดงานฉลองสมโภช “พระพุทธรูปปางนาคปรก” องค์นี้ขึ้นเมื่อวันเสาร์-วันอาทิตย์ที่ ๒๔-๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐ เป็นเวลา ๒ วัน ณ วัดคีรีสุบรรพต และ! พระปางนาคปรกนั้นยังเป็นพระประจำวันเกิดวันเสาร์อีกด้วย ----------------------------------- ลักษณะพระพุทธรูป : พระพุทธรูปอยู่ในพระอริยาบถประทับ (นั่ง) ขัดสมาธิ หงายพระหัตถ์ทั้งสองวางซ้อนกันบนพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ขวาซ้อนทับพระหัตถ์ซ้ายเหมือนปางสมาธิ แต่มีพญานาคขนดร่างเป็นวงกลมเป็นพุทธบัลลังก์และแผ่พังพานปกคลุมอยู่เหนือพระเศียร ความเป็นมา เมื่อพระพุทธองค์ตรัสรู้ และประทับบำเพ็ญสมาบัติเสวยวิมุตติสุขอันเกิดจากความพ้นกิเลสอยู่ ณ อาณาบริเวณที่ไม่ไกลจากต้นพระศรีมหาโพธิ์แห่งละ 7 วันนั้น ในสัปดาห์ที่ 3 นี้เอง ก็ได้ไปประทับใต้ต้นมุจลินท์ (ต้นจิก) ขณะนั้นฝนได้ตกลงมาไม่หยุด พญานาคตนหนึ่งชื่อ "มุจลินท์นาคราช" ก็ได้ขึ้นมาแสดงอิทธิฤทธิ์เข้าไปวงขนด 7 รอบ แล้วแผ่พังพานปกพระพุทธเจ้าไว้มิให้ฝนตกต้องพระวรกาย เหมือนกั้นเศวตฉัตรถวายพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยความประสงค์มิให้ฝนและลมหนาวสาดต้องพระวรกาย ทั้งป้องกันเหลือบ ยุง บุ้ง ร่าน ริ้น และสัตว์เลื้อยคลานทั้งมวลด้วย จนฝนหาย จึงได้แปลงร่างเป็นมาณพเข้าไปเฝ้าพระพุทธองค์ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
| เงื่อนไขอื่นๆ |
|
| Tags |
ธัญทิพย์ อมูเลท